Investing.com - ราคาทองคำในตลาดเอเชียซื้อขายแบบทรงตัวในวันนี้ หลังถูกกดดันจากการรีบาวด์ของเงินดอลลาร์ ขณะที่โอกาสการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ได้ลดทอนความเชื่อมั่นจากอัตราเงินเฟ้อที่เย็นตัวลง
แม้ว่าราคาทองคำจะมีกำไรเล็กน้อยในสัปดาห์นี้ แต่ก็ยังคงอยู่ห่างจากระดับสูงสุดเป็นอย่างมากเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง
เมื่อเวลา 00:56 ET (04:56 GMT) ทองคำสปอต ขยับขึ้น 0.1% เป็น 2,305.23 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ ทองคำฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนสิงหาคมขยับขึ้น 0.1% เป็น 2,320.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำถูกกดดันจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
ราคาทองคำและโลหะมีค่าโดยรวมปรับตัวลดลงในเซสชั่นล่าสุด หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปี 2024 เทียบกับการคาดการณ์เดิมที่คาดไว้ว่าจะลดถึงสามครั้ง
แม้ว่าทองคำจะมีกำไรเล็กน้อยหลังจากข้อมูลเงินเฟ้อ CPI ที่อ่อนตัวได้กดดันเงินดอลลาร์ แต่ในท้ายที่สุดนักลงทุนก็หันกลับมาหาเงินดอลลาร์ตามการคาดการณ์ของเฟด
ข้อมูลเงินเฟ้อ PPI ที่อ่อนตัวเกินคาดนั้นไม่ได้ทำให้การฟื้นตัวของเงินดอลลาร์ชะลอลง ขณะที่ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดเมื่อต้นสัปดาห์
อัตราดอกเบี้ยที่สูงเป็นเวลานานนั้นถือว่าส่งผลเสียกับทองคำและโลหะอื่น ๆ เนื่องจากทำให้เกิดต้นทุนเสียโอกาสในการลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน
แนวคิดดังกล่าวทำให้โลหะมีค่าอื่น ๆ ซื้อขายอยู่ในกรอบแคบในวันนี้ โดย แพลตตินัมฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.3% เป็น 957.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ แร่เงินฟิวเจอร์ส ปรับลง 0.2% มาเป็น 28.992 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งโลหะทั้งสองก็มีแนวโน้มที่จะยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงในสัปดาห์นี้เช่นกัน
ราคาทองแดงอาจทรงตัวในสัปดาห์นี้หลังความเชื่อมั่นต่อจีนลดลง
ในบรรดาโลหะอุตสาหกรรม ราคาทองแดงปรับขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ แต่ก็มีแนวโน้มที่จะไม่เปลี่ยนแปลงรายสัปดาห์ หลังถูกกดดันจากเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่ง
ทองแดงฟิวเจอร์ส ของ London Metal Exchange เพิ่มขึ้น 0.3% มาเป็น 9,824.0 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่ ทองแดงฟิวเจอร์สอายุหนึ่งเดือน เพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 4.4945 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ความเชื่อมั่นต่อจีนปรับลดลงหลังจากที่สหภาพยุโรปเข้าร่วมกับสหรัฐฯ ในการกำหนดภาษีศุลกากรต่อการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ซึ่งภาษีศุลกากรไม่เพียงแต่สร้างอุปสรรคให้กับอุตสาหกรรมดังกล่าวเท่านั้น แต่ยังเป็นอุปสรรคต่อความต้องการทองแดง เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นผู้บริโภคทองแดงรายใหญ่
นอกจากนี้ ความขัดแย้งทางการค้าที่เพิ่มขึ้นระหว่างกลุ่มประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกยังสร้างความกังวลเกี่ยวกับการเกิดสงครามการค้าขึ้นอีกครั้ง