บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BK:BTS) รายงานกำไรประจำปี FY20 ที่ 8.16 พันล้านบาท (+84% YoY) โดยมีกำไรปกติที่ 3.7 พันล้านบาท (+42% YoY)
ปัจจัยลบในระยะสั้นยังมีอยู่ค่อนข้างมากเช่น ผลการดำเนินงานที่ขาดทุนรุนแรงของ U City การชะลอตัวของ VGI และ BTSGIF
แต่บริษัทก็ยังมีปัจจัยบวกในอนาคตอีกมากเช่นกัน
คงคำแนะนำ “ถือ” บนราคาเป้าหมาย 12 บาท ระยะสั้นจะต้องเผชิญแรงกดดันจากผลการดำเนินงานของธุรกิจอื่นๆ แต่บริษัทยังมีแนวโน้มดีในระยะยาว
กำไรในปี FY20 ออกมาดูดี
BTS มีรายได้ 3.5 หมื่นล้านบาท (-21% YoY) และมีกำไรประจำปี FY21 ที่ 8.16 พันล้านบาท (+84% YoY) โดยมีกำไรปกติที่ 3.7 พันล้านบาท (+42% YoY) ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
รายได้ที่ลดลง YoY เกิดจาก การรับรู้รายได้งานที่เกี่ยวข้องกับงานระบบและจัดหารถไฟฟ้าสายสีเขียวและการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองที่ลดลง รายได้จากการให้บริการเดินรถเติบโตอย่างแข็งแกร่ง 65% YoY เป็น 3.8 พันล้านบาท เติบโตจากการเปิดให้บริการสถานีส่วนต่อขยาย
บริษัทมีกำไรพิเศษราว 3.4 พันล้านบาท จาก การขายที่ดินหมอชิตของ U City และขายที่ดินของ Bayswater
ธุรกิจสื่อโฆษณาผ่าน VGI ยังคงเติบโตได้ดี จากการขยายธุรกิจสื่อโฆษณาด้านออนไลน์(อ่านบทวิเคราะห์เพิ่มเติมได้ที่ VGI วันที่ 1 มิ.ย. 20)
ปัจจัยลบเยอะ ปัจจัยบวกก็เยอะ
ในระยะสั้นเรายังกังวลปัจจัยลบในระยะสั้นของ BTS โดยเฉพาะช่วง 1QFY21 ซึ่งมีสาเหตุจาก
1) ผลการดำเนินงานที่จะชะลอตัวรุนแรงของ VGI จากเม็ดเงินโฆษณาที่หายไป
2) การขาดทุนรุนแรงของ U City (บริษัทขาดทุนราว 800 ล้านบาทในช่วง 4QFY20) ที่คาดว่าจะขาดทุนมากกว่าไตรมาสดังกล่าว เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 3) ผลการดำเนินงานที่สะดุดจากจำนวนผู้ใช้รถไฟฟ้าที่ลดลงรุนแรงผ่าน BTSGIF
อย่างไรก็ตาม ในระยะกลาง-ยาว บริษัทจะยังมีปัจจัยบวกเข้ามาช่วยหนุนผลการดำเนินงาน ได้แก่ 1) การเปิดให้บริการเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเต็มเส้นภายในปีนี้ 2) โอกาสการเจรจาสัญญาสัมปทานกับกทม. 3) การเปิดบริการมอเตอร์เวย์ 4) การบริหารสนามบินอู่ตะเภา
คงคำแนะนำ “ถือ” บนราคาเป้าหมาย 12 บาท
เรามองว่าในระยะสั้น ราคาหุ้นของบริษัทจะถูกกดดันจากผลการดำเนินงานที่ชะลอตัวรุนแรงใน 1QFY21 นี้ทำให้เรายังเชื่อว่า upside ในระยะสั้นยังจำกัด แต่อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว บริษัทยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี หากสถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้นเป็นลำดับ เนื่องจากธุรกิจรถไฟฟ้าและสื่อโฆษณาของบริษัทมีความแข็งแกร่ง และยังมีปัจจัยบวกในอนาคตอีกมาก เราจึงยังคงนำแนะนำ “ถือ” ที่ราคาเป้าหมาย 12 บาท
ความเสี่ยง ความล่าช้าของการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ เม็ดเงินโฆษณามีการชะลอตัว
การเจรจาเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวไม่ได้เป็นประโยชน์กับ BTS
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities