ศบค. เคาะคลายล็อกเฟส 2 เปิดห้าง-ลดเวลาเคอร์ฟิว เริ่ม 17พ.ค.
จากการประชุม ศบค.วันที่ 15 พ.ค. 2563 มีมติเห็นชอบผ่อนปรนกิจการ-กิจกรรมระยะที่ 2 รวมถึงการผ่อนคลายการประกาศห้ามออกนอกเคหสถาน(เคอร์ฟิว) จากเดิมเวลา 22.00 – 04.00 น. เป็น 23.00 – 04.00น. ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 17 พ.ค. 2563 นี้ สำหรับกิจการ-กิจกรรมที่จะผ่อนคลายในระยะที่ 2 จำนวน 3 กลุ่มกิจการ-กิจกรรม 10 ธุรกิจ ดังนี้ กลุ่มที่ 1
กลุ่มกิจการ/กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตประจำวัน ได้แก่
กลุ่ม ก. การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในภัตตาคารสวนอาหาร ศูนย์อาหาร โรงอาหาร ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่มขนมหวานและไอศกรีม ในอาคารสำนักงาน
กลุ่ม ข. ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ยกเว้นโรงภาพยนตร์ ฟิตเนส โบว์ลิ่ง สวนสนุก สวนน้ำศูนย์ประชุม ศูนย์พระเครื่อง พระบูชา สนามพระเครื่อง
กลุ่ม ค. ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่งอื่น ๆ
กลุ่ม ง. ร้านเสริมสวย (ย้อมผม ตัดผม หรือกิจกรรมอื่นๆบริการไม่เกิน 2 ชั่วโมง) และทำเล็บ
กลุ่มที่ 2 กิจกรรมด้านออกกำลังกายหรือการดูแลสุขภาพ ได้แก่
กลุ่ม ก. คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงามควบคุมน้ำหนัก
กลุ่ม ข. สนามกีฬาเฉพาะกีฬาประเภทกลางแจ้งและตามกติกาสากลเล่นเป็นทีม แต่ไม่มีผู้ชม
กลุ่ม ค. สวนดอกไม้ สวนพฤกษศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ แกเลอรี่ ห้องสมุดสาธารณะ (เข้าเป็นรายคน)
กลุ่ม ง. สถานประกอบการนวดแผนไทย (เฉพาะนวดเท้า)
กลุ่มที่ 3 กลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ การประชุม ณสถานที่ภายในหรือภายนอกองค์กรลักษณะการบรรยายร่วมกับวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ จำกัดจำนวนคนตามพื้นที่ ทีมถ่ายทำรายการโทรทัศน์ โฆษณา ถ่ายแบบ ทำคลิป
ผลกระทบและความคิดเห็น
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มค้าปลีกสำหรับการคลายล็อกระยะ 2 นี้ โดยในรอบนี้ห้างสรรพสินค้าสามารถกลับมาเปิดดำเนินการได้โดยมีการจำกัดเวลาทำการ 10.00-20.00 น.
เป็นข่าวดีของกลุ่ม Consumer Discretionary เช่น HMPRO และ CRC ซึ่งเป็นกลุ่มที่รับผลกระทบหนักจากการปิดสาขา เนื่องจากเข้าข่ายจำหน่ายสินค้าที่ไม่จำเป็นในช่วงก่อนหน้า
แม้คาดไตรมาส 2/2563 เป็นจุดต่ำสุดของปีสำหรับกลุ่มค้าปลีกทั้ง Consumer Staples อย่าง MAKRO CPALL (BK:CPALL) BJC และDiscretionary อย่าง HMPRO CRC ทั้งนี้การคลายล็อกทำให้เห็นโอกาสของการฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีของทั้งกลุ่มมากขึ้นโดยทางห้างสรรพสินค้าได้มีนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อรองรับการกลับมาเปิดดำเนินการ เช่นช่องทางชำระเงินแบบ e-wallet การวัดอุณหภูมิก่อนเข้าพื้นที่กฎการใส่หน้ากากอนามัย บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือรวมไปถึงการเว้นระยะห่าง จำกัดจำนวนลูกค้าต่อพื้นที่ เป็นต้น
เราเลือก BJC (Buy, TP 45.20Bt/Share) เป็น Top Pick ในกลุ่มค้าปลีก จากมุมมองธุรกิจบรรจุภัณฑ์ อุปโภคบริโภค ที่ยังคงมีความต้องการผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอย่างต่อเนื่องและธุรกิจค้าปลีก (บิ๊กซี) มีแนวโน้มดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี2563 ระดับForward PE เพียง 19 เท่าต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่ปัจจุบันสูงกว่า 25 เท่า ราคาปัจจุบันมี
Upside มากกว่า 21%
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities