Investing.com - ราคาน้ำมันปรับตัวลงในตลาดเอเชียวันนี้ เนื่องจากความเชื่อมั่นต่อการนำเข้าน้ำมันดิบของจีนยังคงไม่ดีขึ้น ขณะที่ตลาดกำลังให้ความสนใจไปที่ข้อมูลการเติบโตและเงินเฟ้อของสหรัฐเพื่อหาสัญญาณเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ตลาดยังคงจับตาความคืบหน้าใด ๆ ก็ตามเกี่ยวกับการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส
ราคายังคงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบสองเดือน เนื่องจากข้อมูลที่แสดงถึงการลดลงของน้ำมันคงคลังสหรัฐได้ให้การผ่อนคลายต่อตลาดน้ำมันแค่เพียงจำกัด ความกลัวเรื่องการหยุดชะงักของอุปทานเนื่องจากไฟป่าในจังหวัดอัลเบอร์ตาของแคนาดาก็ก่อให้การสนับสนุนของราคาได้เพียงช่วงสั้น ๆ
ความกังวลเรื่องอุปสงค์ที่ลดลง รวมกับการคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ของอุปทานเกินดุลในปี 2025 ทำให้นักลงทุนโดยทั่วไปยังคงมีทัศนคติเชิงลบต่อน้ำมัน การลดลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็ยังจำกัดการเข้าซื้อน้ำมันอีกด้วย
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนกันยายนลดลง 0.5% มาเป็น 81.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.6% มาเป็น 76.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 22:01 ET (02:01 GMT)
จับข้อมูล GDP ของสหรัฐและรายงาน PCE
ตลาดยังคงโฟกัสไปที่ข้อมูล GDP ของสหรัฐในวันนี้ โดยตัวเลขจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดเพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติมว่าสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐกำลังเย็นลงหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นข่าวร้ายต่อความต้องการน้ำมัน
ข้อมูล ดัชนีราคา PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดนิยมใช้ก็กำลังจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ และคาดว่าจะมีผลต่อแนวทางของธนาคารกลางต่ออัตราดอกเบี้ย
รายงานดังกล่าวยังประกาศเพียงไม่กี่วันก่อนการประชุมของ ธนาคารกลางสหรัฐ ในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าธนาคารกลางจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ตลาดก็ยังต้องหาสัญญาณใด ๆ เกี่ยวกับแผนการเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนอีกด้วย
ความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์จากจีนยังคงส่งผลกระทบ
ความกังวลเรื่องความต้องการจากจีนยังคงเป็นปัญหา หลังจากที่ผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกรายงานตัวเลขการเติบโตที่น่าผิดหวังในไตรมาสที่สอง อีกทั้งการนำเข้าน้ำมันของจีนก็ยังลดลงในเดือนมิถุนายนอีก
ข้อมูลเหล่านี้ รวมกับสัญญาณเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากปักกิ่งเพียงเล็กน้อย ได้ทำให้ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับจีนถูกจำกัด
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างไม่คาดคิดโดยธนาคารกลางจีนก็ไม่ได้ทำให้ความเชื่อมั่นนั้นดีขึ้นมากนัก
ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ยังทำให้ความเชื่อมั่นต่อนโยบายของจีนสั่นคลอน ท่ามกลางข้อสงสัยว่าการเปลี่ยนแปลงการบริหารของสหรัฐฯ จะส่งผลต่อท่าทีของวอชิงตันต่อปักกิ่งอย่างไร