💎 เปิดเผยหุ้นราคาถูกที่ซ่อนอยู่ในตลาดเริ่มต้นเลย

SET INDEX รอผลเลือกตั้ง .. รอกำไร3Q67

เผยแพร่ 06/11/2567 09:52
SETI
-

การปรับตัวขึ้นแรงของ SET INDEX ดูไม่สอดคล้องกับมูลค่าการซื้อขาย ที่บางเกินไป อีกทั้งการปรับขึ้นมีลักษณะของการกระจุดตัว ภาวะดังกล่าว ทำให้ SET INDEX มีโอกาสที่จะผันผวนได้อยู่ ส่วนปัจจัยที่ติดตามเป็น เรื่องผลการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ซึ่งน่าจะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นตามความ คืบหน้าในการนับคะแนนเสียง ช่วงของการรอคอยก็มีโอกาสทำให้ SET INDEX ผันผวนได้ ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่รอก็คือ การประกาศผล ประกอบการงวด 3Q67 ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่าน่าจะเห็นการย่อนตัวลงทั้ง YOY และ QOQ ทำให้ยังมีโอกาสที่จะเห็นการปรับลดประมาณการกำไร งวดปี 2567 และอาจไปถึงปี 2568 อีกครั้งหนึ่ง สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจใน บ้านเราวันนี้จะมีการประกาศเงินเฟ้อเดือน ต.ค.67 ซึ่ง CONSENSUS คาดที่ 0.94% YOY ต่ำกว่ากรอบเป้าหมายที่ 1-3% ประเมินว่า SET INDEX วันนี้น่าจะมีโอกาสผันผวนไปตามความคืบหน้า ของการนับคะแนนเสียงเลือกตั้งสหรัฐฯ กรอบ 1475 –1490 จุด หุ้น TOP PICK วันนี้เลือก AOT (BK:AOT), CENTEL และ SCGP

สัญญาณเศรษฐกิจดีขึ้น หนุนเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง วานนี้ ตลาดหุ้นโลกดีดตัวขึ้นแรง เฉพาะอย่างยิ่งในฝั่งสหรัฐปิดบวกมากกว่า 1% และ จีนขยับขึ้นราว 2% ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดย WTI วิ่งขึ้นมาเยือนที่ 72 เหรัยญฯ / บาเรล แล้ว (+4%MTD) สะท้อนเม็ดเงินทะลักเข้าสินทรัพย์เสี่ยง หลัง ปัจจัยทางเศรษฐกิจส่งสัญญาณดีขึ้น

เริ่มจากสหรัฐฯ เผยดัชนีPMI ภาคบริการ (ISM SERVICE) เดือน ต.ค. 67 ปรับตัว เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 56.0 ซึ่งสูงกว่าคาดและยังทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี หลักๆ มีแรง หนุนมาจากการจ้างงานดีดตัว ทำให้ช่วยผ่อนคลายความกังวลเรื่องเศรษฐกิจ RECESSION ลงไปได้บ้าง ขณะที่ BLOOMBERG คาดการณ์โอกาสเกิด RECESSION ในอีก 1 ปีข้างหน้า ของสหรัฐฯ ลดลงมาอยู่ที่ 25%

ต่อมาสหรัฐฯ เผยดัชนีPMI ภาคบริการ (CAIXIN CHINA PMI SERVICE) เดือน ต.ค. 67 ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 51.9ซึ่งสูงกว่าคาดและยังทำจุดสูงสุดในรอบ 3 เดือน หลังได้รับอานิสงค์เชิงบวกจากมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ เมื่อช่วงปลาย เดือน ก.ย. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ นายกฯ จีน (หลี่ เฉียง) ได้ออกมาเรียกความเชื่อมั่น ว่าเศรษฐกิจจีนในปีนี้ จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 5% พร้อมกับส่งสัญญาณใช้ มาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม

สรุป เม็ดเงินไหลทะลักเข้าสินทรัพย์เสี่ยง หนุนตลาดหุ้นดีดตัวแรง หลังปัจจัยทาง เศรษฐกิจส่งสัญญาณดีขึ้นในประเทศขนาดใหญ่ ทั้งสหรัฐฯ และจีน อย่างไรก็ตาม ในฝั่งสหรัฐฯ ยังต้องติดตามผลการเลือกตั้ง ปธน. คนใหม่ ซึ่งจะผลต่อ การเดินหน้านโยบายต่างๆ ในระยะถัดไป ที่อาจกระทบต่อหลายประเทศทั่วโลกได้ ส่วน ในฝั่งจีน ยังต้องรอดูนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุม NPC วันที่ 8 พ.ย. 67 ว่าจะออกมาตามที่ตลาดคาดหวังไว้มากน้อยเพียงใด

การเลือกตั้งสหรัฐปี 2024 เป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดฯที่ แท้จริง วันที่ 5 พ.ย. 67เป็นวันเลือกตั้งสหรัฐฯ คนที่ 47 หลังจากนั้น 11 ธ.ค.67 แต่ละรัฐฯต้อง รับรองผลการเลือกตั้ง ต่อด้วย 17 ธ.ค.67 คณะผู้เลือกตั้งลงคะแนนเลือก ปธน. แล้วถึง จะรู้ผลลัพธ์ที่แน่นอนในวันที่ 6 ม.ค.68 ผ่านการนับคะแนนของประธานวุฒิสภา

ึ่งผลการนับคะแนนล่าสุด ณ 8.09 น. ให้ทาง DONALD TRUMP (พรรค REPUBLICAN) มีคะแนนนำ KAMALA HARRIS (พรรค DEMOCRAT) อยู่ 95 ต่อ 35 เสียง อย่างไรก็ตามต้องติดตาม 7 รัฐ SWING STATE เนื่องจากเป็นตัวแปรสำคัญของ ผลคะแนน โดยช่วง 10 – 11 โมง (ตามเวลาไทย) น่าจะเริ่มเห็นแนวโน้มผลการเลือกตั้ง จาก 4 SWING STATE ซึ่งล่าสุด 3 รัฐ SWING STATE อย่าง MICHICAN , PENSYLVANIA และ NORTH CAROLINA พรรค DEMOCRAT มีคะแนนนำอยู่ จึงทำ การเลือกตั้งในครั้งนี้นัลงทุนต้องติดตามการนับคะแนนอย่างใกล้ชิด

โดยฝ่ายวิจัยฯ ประเมิน ถ้าพรรค REPUBLICAN ชนะ ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสผันผวน ขึ้น จากผลกระทบของการเก็บภาษี 100% ประเทศจีน หรือประเทศในกลุ่ม BRICS, ค่าเงินมีโอกาสผันผวน และเงินเฟ้อสหรัฐฯ อาจยืนสูงนานขึ้น แต่ยังมีหุ้นที่ได้ประโยชน์ คือ หุ้นกลุ่มขนส่งจากการเร่งสั่งสินค้าก่อนมีการขึ้นภาษีRCL PSL SJWD WICE หุ้นกลุ่มนิคมฯ จากการเปิดโรงงานในประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยงจาก ประเด็นกำแพงภาษี AMATA WHA ROJNA และเก็งกำไรหุ้นกลุ่มได้ประโญชน์จาก BITCOIN TTA JTS BTC เป็นต้น

ในทางกลับกันหากพรรค DEMOCRAT ชนะในสมัยที่ 2 มองว่าสภาพแวดล้อมดีต่อ ตลาดหุ้นไทย ตามนโยบายการเพิ่ม CORPORATE TAX สหรัฐจาก 21% เป็น 28% ส่งผลลบต่อกำไรบริษัทจดทะเบียน ทำให้ FUND FLOW มีแนวโน้มไหลออกจากสหรัฐ ไปประเทศอื่นๆ ส่วนเงินเฟ้อสหรัฐฯ มีโอกาสปรับตัวเข้าสู่กรอบเป้าหมาย โดยมีหุ้นที่ ได้ SENTIMENT บวก คือ หุ้นได้ประโยชน์บาทแข็ง GULF GPSC BGRIM, หุ้นวัฎจักร ดอกเบี้ยขาลง MTC TIDLOR TISCO, หุ้นได้ประโยชน์จากจีน IVL SCGP SCC เป็น ต้น

ิศทางกำไร 3Q67 กลุ่มท่องเที่ยวเป็นอย่างไรบ้าง แม้แนวโน้มกำไรกลุ่มท่องเที่ยว 3Q67 (4Q67 สำหรับ AOT) ลด QOQ ทั้งจาก LOW SEASON ใน EU (MINT), OPEX ตามฤดูกาลของ AOT และค่าใช้จ่ายในการเปิด โรงแรมใหม่ของ CENTEL, ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มตามภาระหนี้ของ ERW อย่างไรก็ดี ประเมินกำไรเตรียมผ่านจุดต่ำของปี หลังประกาศงบ 3Q (MINT 12 พ.ย., CENTEL&ERW 14 พ.ย. และ AOT วันที่ 21 พ.ย.) โดยเฉพาะหุ้นที่อิงกับท่องเที่ยว ไทยเป็นหลัก คาดกำไรปกติไต่ระดับ QOQ ตั้งแต่งวด ต.ค. 67 ถึงสิ้น มี.ค. 68 หนุน ด้วย SEASONALITY ของท่องเที่ยวไทย (ปกตินักท่องเที่ยว 1Q เป็นจุดสูงสุดของปี) สะท้อนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย ต.ค. 67 ที่ 2.68 ล้านคน (+6.3% MOM, +22% YOY) และมีสัญญาณดีจากตัวเลขนักท่องเที่ยวฯ รายสัปดาห์ (28 ต.ค. – 3 พ.ย. 67) สูงสุดในรอบ 12 สัปดาห์ ที่ 701,962 คน เพิ่ม 20% WOW (+ 25.9%YOY) เพราะจีนและรัสเซีย ประกอบกับธุรกิจร้านอาหาร (CENTEL, MINT) เตรียมเข้าสู่ช่วง เฉลิมฉลองในงวด 4Q รวมถึงลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศโค้งท้ายปี ราคาหุ้นกลุ่มอิงท่องเที่ยวส่วนใหญ่ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เคลื่อนไหวแพ้ SET INDEX (ตามรูปด้านล่าง) มองว่าตอบรับปัจจัยงบ 3Q แล้ว เลือก AOT (OUTPERFORM : FV@B69) เป็น TOP PICK กลุ่มฯ ตามเดิม รับประโยชน์จากการไหลเข้าของ นักท่องเที่ยวฯ มากสุดในกลุ่มในฐานะประตูสู่ประเทศไทย ประกอบกับทิศทาง ROE เป็นขาขึ้นเฉลี่ย 16.4% (D/E ณ สิ้นงวด 3Q67 ที่ 0.6 เท่า) สูงสุดในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ที่ฝ่ายวิจัยศึกษา ด้านกลุ่มโรงแรม ชอบ CENTEL(OUTPERFORM : FV@B48) ผ่าน การเปิดโรงแรมใหม่ที่มัลดีฟส์ 2 แห่งปีหน้า, โรงแรมญี่ปุ่น ทยอยดีขึ้น หลังเปิด ดำเนินการปีที่ 2 และโรงแรมใหญ่ที่พัทยากลับมาเปิดดำเนินงานเต็มรูปแบบ หลังปิด ปรับปรุงแล้วเสร็จในปีนี้ คาดหนุนการเติบโตกำไรต่อเนื่องปี 2568 – 69 ตามด้วย MINT (OUTPERFORM : FV@B37) เพราะวงจรดอกเบี้ยขาลงใน EU และ PER ซื้อ ขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และชอบน้อยสุดในกลุ่มฯ ERW (NEUTRAL : FV@B4.9) เนื่องจาก UPSIDE และประเมินอัตราการเติบโตปีหน้าต่ำกว่าโรงแรมอื่น

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย