1. วันของเฟด
เฟดจะเผยแพร่ผลการพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายของปีนี้ในเวลา 14:00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (19:00 GMT)
แต่ผลการพิจารณาครั้งนี้ไม่น่าจะมีเรื่องเหนือความคาดหมาย เนื่องจากคณะสมาชิกเฟดรวมทั้งประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์ เองก็ไม่ได้ส่งสัญญาณบ่งบอกถึงความต้องการในการลดอัตราดอกเบี้ยอีกหลังจากการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม
คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินของ
ในการประชุมครั้งก่อน เฟดเพียงแต่กล่าวว่าไม่น่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก หมายความว่านโยบายทางการเงินในอนาคตน่าจะคงตัวหรือไม่ก็ปรับลง
โดยหลังจากการประกาศผลการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยแล้ว ตลาดจะหันไปให้ความสนใจกับ การแถลงข่าว ของนายเจอโรม เพาเวลล์ ที่จะเริ่มต้นขึ้นในเวลา 14:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก
2. ข้อมูลบ่งชี้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ
ในวันนี้จะมีการรายงานตัวเลขบ่งชี้อัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภคในเวลา 8:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (13:30 GMT)
นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อโดยรวม ที่คำนวณจากดัชนีราคาผู้บริโภคประจำเดือนพฤศจิกายนคาดว่าจะปรับขึ้น 0.2% หลังจากเดือนตุลาคมขยายตัวขึ้น 0.4% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาด้านอาหารและพลังงาน คาดว่าจะยังคงตัวอยู่ที่ 0.2%
ซึ่งจะทำให้การเติบโตของดัชนี CPI เมื่อเทียบปีต่อปีอยู่ที่ 2.0% สูงขึ้นจากก่อนหน้านี้ 1.8% และดัชนี CPI พื้นฐานคงเดิมที่ 2.3%
3. ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ จาก EIA
สำนักงานสารสนเทศพลังงานสหรัฐฯ (EIA) จะรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ รายสัปดาห์ในวันนี้
คาดว่าตัวเลขของ EIA ประจำสัปดาห์ที่แล้วจะลดลงไป 2.76 ล้านบาร์เรล
ช่วงครึ่งหลังของเมื่อวานนี้ สถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกาได้รายงาน ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ที่แล้วที่สูงขึ้น 1.41 ล้านบาร์เรล
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัส ขยับขึ้น 22 เซนต์และปิดที่ $59.24 ต่อบาร์เรล ท่ามกลางความคาดหวังว่าความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-จีนจะคลี่คลายลงและหนุนอุปสงค์น้ำมันโลก