เย็นวันนี้ BTSGIF จะมีการประกาศ NAV (เป็นประกาศทุกครั้งเป็นรายไตรมาส) แต่การประกาศในครั้งนี้ บริษัทจะมีการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ยุติธรรมใหม่อีกด้วย (ปกติจะมีการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ยุติธรรมทุกสองปี) เนื่องจากในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลต่อการประเมินมูลค่าสินทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญ
ผลกระทบต่อบริษัท
เป็นที่แน่นอนว่าการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ยุติธรรมใหม่ในครั้งนี้จะเป็นการปรับมูลค่าสินทรัพย์ลดลงอีกครั้งจากผลกระทบของ COVID-19 ต่อทั้งตัวเลขผู้โดยสารและการเติบโตของ GDP ในอนาคต ซึ่งจะทำให้มูลค่า NAV ลดลงอย่างรุนแรงอีกครั้ง
การประเมินมูลค่าสินทรัพย์ยุติธรรมครั้งล่าสุดเกิดอะไรขึ้นบ้าง ?
BTSGIF ได้มีการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ยุติธรรมลงจาก 6.4 หมื่นล้านบาทเป็น 5.9 หมื่นล้านบาท ในช่วงเดือน มี.ค. 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการปรับลดที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่ BTSGIF ได้จัดตั้งกองทุนขึ้นมา และทำให้บริษัทมีการบันทึกส่วนขาดทุนจากการปรับมูลค่ายุติธรรมในงบกำไร-ขาดทุนถึง 5.3 พันล้านบาท (ส่งผลให้บริษัทมีผลการดำเนินงานขาดทุนในปี FY20) และทำให้ราคาหุ้นตอบรับเชิงลบในวันรุ่งขึ้นทันที โดยลดลงถึง 18% ภายในสองวัน
สาเหตุในการปรับลดในครั้งก่อนหน้านี้เกิดจาก 1) การปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP 2) ความล่าช้าของโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายบางหว้า-ตลิ่งชัน และการยกเลิกโครงการส่วนต่อขยายสนามกีฬาแห่งชาติ-ยศเส เป็นต้น (อ่านข้อมูลการปรับประมาณการครั้งก่อนหน้านี้ได้จากตารางในหน้าถัดไป)
การประเมินมูลค่าสินทรัพย์ยุติธรรมครั้งนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ?
เราเชื่อว่าสาเหตุการปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ยุติธรรมในครั้งนี้จะเกิดจาก 1) จำนวนผู้โดยสารที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากผลกระทบของ COVID-19 (เราคาดว่าจำนวนผู้โดยสารในปี FY21 นี้จะลดลงราว 30%) 2) การเติบโตของ GDP ที่น่าจะต่ำกว่าที่บริษัทเคยประเมินไว้ 3) ความล่าช้าของโครงการสถานีรางคู่สะพานตากสิน 4) ความล่าช้าของโครงการส่วนต่อขยายบางหว้า-ตลิ่งชัน 5) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI Index) เป็นต้น
แนะนำหลีกเลี่ยงในระยะสั้น
การประเมินมูลค่าสินทรัพย์ยุติธรรมใหม่ในครั้งนี้ แน่นอนว่าจะเป็นการปรับลดลงและทำให้ NAV ของ BTSGIF ลดลงอย่างมีนัยสำคัญอย่างแน่นอน (ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าสินทรัพย์ยุติธรรมที่ 5.8 หมื่นล้านบาท) เราคาดว่าบริษัทจะมีการปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ยุติธรรมลงอยู่ในระดับ 5.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งน่าจะทำให้ราคาของ BTSGIF ตอบรับในเชิงลบในเช้าวันพรุ่งนี้ได้ ดังนั้นเรามองว่าปัจจุบันถือว่าเป็นความเสี่ยง นักลงทุนควรหลีกเลี่ยงการลงทุนไปก่อนจนกว่าจะเห็น NAV ที่แท้จริงอีกครั้งในวันพรุ่งนี้
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities