Investment Ideas:
SET ฟื้นตัวในลักษณะ Technical Rebound ตามคาด - SET วานนี้ปิดที่ระดับ 1,580.20 จุด เพิ่มขึ้น 11.44 จุด (+0.73%) มูลค่าการซื้อขาย 59,201 ล้านบาท (สูงสุด 1,584.05 จุด และตําสุด 1,575.29 จุด) SET ฟื้นตัวในลักษณะ Technical Rebound ตามคาด แม้ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนชัดเจน แต่ตลาดกลับมามีความน่าสนใจในเชิงของ Valuation รวมถึงยังได้ Sentiment เชิงบวก จากการที่ คณะกรรมการเฟดบางท่าน ให้ความเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจถอถอยของสหรัฐฯ ยังเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ประกอบกับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ํามันดิบ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เริ่ม ปรับลดลง ทําให้เกิดการลงทุนรอบใหม่ในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาด cryptocurrency และตลาดหุ้น ภาพรวมการลงทุนวันนี้: คาด SET มีโอกาสพักตัว ลุ้นทํา Window dressing หนุนตลาดระยะสั้น
- เราคาด ว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,560-1,590 จุด คาด SET มีโอกาสพักตัว หลังการปรับขึ้นวานนี้ แต่ยัง พอมีปัจจัยหนุนจากการทํา Window Dressing ก่อนปิด 2Q65 รวมไปถึงการฟื้นตัวของราคาน้ํามันดิบ เป็น ปัจจัยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานระยะสั้น จากความกังวลด้านอุปทาน อย่างไรก็ตามเรายังคงให้ติดตามการ รายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญในสัปดาห์นี้ไม่ว่าจะเป็นการรายงานเงินเฟ้อ (PCE) ของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. และเงินเฟ้อ (CPI) เบื้องต้นของยูโรโซน เดือน มิ.ย. รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตของ จีน ญี่ปุ่น ยูโรโซน และสหรัฐฯ และรายงาน GDP ในช่วง 1Q65 ของสหรัฐฯ ที่ยังมีสัญญาณของการเกิด Hard Landing กลยุทธ์การลงทุน เรายังคงแนะนํา Selective หุ้นส่งออกอาหาร หุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า และหุ้นใน Theme การท่องเที่ยว / แนะเก็งกําไรหุ้นกลุ่มพลังงาน ระยะสัน กลยุทธ์การลงทุน หุ้นในพอร์ต 40% เน้นหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ส่งออกอาหาร บาทอ่อน และโรงไฟฟ้า
- กลยุทธ์ การลงทุน เราให้น้ําหนักการลงทุนในหุ้น 40% ของพอร์ต เราปรับพอร์ตหุ้นมาสู่หุ้นที่ Defensive มากขึ้น เลือก หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า ที่ราคาหุ้นยัง Laggard เราเลือก RATCH EGCO CKP GULF GPSC และ BGRIM และหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล เราเลือก BH และ BDMS รวมไปถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น เราเลือก BLA THREL และ TIPH หุ้นใน Theme เปิดเมืองเปิดประเทศ เราเลือก AOT (BK:AOT) BAFS BEM ERW MINT SHR และ VRANDA และหุ้นส่งออกกลุ่มอาหาร เราเลือก Tบ CPF GFPT TFG และ ASIAN ที่ได้ประโยชน์จาก ภาวะขาดแคลนอาหารทั่วโลก และค่าเงินบาทอ่อนค่า ราคาน้ํามันดิบปรับเพิ่ม จากความกังวลต่อภาวะอุปทานตึงตัว แนะเก็งกําไร เลือก PTTEP TOP และ BCP เป็นหุ้นเด่น - สัญญาน้ํามันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดเพิ่มขึ้น 1.95 เหรียญ (41.8%) จากความกังวล เกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ํามันตั้งตัว หลังมีรายงานว่ากลุ่ม G7 จะพัฒนากลไกในการจํากัดราคาน้ํามันรัสเซียเพื่อ กดดันให้รัสเซียขาดแคลนรายได้ที่จะนํามาสนับสนุนการสู้รบในยูเครน รวมไปถึงประเด็นข่าวที่จะมีการระงับ การผลิตน้ํามันในเอกวาดอร์ จากเหตุการณ์ไม่สงบในประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตน้ํามัน รวมไปถึงมีการปิดบ่อน้ํามันดิบในประเทศ อย่างไรก็ตามประเด็นที่เกี่ยวกับราคาน้ํามันดิบ ยังคงต้องติดตาม การประชุม OPEC ในช่วงปลายสัปดาห์ (30 มิ.ย.) เราคาดว่าจะมีมติเพิ่มกําลังผลิต 648,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.ค. และ ส.ค. ระยะสั้นเรามองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน เลือก PTTEP TOP และ BCP เป็น หุ้นเด่น
สัปดาห์นี้ติดตามรายงาน PMI ของจีน รวมไปถึงรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ (PCE) - 28 มิ.ย. : ECB - ถ้อยแถลง ของนางคริสตีน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) / สหรัฐ - รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค จากซีบี (CB Consumer Confidence) เดือน มิ.ย. (คาด 10g.9 จุด) // 29 มิ.ย. : สหรัฐ - รายงาน GDP ในช่วง 1Q65 (คาด -1.59%QoQ) และรายงานปริมาณสํารองน้ํามันดิบสหรัฐฯ/ ถ้อยแถลงของประธานนาย เจอร์โรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางของสหรัฐฯ (เฟด) นางคริสตีน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลาง ยุโรป (ECB) และ แอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งอังกฤษ (BoE)/ 30 มิ.ย. : จีน - ดัชนี PMI ภาค การผลิตของจีน เดือน มิ.ย. (คาด 48.6 จุด ลดลงจากเดือน พ.ค. ที่ 49.6 จุด) / อังกฤษ - รายงาน GDP ในช่วง 1Q65 (คาดเพิ่มขึ้น 0.89%QoQ และเพิ่มขึ้น 8.7%YoY)/ สหรัฐฯ - จํานวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการ ว่างงานครั้งแรก (คาดเพิ่มขึ้น 2.27 แสนราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อนที่2.29 แสนราย) / สหรัฐฯ : ดัชนีราคา ด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) เดือน พ.ค. (คาดเพิ่มขึ้น 0.4%MoM และเพิ่มขึ้น 4.89%YoY ลดลงจากเดือน เม.ย. ที่ 4.9%YoY) รวมไปถึงการประชุม OPEC+// 1 มิ.ย. : อังกฤษ - ดัชนี PMI ภาคการ ผลิต เดือน มิ.ย. (คาด 53.4 จุด เท่ากับเดือน พ.ค.) / EU - ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน มิ.ย. (คาดอยู่ที่ 8.3%YoY เพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ค. ที่ 8.1%YoY) / สหรัฐฯ - ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) เดือน มิ.ย. (คาด 55.0 จุด ลดลงจากเดือน พ.ค. ที่ 56.1 จุด)
ปัจจัยทางเทคนิค - หุ้นแนะนํา ได้แก่ 6 MBK (แนวต้าน 15.8-16.2/ แนวรับ 15.1-14.8/Stop loss 14.2) G GGC (แนวต้าน 15.2-15.6/ แนวรับ 14.8-14.6/Stop loss 14.1) TOP (แนวต้าน 52.0053.25 / แนวรับ 50.25-49.50 / Stop loss 47.25)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities