ลด 50%! ชนะตลาดในปี 2025 ด้วย InvestingProรับส่วนลด

ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 1.5% หลัง OPEC+ เลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตออกไป

เผยแพร่ 04/11/2567 09:21
© Reuters.
LCO
-
CL
-

Investing.com - ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดเอเชียวันนี้ หลังจากที่กลุ่ม OPEC+ ประกาศว่าจะเลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตที่วางแผนไว้ในเดือนธันวาคมออกไปอย่างน้อยอีกหนึ่งเดือน โดยอ้างถึงแรงกดดันด้านราคาล่าสุดที่ลดลงเนื่องจากความต้องการที่อ่อนแอ

ราคาน้ำมันได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเซสชั่นที่ผ่านมา หลังจากมีรายงานว่ากลุ่ม OPEC+ กำลังพิจารณาการดำเนินการดังกล่าวเนื่องจากแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ลดลง อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับความต้องการที่อ่อนแอและการผลิตที่เพิ่มขึ้นนอกกลุ่ม

น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 1.5% มาเป็น 74.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 1.6% เป็น 70.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 09:15 น. (GMT+7)

OPEC+ เลื่อนการเพิ่มการผลิตเดือนธันวาคมออกไป

องค์กรประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร ซึ่งรวมถึงรัสเซีย ได้ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่าจะเลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตที่วางแผนไว้ที่ 180,000 บาร์เรลต่อวันออกไปอย่างน้อยก็อีกหนึ่งเดือน

โดยกลุ่ม OPEC+ เคยวางแผนที่จะเริ่มลดการจำกัดการผลิตที่ล่าสุดอยู่ที่ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันตั้งแต่เดือนธันวาคม

แต่แผนการเพิ่มการผลิตก็ทำให้เกิดความกังวลภายในกลุ่มเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่อ่อนแอ โดยเฉพาะเมื่อราคาน้ำมันลดลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบสามปีเมื่อเดือนกันยายน ซึ่งกลุ่ม OPEC+ ได้ลดการผลิตลงเกือบ 6 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงสองปีที่ผ่านมาเพื่อสนับสนุนราคา

ความอ่อนแอในเศรษฐกิจจีนถือเป็นแรงกดดันที่สำคัญที่สุดสำหรับตลาดน้ำมัน เนื่องจากประเทศดังกล่าวถือเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกที่ขณะนี้กำลังเผชิญกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเป็นเวลานาน การนำเข้าน้ำมันของประเทศก็อ่อนแอลงอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

จับตาการเลือกตั้งสหรัฐฯ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน

ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจาก เงินดอลลาร์ ที่อ่อนค่าลงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ โดยผลสำรวจล่าสุดแสดงให้เห็นว่าโดนัลด์ ทรัมป์และกมลา แฮร์ริสกำลังอยู่ในการแข่งขันที่สูสี

ซึ่งผู้สมัครทั้งสองได้ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันภายในประเทศ ซึ่งขณะนี้มีการผลิตในระดับที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่มากกว่า 13 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ความสนใจของตลาดในสัปดาห์นี้จะยังคงอยู่ที่การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติของจีน ซึ่งคาดว่านโยบายของรัฐบาลจะมีการอนุมัติการใช้จ่ายทางการคลังเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

รายงานล่าสุดกล่าวว่ารัฐบาลจีนอาจอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากถึง 10 ล้านล้านดอลลาร์ในอีกหลายปีข้างหน้าเพื่อสนับสนุนการเติบโต

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย