Investing.com - ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดเอเชียวันนี้ หลังจากที่กลุ่ม OPEC+ ประกาศว่าจะเลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตที่วางแผนไว้ในเดือนธันวาคมออกไปอย่างน้อยอีกหนึ่งเดือน โดยอ้างถึงแรงกดดันด้านราคาล่าสุดที่ลดลงเนื่องจากความต้องการที่อ่อนแอ
ราคาน้ำมันได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเซสชั่นที่ผ่านมา หลังจากมีรายงานว่ากลุ่ม OPEC+ กำลังพิจารณาการดำเนินการดังกล่าวเนื่องจากแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ลดลง อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับความต้องการที่อ่อนแอและการผลิตที่เพิ่มขึ้นนอกกลุ่ม
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 1.5% มาเป็น 74.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 1.6% เป็น 70.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 09:15 น. (GMT+7)
OPEC+ เลื่อนการเพิ่มการผลิตเดือนธันวาคมออกไป
องค์กรประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร ซึ่งรวมถึงรัสเซีย ได้ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่าจะเลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตที่วางแผนไว้ที่ 180,000 บาร์เรลต่อวันออกไปอย่างน้อยก็อีกหนึ่งเดือน
โดยกลุ่ม OPEC+ เคยวางแผนที่จะเริ่มลดการจำกัดการผลิตที่ล่าสุดอยู่ที่ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันตั้งแต่เดือนธันวาคม
แต่แผนการเพิ่มการผลิตก็ทำให้เกิดความกังวลภายในกลุ่มเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่อ่อนแอ โดยเฉพาะเมื่อราคาน้ำมันลดลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบสามปีเมื่อเดือนกันยายน ซึ่งกลุ่ม OPEC+ ได้ลดการผลิตลงเกือบ 6 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงสองปีที่ผ่านมาเพื่อสนับสนุนราคา
ความอ่อนแอในเศรษฐกิจจีนถือเป็นแรงกดดันที่สำคัญที่สุดสำหรับตลาดน้ำมัน เนื่องจากประเทศดังกล่าวถือเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกที่ขณะนี้กำลังเผชิญกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเป็นเวลานาน การนำเข้าน้ำมันของประเทศก็อ่อนแอลงอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
จับตาการเลือกตั้งสหรัฐฯ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน
ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจาก เงินดอลลาร์ ที่อ่อนค่าลงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ โดยผลสำรวจล่าสุดแสดงให้เห็นว่าโดนัลด์ ทรัมป์และกมลา แฮร์ริสกำลังอยู่ในการแข่งขันที่สูสี
ซึ่งผู้สมัครทั้งสองได้ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันภายในประเทศ ซึ่งขณะนี้มีการผลิตในระดับที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่มากกว่า 13 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ความสนใจของตลาดในสัปดาห์นี้จะยังคงอยู่ที่การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติของจีน ซึ่งคาดว่านโยบายของรัฐบาลจะมีการอนุมัติการใช้จ่ายทางการคลังเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ
รายงานล่าสุดกล่าวว่ารัฐบาลจีนอาจอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากถึง 10 ล้านล้านดอลลาร์ในอีกหลายปีข้างหน้าเพื่อสนับสนุนการเติบโต