หากไม่นับรวมมูลค่าการซื้อขายที่เข้ามาช่วงท้ายตลาด ซึ่งเกิดจาก MSCI REBALANCE มูลค่าการซื้อขายของเราจะเหลือราว 3.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับระดับ 70% TURNOVER ซึ่งเทียบได้กับ มูลค่าการซื้อขายราว 5.1 หมื่นล้านบาท ภาวะที่มูลค่าการซื้อขายที่เบา บางทำให้ไม่มีน้ำหนักในการขับเคลื่อนตลาด และจะทำให้เกิดการ TRADING ลักษณะของ STOCK ROTATION ที่ถี่มากขึ้นถือเป็นการเพิ่ม ความเสี่ยงในการลงทุน ส่วนในทางของปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐาน วันนี้มี ประเด็นเรื่องราคาน้ำมันที่กลับมาอ่อนตัวลง บนความคาดหวังว่าเริ่มเห็น ทางออกในการเจรจาหยุดยิงของอิสราเอล กับ อิซบอลเลาะห์ ซึ่งอาจจะ สร้างแรงกดดันต่อหุ้นในกลุ่มน้ำมัน ขณะที่บ้านเรามีความชัดเจนมากขึ้น ในเรื่องค่าไฟฟ้ารอบถัดไปซึ่งจะไม่สูงกว่า 4.18 บาท/หน่วย ภาพใหญ่ของตลาดหุ้นไทย กำลังย้อนกลับเข้าสุ่ภาวะที่มูลค่าการซื้อขาย เบาบางอีกครั้งหนึ่ง ทำให้SET INDEX ขยับขึ้นได้ยาก คาดกรอบ 1438 – 1455 จุด TOP PICK เลือก DOHOME, INTUCH และ SCGP
จับตากระแส BOND YIELD ลง – น้ำมันร่วง และกังวล TRADE WAR กลับมา วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หนุนดัชนี DOW JONES พุ่งทำ NEW HIGH ขณะที่ BOND YIELD สหรัฐฯ ในทุกช่วงอายุร่วงลงมากกว่า 2% หลังมีกระแส ข่าวว่าที่ ปธน. สหรัฐฯ คนใหม่ (DONALD TRUMP) เสนอเสนอแต่งตั้ง “SCOTT BESSENT” คุมกระทรวงการคลัง การตีความของตลาดการเงิน ออกมาค่อนข้างเป็นไปทางบวกกับประเด็นดังกล่าว เนื่องจากภูมิหลังของคุณ BESSENT เป็นผู้ก่อตั้ง KEY SQUARE GROUP บริษัท HEDGE FUND ลงทุนระดับมหาภาคโลก และก่อนหน้าเป็น CIO ใน SOROS FUND MANAGEMENT จึงเชื่อว่าเข้าใจกลไกลในระดับมหาภาคเป็นอย่างดี หวังการ เดินหน้ามาตรการต่างๆ จะสร้างช่วยลดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ และหนุนห้ ตลาดการเงินมีเสถียรภาพ
ส่วนราคาน้ำมันเห็นการเปลี่ยนทิศร่วงลงแรงเกือบ 3% กด WTI หลุด 69 เหรียญฯ/ บาเรล จากกระแสข่าวคณะรัฐมนตรีสงครามของอิสราเอลจะพิจารณาข้อตกลง ดังกล่าวในวันนี้ (26 พ.ย.) โดยรายละเอียดข้อตกลงสรุปเบื้องต้นได้ว่า
• สหรัฐฯ จะเป็นผู้นำในการตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตาม หรือละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
• อิสราเอลจะต้องถอนกำลังทหารออกจากทางใต้ของเลบานอน
• กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ต้องถอนกำลังทหารไปทางตอนเหนือของแม่น้ำลิตานี โดย ห่างจากชายแดนเลบานอนประมาณ 30 กิโลเมตร
และเช้านี้ ยังมีข่าวลบว่า ทรัมป์ จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าทั้งหมดจากจีน อีก 10% กดดัน ตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ปรับตัวลดลงหมด
จากประเด็น BOND YIELD ปรับตัวลดลง หนุนเงินบาทชะลออ่อนค่า บวกกับกระแส ราคาน้ำมันดิบร่วงลงแรง มองเป็น SENTIMENT เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า อาทิ GULF, GPSC, BPP, BGRIM, BCPG เป็นต้น
ัจจัยในประเทศยังดูดี หุ้นอะไรน้า ... ที่น่าจะได้ประโยชน์ วานนี้ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและ บริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ซึ่งพบว่ากษตรกรที่มีที่ดินทำกินไม่เกิน 10 ไร่ ประมาณ 4,680,000 ครัวเรือน คิดเป็นวงเงินราว 3.8 หมื่นล้านบาท โดยโครงการนี้จะเข้าสู่ที่ประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.สัญจร) ในวันที่ 29 พ.ย.67 ซึ่งคาดว่าจะเป็นแรงกระตุ้นการบริโภค ภาคครัวเรือน(C) ได้เป็นอย่างดี ซึ่งระยะถัดไปอาจเห็นมาตรการอัดฉีดมาตรการ กระตุ้นการบริโภคและเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้น เช่น ช้อปดีมีคืน, EASY E-RECEIPT ซึ่งอาจจะมีผลบังคับใช้ช่วงต้นปี 2568 ส่วนเช้านี้ติดตามตัวเลขส่งออกไทย ต.ค.67 คาด +5.1%YOY สูงกว่าเดือนก่อนหน้าที่ ระดับ +1.1%YOY ส่วนตัวเลขนำเข้าไทยคาด +6.4%YOY ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่ +9.9%YOY คาดหนุนให้ดุลบัญชีเดินสะพัดยังเป็นบวกต่อเนื่อง
ประเด็นดังกล่าว คาดหนุนให้ SET INDEX เช้านี้น่าจะพยุงตัวอยู่ได้ดีกว่าตลาดหุ้น เพื่อนบ้าน ในสภาวะที่ FLOW ต่างชาติยังขายสุทธิอย่างต่อเนื่อง โดยกลยุทธ์การ ลงทุนในช่วงนี้ แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้ • กลุ่มเครื่องดื่ม CBG OSP ICHI SAPPE • กลุ่มค้าปลีก CPALL (BK:CPALL) CRC BJC CPAXT • กลุ่มเช่าซื้อ MTC SAWAD • กลุ่มกำไรอิงการส่งออก TU CPF TFG NER STA
มูลค่าซื้อขายเบาบาง การเลือกซื้อหุ้นต้องเน้น SELECTIVE แม้วานนี้มูลค่าซื้อขายหุ้นไทยจะกลับมาสูง 5.0 หมื่นล้านบาท แต่เป็นการ REBALANCE ของกองทุนต่างประเทศที่อ้างอิงตามดัชนี MSCI ช่วงท้ายตลาดเกือบ 2 หมื่นล้านบาท ถ้าแยกมูลค่าซื้อขายต่างชาติออก จะเห็นได้ว่ามูลค่าซื้อขายของนัก ลงทุนในประเทศยังเบาบางเหลือเพียง 1.8 หมื่นล้านบาท และหากพิจารณาตลอดเดือน พ.ย. (MTD) มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่ำเพียง 4.4 หมื่นล้าน บาทต่อวัน เทียบเท่า TURNOVER 60% ต่อปี ยังไม่เพียงพอที่จะผลักดันตลาดขนาด 18 ล้านล้านบาทได้ (TURNOVER 70% ต่อปี ราว 5.1 หมื่นล้านบาท)
ด้วยเม็ดเงินที่จำกัด กดดันให้ตลาดมีสัดส่วนจำนวนหุ้นบวกไม่ถึง 30% ในปีนี้ ทำให้ การลงทุนในช่วงนี้ ต้องเน้น SELECTIVE BUY มากขึ้น
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities