สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ทะยานขึ้นเกือบ $3 ในวันนี้ มุ่งหน้าสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายนหลังการโจมตีทางการอากาศของสหรัฐฯ ได้คร่าชีวิตนายพลผบ.จากอิรักและอิหร่าน สร้างความหวาดหวั่นว่าความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางอาจส่งผลกระทบทางลบต่ออุปทานน้ำมัน
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ (LCOc1) พุ่งขึ้นทำระดับสูงสุดที่ $69.16 ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน ก่อนที่จะย่อตัวลงมาอยู่ที่ $68.21 ปรับขึ้นมาจากเดิม $1.96 หรือราว 3% เมื่อเวลา 0618 GMT
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเวสท์เท็กซัส (WTI) (CLc1) ขยับขึ้น $1.68 คิดเป็น 2.8% เท่ากับ $62.86 ต่อบาร์เรล โดยก่อนหน้านี้ราคาได้พุ่งขึ้นไปถึง $63.84 ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม
โฆษกประจำกองทัพอิรักได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า การโจมตีทางอากาศที่สนามบินนานาชาติแบกแดดช่วงเช้าวันนี้ได้คร่าชีวิตพลเอกกัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังอิหร่าน Quds Force และผู้นำกองทัพอิรัก นาย Abu Mahdi al-Muhandis ก็เสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
อิรักเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับสองในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปก โดยส่งออกน้ำมันดิบในอัตราราว 3.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากคำแถลงของธนาคารกลางจีนเมื่อวันพุธว่าจะลดอัตราการสำรองเงินสดของธนาคารจีน อันเป็นการเพิ่มสภาพคล่องด้วยเงินมูลค่าถึง 8 แสนล้านหยวน (1.15 แสนล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อหนุนเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัวลง