Cyber Monday Deal: ลดสูงสุด 60% InvestingProรับส่วนลด

2 ธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตด้วยนวัตกรรม

เผยแพร่ 08/01/2564 19:13
อัพเดท 09/07/2566 17:32

นวัตกรรมถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีส่วนขับเคลื่อนอย่างมีนัยสำคัญกับเศรษฐกิจทั่วโลก ในวันนี้เราจะมีดูบริษัทในกลุ่มเคมีภัณฑ์ของสหราชอาณาจักรที่พึ่งพาเทคโนโลยีเป็นอย่างมากในขั้นตอนกระบวนการผลิต ความสำเร็จและการเติบโตมาจนถึงปัจจุบันเป็นสิ่งยืนยันอยู่แล้วว่าหุ้นของบริษัทเหล่านี้สามารถสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้ สองหุ้นที่เราจะแนะนำในวันนี้สังกัดอยู่บนดัชนีที่วัดผลการดำเนินงานของ 102 หลักทรัพย์ของบริษัทขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน FTSE 100 มีชื่อว่า Croda International (LON:CRDA) (OTC:COIHY) และ Johnson Matthey (LON:JMAT) (OTC:JMPLY)

1. Croda International

บริษัทผู้ผลิตเทคโนโลยีชีวภาพและเภสัชกรรมมาตั้งแต่ปี 1925 ให้กับลูกค้าในวงกว้างอย่างเช่นกลุ่มผู้ผลิตสารเคมีทางการเกษตร พลังงานทางเลือก ยานยนต์ ความสวยความงาม ก่อสร้าง ไฟฟ้า ทำบรรจุภัณฑ์ ฯลฯ พึ่งตกลงที่จะเข้าซื้อบริษัทผู้ผลิตน้ำหอมจากสเปนนาม “Iberchem” เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในปี 2020 หุ้นของบริษัท Croda สามารถให้ผลตอบแทนกลับคืนมามากถึง 30% มีราคาปิดล่าสุดในวันที่ 7 มกราคมอยู่ที่ $45.5 มีอัตราการปันผลอยู่ที่ประมาณ 1.5%

หุ้นของบริษัท Croda

 

 อ้างอิงจากข้อมูลผลประกอบการของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 พบว่าบริษัทสามารถทำกำไรได้ $1,231 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวลดลง 6% แบบปีต่อปี มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (PBT) อยู่ที่ $205 ล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดอยู่ที่ $108.3 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งถือว่าลดลง 15% แบบปีต่อปี

นายสตีฟ ฟุตต์ CEO ของบริษัทกล่าวว่า

“บริษัทยังสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ตามปกติเพราะเรายังมีบัญชีงบดุลที่ดีและมีสภาพคล่องสูง บริษัทยังมีเงินมากพอที่จะนำไปลงทุนกับเทคโนโลยีออร์แกนิกในอนาคตรวมถึงการลงทุนกับเทคโนโลยีมูลค่าสูงเพื่อเพิ่มความสามารถในการเติบโตให้กับบริษัทได้ ถึงสถานการณ์โลกในตอนนี้จะผันผวน แต่เราก็ยังเชื่อมั่นในกลยุทธ์และยังคงมุ่งเน้นไปที่อนาคต เราเชื่อว่าบริษัทจะสามารถเติบโตไปพร้อมๆ กับการสร้างกำไรได้ทั้งในตอนนี้และอนาคตภายหน้า”

หุ้นของ Croda ถูกประเมินอัตราส่วนทางการเงินที่เทียบกันระหว่างราคาหารด้วยกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) และอัตราส่วนราคาต่อยอดขาย (P/S) อยู่ที่ 32.36 และ 6.43 ตามลำดับ แม้ว่าส่วนตัวแล้วเราจะชอบบริษัทนี้ แต่ด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่ เราจึงอยากจะรอให้ราคาดีกลับขึ้นประมาณ 5%-7% จากราคา ณ ปัจจุบันก่อน ที่สำคัญนักลงทุนควรจะรอดูการรายงานตัวเลขบัญชีการค้าภายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ก่อนด้วย

2. Johnson Matthey

หากต้องเลือกรถยนต์สักคันในยุคนี้ คุณจะพิจารณาปัจจัยอะไรบ้าง? เชื่อว่าส่วนใหญ่จะต้องเริ่มพิจารณาโดยมีเรื่องของความสามารถในการควบคุมมลพิษเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย คุณผู้อ่านอาจจะอยากรู้ว่าทุกวันนี้หนึ่งในสามของรถยนต์ยุคใหม่จะมีความสามารถในการควบคุมมลพิษได้ดีแค่ไหน หากพูดถึงเรื่องนี้ก็ต้องนึกถึงบริษัทที่เริ่มต้นลงทุนเกี่ยวกับการผลิตรถยนต์ที่สามารถควบคุมมลพิษได้มาตั้งแต่ปี 1974 นั่นก็คือ Johnson Matthey ในตอนนี้พวกเขากำลังลงทุนกับเทคโนโลยีเพื่อผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง

Johnson Matthey

อ้างอิงจากข้อมูลผลประกอบการของบริษัทในช่วงครึ่งปีที่นับมาจนถึงวันที่ 30 กันยายนปี 2020 พบว่าบริษัทจอห์นสันสามารถทำกำไรได้ $9,421 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับขึ้นแบบปีต่อปี 2% อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (PBT) พบว่ามีตัวเลขอยู่ที่ $35.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 88% แบบปีต่อปี สะท้อนให้เห็นว่าวิกฤตโรคระบาดส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ

นายโรเบิร์ต แมคลีออด CEO ของบริษัทกล่าวว่า

“นับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กิจกรรมในภาคการผลิตรถยนต์โดยเฉพาะรถยนต์พลังงานทางเลือกก็เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เราเชื่อว่าการเติบโตในช่วงครึ่งปีหลังจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรกอย่างมีนัยสำคัญ แต่เพราะการฟื้นตัวในตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนมากนัก เราจึงไม่อาจให้ข้อมูลการเติบโตที่แน่นอนได้จนกว่าจะถึงวันสิ้นสุดครึ่งปีหลังของบริษัทในวันที่ 31 มีนาคม 2021”

หุ้นของจอห์นสันถูกประเมินอัตราส่วนทางการเงินที่เทียบกันระหว่างราคาหารด้วยกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) และอัตราส่วนราคาต่อยอดขาย (P/S) อยู่ที่ 11.44 และ 0.33 ตามลำดับ ในระยะยาวหุ้นของบริษัทนี้ยังถือว่าน่าลงทุน เมื่อใดก็ตามที่เห็นราคาหุ้นย่อลงมาก็อย่าลืมซื้อหุ้นของจอห์นสันติดพอร์ตเอาไว้ด้วย

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย