แนวโน้มกำไรปกติ 1Q63 เติบโต QoQ สูงถึง3 digits
คาดรายได้ใน 1Q63 ที่ 10,571 ลบ. เติบโต 20.5%QoQ เนื่องจากเริ่มเข้าสู่หน้าร้อนซึ่งช่วยหนุนอัตราการใช้ไฟให้มากขึ้น และเติบโต 5.8%YoY จากการ
1) เริ่มรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการ Collinsville ขนาด 43 MWe ซึ่ง COD ไปเมื่อเดือน มี.ค. 62 และ
2) รับรู้รายได้โรงไฟฟ้าราชโคเจนเนอเรชั่น ขนาด 119 Mwe ซึ่งเข้าลงทุนไปในเดือน ต.ค. 62 ทำให้ GPM เพิ่มขึ้นเป็น 16.2% ใน 1Q63 จาก 10.2% ใน 4Q62 และ 15.9% ใน 1Q62
ด้าน SG&A/Sales คาดที่ 3.6% ใน 1Q63 ลดลงจาก 4.6% ใน 4Q62 เนื่องจาก Capacity factor สูงขึ้นในช่วงอัตราการใช้ไฟที่สูงในไตรมาส 1 และเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 3.4% ใน 1Q62 เนื่องจากการ COD โครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ขณะที่ส่วนแบ่งทางกำไรใน 1Q63 คาดที่ 1,095ลบ. (+142.7%QoQ, +1.2%YoY) แม้จะถูกกดดันจากภาวะภัยแล้งและเป็นช่วง Low season ของโรงไฟฟ้า พลังงานน้ำในประเทศลาวซึ่งจะกระทบส่วนแบ่งทางกำไรของโรงไฟฟ้า NN2 แต่ได้รับแรงหนุนจาก 1) โรงไฟฟ้าหงสากลับมาดำเนินการปกติหลังจากได้รับผลกระทบแผ่นดินไหวในประเทศลาวใน 4Q62 2) รับรู้รายได้โรงไฟฟ้าเบิกไพรโคเจนเนอเรชั่น ขนาด 35 MWe ซึ่ง COD ไปเมื่อเดือน มิ.ย. 62 และ 3) เริ่มรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ โครงการ Xe – Pian Xe - Namnoy ขนาด 103 MWe ซึ่ง COD ไปเมื่อเดือน ธ.ค.62 ส่งผลให้กำไรปกติใน 1Q63 คาดที่ 1,756 ลบ. (+319.8%QoQ, +3.1%YoY)
เข้าสู่ช่วง High season ในช่วงไตรมำส 2
แนวโน้มกำไรปกติใน 2Q63 คาดเติบโต QoQ เนื่องจากเป็นช่วงหน้าร้อนทำให้อัตราการใช้ไฟในประเทศสูงขึ้น และเติบโต YoY จากการ 1) รับรู้รายได้โรงไฟฟ้าเบิกไพรโคเจนเนอเรชั่น ขนาด 35 MWe ซึ่ง COD ใน เดือน มิ.ย. 62 2) รับรู้รายได้โรงไฟฟ้าราชโคเจนเนอเรชั่น ขนาด 119 MWe หลังจากการลงทุนในเดือน ต.ค. 62 และ 3) รับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ โครงการ Xe – Pian Xe - Namnoy ขนาด 103 MWe ซึ่ง COD ในเดือน ธ.ค. 62
คงคำแนะนำ ซื้อ ... ได้รับผลกระทบจำก COVID – 19 อย่างจำกัด
แนวโน้มกำไรปกติปี 2563 คาดที่ 6,092 ลบ. (+4.6%YoY) โดยมีส่วนแบ่งทางกำไรคาดที่ 4,503 ลบ. (+13.5%YoY) จากการกลับมาดำเนินงานปกติของโรงไฟฟ้าหงสา ประเทศลาว ขนาด 751 MW ภายหลังจากการปิดซ่อมแซมของโรงไฟฟ้าหงสาซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวใน 4Q62 และรับรู้รายได้เต็มปี จากโรงไฟฟ้าราชโคเจนเนอเรชั่น ขนาด 119 MWe, โรงไฟฟ้าเบิกไพรโคเจนเนอเรชั่น ขนาด 35 MWe และ โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ Xe – Pian Xe - Namnoy ขนาด 103 MWe (รวม 257 MWe) นอกจากนี้ยังมีอีก 2 โครงการที่จะเริ่มรับรู้รายได้ในเดือน ก.ย. 63 คือ โรงไฟฟ้าพลังงานลมยานดิน ขนาด 150 MWe และโรงไฟฟ้านวนคร ส่วนขยาย ขนาด 24 MWe (รวม 174 MWe) เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ ราคาเหมาะสมปี 2563 ที่ 72.00 บาทต่อหุ้น (DCF, WACC 5.2%) มี Upside gain 13.8% พร้อม คาดเงินปันผลทั้งปี 2563 ที่ 2.45 บาทต่อหุ้น (Yield 3.9%) ปัจจุบันซื้อขาย PER63 เพียง 15.1x และประมาณการมี Upside จากโรงไฟฟ้าหินกอง ขนาด 714 MWe, โรงไฟฟ้า Nexif ขนาด 45 MWe และ โรงไฟฟ้าในจังหวัดนครราชสีมา ขนาด 16 MWe (รวม 775 MWe) และการเข้าลงทุนสาธารณูปโภคอื่นๆ อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสีเหลือและสีชมพู
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities