สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงดุเดือดโดยมีรายงานว่าจีนเริ่ม ขู่ที่จะยกเลิกการส่งออก แร่แรร์เอิร์ธเพื่อเป็นการตอบโต้ที่สหรัฐฯ ไม่ยอมให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่างหัวเหว่ยซื้อผลิตภัณฑ์จำเป็นอย่างเช่นชิพคอมพิวเตอร์จากสหรัฐฯ ซึ่งแร่ดังกล่าวเป็นวัตถุดิบที่มีความสำคัญสำหรับการผลิตชิพคอมพิวเตอร์
สำหรับนักลงทุนที่สนใจเล่นกับข่าวนี้ ยังมี ETF อยู่ตัวหนึ่งที่น่าจะทำกำไรได้ก็คือ VanEck Vectors Rare Earth/Strategic Metals (NYSE:REMX) ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นถึง 15% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ดิ่งลงไปต่ำสุดในเดือนธันวาคม แต่ก็ยังถือว่าอยู่เหนือราคาต่ำสุดในปี 2016 ซึ่งเป็นช่วงที่ตกต่ำที่สุดอยู่ถึง 6% ที่น่าสนใจก็คือ ในระหว่างที่ข่าวนี้แพร่สะพัดเมื่อวานนี้ ราคาของ ETF ตัวนี้กลับเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จากที่เคยดิ่งลงไปอยู่ในระดับต่ำสุดในวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา
นี่คือตัวอย่างสุดคลาสสิกตัวอย่างหนึ่งของการลงทุนตามข่าวลือ คำถามต่อไปคือเมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดไปยังสื่อต่างๆ ทั่วโลกเช่นนี้แล้วจะเกิดการเทขายตามมาหรือไม่ คำตอบคือยังไม่แน่
ราคาของกองทุนนี้กระโดดไปอยู่เหนือเส้น 50 และ 100 DMA ในขณะที่เส้น 50 DMA ในตอนนี้มีแนวรับอยู่เหนือเส้น 100 DMA ซึ่งไปปิดตลาดได้สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 24 เมษายนเป็นต้นมา โดยมีราคาปิดอยู่ที่ $15.34 เท่ากัน อย่างไรก็ตาม หากราคาผ่านเส้น $16.54 ไปได้ ราคาสูงสุดของเดือนกุมภาพันธ์และเมษายนก็จะทำรูปแบบ neckline ของ double bottom ได้
ระดับราคาที่สำคัญอยู่ที่เส้น 200 DMA สีแดงที่ $16.59 เพียง 5 เซ็นต์เหนือระดับ neckline
เส้น RSI กำลังจะเกิดการทะลุแนวต้านและเริ่มกลับตัวเป็นขาลง เป็นการแสดงว่าราคาน่าจะเป็นไปตามโมเมนตัมและทะลุกรอบไปได้ ส่วน MACD ก็ส่งสัญญาณซื้อแล้วด้วยการที่เส้น MA ระยะสั้นปีนอยู่เหนือเส้นระดับศูนย์ก่อนหน้าเส้น MA ระยะยาว
กลยุทธ์การซื้อขาย
นักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง ควรรอให้ราคาขึ้นไปปิดเหนือระดับ neckline โดยอย่างน้อยให้มีการทะลุไปเกิน 3% อย่างน้อยเป็นเวลา 3 วัน โดยอาจนับรวมช่วงวันสุดสัปดาห์ไปด้วยก็ได้เพื่อป้องกันสัญญาณหลอกขาขึ้น จากนั้นรอให้มีโมเมนตัมของการกลับตัวไปทดสอบที่แนวรับในระดับ neckline อีกครั้ง โดยสังเกตจากแท่งเทียนสีเขียวที่ยาวกว่าแท่งสีแดงหรือแท่งเล็กๆ สีใดก็ได้
ตัวอย่างการซื้อขาย
- ราคาเข้า: $17.00 หลังจากที่ราคาพุ่งขึ้นทะลุกรอบแนวต้านไปแล้ว 3% ในครั้งแรกเพื่อดูแนวรับจากการพุ่งขึ้นในครั้งที่สอง
- Stop-Loss: $16.00 ซึ่งเป็นตัวเลขแบบปัดเศษที่ต่ำกว่าระดับ neckline เผื่อการขยับของราคา
- ความเสี่ยง: $1.00
- เป้าหมาย: $20.00 ซึ่งเป็นตัวเลขทางจิตวิทยาแบบปัดเศษและมีเป้าหมายตามรูปแบบ double bottom ที่มีความเสี่ยงต่ำ
- ผลตอบแทน: $3
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:3
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง อาจรอให้ราคาทะลุกรอบไป 2% เป็นเวลา 2 วัน เพื่อให้แน่ใจระดับหนึ่งว่าจะไม่เกิดสัญญาณหลอก จากนั้นจึงรอดูสัญญาณกลับตัวเพื่อลดความเสี่ยง แต่ไม่จำเป็นต้องรอให้มีการทดสอบซ้ำก็ได้
ตัวอย่างการซื้อขาย
- ราคาเข้า: $16.75 เมื่อขึ้นไปไปแตะได้อย่างน้อยที่ $16.85 เพื่อให้ทะลุกรอบไป 2% ก่อน
- Stop-Loss: $16.25 ที่ต่ำกว่าระดับ neckline.
- ความเสี่ยง: $0.50
- เป้าหมาย: $19.25 ซึ่งอยู่ต่ำกว่าราคาสูงสุดในเดือนพฤศจิกายนและต่ำกว่าตัวเลขทางจิตวิทยาแบบปัดเศษที่ $20
- ผลตอบแทน: $2.50
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:5
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง อาจพิจารณาเปิด long เมื่อเห็นว่าราคาทะลุขึ้นไปอย่างน้อย 1% เป็นเวลา 1 วัน เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ใช่สัญญาณหลอก
ตัวอย่างการซื้อขาย
- ราคาเข้า: $16.70
- Stop-Loss: $16.50
- ความเสี่ยง: $0.20
- เป้าหมาย: $18.70 ซึ่งต่ำกว่าราคาสูงสุดของเดือนธันวาคม
- ผลตอบแทน: $2.00
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:10