Investing.com - ราคาทองคำพุ่งขึ้นในเอเชียเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยมีความหวังเรื่องความต้องการในช่วงเทศกาลของอินเดีย และนักลงทุนยังกังวลเรื่องความเสี่ยงทางการเมือง และประกอบกับเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
ทองฟิวเจอร์สสำหรับการส่งมอบในเดือนธันวาคมที่ตลาด Comex ใน New York Mercantile Exchange เพิ่มขึ้น 0.28% เป็น 1,298.83 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ราคาทองคำปรับตัวลดลงในวันอังคารหลังจากที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเพราะข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ และการคาดการณ์ว่าหัวหน้าคนต่อไปของเฟดจะให้ความสำคัญกับนโยบายการเงินเชิงรุกมากขึ้น
ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องที่ระดับต่ำกว่า 1,300 ดอลลาร์ หลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเพราะมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันอังคารว่าราคานำเข้าของสหรัฐในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปี โดยเพิ่มขึ้น 0.7% มากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5%
เฟดกล่าวในเวันอังคารว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมของสหรัฐเดือนก. ย. เพิ่มขึ้น 0.3% เนื่องจากการก่อสร้างและการผลิตสาธารณูปโภคฟื้นตัว หลังจากได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์และอิม่าเมื่อเดือนที่แล้วส่วนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 0.1% ในเดือนก.ย.
ทองอ่อนไหวต่อการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรและดอลลาร์สหรัฐฯ - ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้ทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือเงินตราต่างประเทศ ขณะที่การขึ้นอัตราการของสหรัฐฯเพิ่มค่าเสียโอกาสในการถือครองสินทรัพย์ที่ไม่ได้รับผลตอบแทนเช่นทองคำแท่ง
นอกจากนี้ตามรายงานชี้ให้เห็นว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สนับสนุนนาย จอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์สแตนฟอร์ดในฐานะประธานเฟดคนต่อไป เทย์เลอร์ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้สมัครที่เน้นนโยบายทางการเงินเชิงรุก ซึ่งส่งผลต่อราคาทองคำ
ราคาทองแดงปรับตัวลดลงหลังแตะที่ระดับสูงสุดในรอบสามปีในวันจันทร์ หลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจีนนั้นเป็นผู้บริโภคทองแดงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งคิดเป็นเกือบ 45% ของความต้องการทั่วโลก