InfoQuest - สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (1 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า อิหร่านกำลังเตรียมการที่จะโจมตีตอบโต้อิสราเอลในไม่กี่วันข้างหน้านี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.33% ปิดที่ 69.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.40% ปิดที่ 73.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งสัญญาน้ำมันดิบ WTI และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นมากกว่า 2 ดอลลาร์/บาร์เรลในระหว่างวัน
แต่ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลงราว 3% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลงราว 4%
เมื่อวันพฤหัสบดี เว็บไซต์ข่าวแอกซิออส (Axios) ของสหรัฐฯ รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวชาวอิสราเอลที่ไม่เปิดเผยชื่อสองรายระบุว่า หน่วยข่าวกรองของอิสราเอลเปิดเผยว่า อิหร่านกำลังเตรียมการโจมตีอิสราเอลจากอิรักภายในไม่กี่วันนี้
อิหร่านและอิสราเอลได้ตอบโต้กันด้วยการโจมตีหลายครั้งในสงครามตะวันออกกลางที่เกิดขึ้นจากการสู้รบในกาซา
การโจมตีทางอากาศของอิหร่านต่ออิสราเอลก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 ต.ค.และในเดือนเม.ย.ได้ถูกสกัดไว้ได้เป็นส่วนใหญ่ โดยทำให้เกิดความเสียหายเพียงเล็กน้อย
ข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐบ่งชี้ว่า อิหร่านเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปก (OPEC) และผลิตน้ำมันได้ประมาณ 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) ในปี 2566
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังว่ากลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) อาจเลื่อนการเพิ่มการผลิตน้ำมันที่วางแผนไว้ในเดือนธ.ค.ออกไปหนึ่งเดือนหรือมากกว่านั้น เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับความต้องการน้ำมันที่ซบเซาและอุปทานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจมีการตัดสินใจอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 6-7 พ.ย.นี้ ซึ่งบรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25%
อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยลดต้นทุนการกู้ยืม ซึ่งสามารถกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่มความต้องการน้ำมัน