💎 เปิดเผยหุ้นราคาถูกที่ซ่อนอยู่ในตลาดเริ่มต้นเลย

มีโอกาสปรับฐานต่อ

เผยแพร่ 25/10/2567 09:48

ัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐานเช้านี้ยังไม่มีเรื่องใหม่ที่มีน้ำหนัก กระแสยังไปที่ การเมืองไทย-การเมืองโลก โดยในบ้านเราจุดสนใจอยู่ที่คำร้องให้ยุบ พรรคเพื่อไทย+พรรคร่วม ซึ่งเป็นปัจจัยที่สร้างความกังวลและอาจมีผล ให้FUND FLOW ต่างชาติไหลออก ส่วนในต่างประเทศเป็นการลุ้นผล การเลือกตั้ง ปธน. สหรัฐฯ (5 พ.ย.) ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่มีผลต่อทั้งทิศทาง เศรษฐกิจโลก และ FUND FLOW ส่วนตัวเลขเศรษกิจ สหรัฐ-ยุโรป บ่งชี้ โอกาสที่จะเกิด RECESSION ต่ำลง ทำให้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยน่าจะเห็น การปรับลดแบบค่อยเป็นค่อยไป ในมุมของกลไกการซื้อขายใน SET เห็น ได้ชัดว่า แรงซื้อจากนักลงทุนสถาบับในประเทศเบาบางลง ขณะที่นักลงทุน ต่างชาติยังขายสุทธิต่อ เมื่อผสมผสานกับการปรับตัวขึ้นของหุ้นที่กระจุก ตัว ทำให้คาดว่า SET INDEX มีโอกาสปรับฐานต่อ ประเมินว่า SET INDEX ยังอยู่ในช่วงการปรับฐานต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่ เชื่อว่าที่บริเวณ 1460 จุด น่าจะมีแรงหนุนจากวายุภักษ์ วันนี้คาดกรอบ 1454 –1467 จุด หุ้น TOP PICK เลือก BDMS, PLANB และ WHA

คะแนนความนิยม TRUMP ขึ้นนำ ทำค่าเงินโลกผันผวน ทั่วโลกต่างจับตามองการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 ในวันที่ 5 พ.ย. นี้ ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่ ถึง 2 สัปดาห์ ขณะที่ POLL สำรวจล่าสุดของ BLOOMBLERG เผย DONALD TRUMP (พรรค REPUBLICAN) มีคะแนนความนิยมแซงหน้า KAMALA HARRIS (พรรค DEMOCRAT) แล้ว นับตั้งแต่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา เมื่อพิจารณานโยบายหลักๆ ที่มีโอกาสเกิดขึ้นสูง หากพรรค REPUBLICAN ชนะ คือ การปรับ COPERATE TAX ในสหรัฐฯลงจาก 21% เหลือ 15% ,การเพิ่มภาษีนำเข้า จากจีน ซึ่งล่าสุดอาจตั้งกำแพงภาษีเพิ่มเป็น 150 – 200% ถ้าจีนบุกไต้หวัน และการ กลับมาของ AMERICAN FIRST อาจเสี่ยงทำให้สงครามการค้าจีน-สหรัฐ (TRADE WAR) ปลุกความร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง ขณะที่คะแนนความนิยมของ TRUMP ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มาพร้อมกับ BOND YIELD 10Y สหรัฐฯ ที่ขยับขึ้นตาม สะท้อนถึงความกังวลปัญหาเงินเฟ้ออาจกลับสู่กรอบ เป้าหมายยากขึ้น และมีโอกาสทำให้ FED ปรับลดดอกเบี้ยช้ากว่าคาด

นอกจากนี้ยังมีโอกาสหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งนับตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. 67 DOLLAR INDEX ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วราว +3%MTD ล่าสุดยืนเหนือ 104 จุดแล้ว กดดันค่าเงินโลกผันผวนในเชิงเปรียบเทียบ ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง –4%MTD มาอยู่ที่ 33.67 บาท/เหรียญฯ ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ FUND FLOW ชะลอไหลเข้า บ้านเราในช่วงสั้นๆ

อย่างไรก็ตามในเชิงกลยุทธ์หุ้นไทย ยังมีอยู่ 4 กลุ่มหุ้นเด่นที่น่าจะได้รับ SENTIMENT เชิงบวก และราคาหุ้นน่าจะ OUTPERFORM ตลาดฯได้ในช่วงนับจากนี้ อาทิ

• หุ้นนิคม : AMATA WHA PIN WHAUP

• หุ้นรับเหมา TECH : INSET AIT ICN

• หุ้นเดินเรือ : RSL PSL TTA

• หุ้นอิงราคา COMMODITY ในกลุ่ม FOSSIL : PTTEP BANPU

การเมืองไทย ยังคงกดดัน SET ต่อเนื่อง คาดมีความชัดเจน ต้นกลาง พ.ย.67 SET INDEX ถูกกดดันจากปัจจัยภายนอกอย่างการฟื้นตัวที่ช้าของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรป ส่วนปัจจัยในประเทศอย่างการเมืองไทย คงเป็นปัจจัยหลักในการกดดันนับ จากนี้ เนื่องจากกว่าจะมีความชัดเจนน่าจะอยู่ในช่วง ต้น-กลาง พ.ย.67 โดยฝ่ายวิจัยฯ ของแบ่งคดีทางการเมืองออกเป็น 2 เส้นทาง ดังนี้ 1.วันที่ 24 ก.ย.67 นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ได้ยื่น 6 คำร้องต่ออัยการสูงสุดให้ วินิจฉัยสั่งการให้นายทักษิณ และพรรคเพื่อไทย เลิกทำการที่เป็นการใช้สิทธิและ เสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 แต่อัยการสูงสุดมิได้ ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องจึงทำให้10 ต.ค.67 นายธีรยุทธจึงได้ื่นคำร้องเดิมต่อศาลรัฐธรรมนูญแทน ซึ่งล่าสุด 22 ต.ค.67 ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แก่การพิจารณาของศาล รัฐธรรมนูญว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ ในชั้นนี้ให้มีหนังสือแจ้งอัยการ สูงสุดเพื่อขอทราบว่าได้ดำเนินการตามคำร้องของผู้ร้องไปแล้วอย่างไร และรวบรวม พยานหลักฐานได้เพียงใด โดยให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ ได้รับหนังสือ ซึ่งฝ่ายวิจัยฯประเมินว่าในช่วงต้น พ.ย.67 2. ผู้ร้องหลายราย รวมถึงนายธีรยุทธ สุวรรณเกษรได้ยื่น 6 คำร้องยุบพรรคเพื่อไทยพรรคร่วมไปที่ กกต.ซึ่งล่าสุด กกต. ได้พิจารณาเห็นว่าคำร้องมีมูล ได้ให้สั่งให้ตั้ง กรรมการสอบยุบเพื่อไทยแล้ว (18 ต.ค.67) โดยมีกรอบระยะเวลาให้ดำเนินการให้แล้ว เสร็จภายใน 30 วัน แต่สามารถขอขยายได้อีกครั้งละไม่เกิน 30 วัน จนกว่าจะแล้วเสร็จ ซึ่งต้องจับตาว่า กกต.จะมีผลการพิจารณาอย่างไร โดยหากเห็นว่า “ควรยุบพรรค” กกต.จะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยในลำดับต่อไป คาดจะเห็นความ คืบหน้าของคดีดังกล่าวในช่วงกลาง พ.ย.67

สรุป ปัจจัยภายนอกที่กดดัน และการเมืองไทยยังมีความร้อนแรง กดดันให้ SET INDEX มีโอกาสทยอยลดความร้อนแรงในขาขึ้น โดยฝ่ายวิจัยฯประเมินว่าในช่วงต้นกลางเดือน พ.ย.67 น่าจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว

SET ไม่ HEALTHY ขึ้นแค่บางกลุ่ม แรงซื้อสถาบันฯถดถอยลง ในเดือน ต.ค. นี้ SET INDEX ปรับตัวขึ้นมา 0.82% หรือ 11.8 จุด แต่การขยับขึ้นไม่ ค่อย HEALTHY เนื่องจากเป็นการขยับขึ้นแค่บางกลุ่มหุ้นเท่านั้น โดยเฉพาะ 5 หุ้นเทค ฯ ไทย ที่บวกแรง อย่าง DELTA +26.2%, GULF 16.7%, ADVANC 5.8%, INTUCH 14.6%, TRUE 5.4% และทั้ง 5 บริษัท ผลักดัน SET INDEX ให้ขยับขึ้นไปถึง +46 จุด ได้แก่ DELTA +28.2 จุด, GULF +9.0 จุด, ADVANC +3.6 จุด, INTUCH +3.5จุด, TRUE +1.7จุด

ส่วนแรงผลักดัน SET INDEX จากสถาบันฯ หรือกองทุนวายุภักษ์ เริ่มเห็นสัญญาณ แผ่วเบาลงเรื่อยๆ จาก 2 ส่วนดังนี้

1. แรงซื้อสถาบันฯที่เข้ามาในเดือนนี้เคยสูงถึง 8 พันกว่าล้านบาทต่อวัน ลด น้อยลงเรื่อย จนล่าสุด 24 ต.ค. เหลือแรงซื้อเพียง 3.9 พันล้านบาท น้อยกว่า ค่าเฉลี่ยในปีนี้ที่ 4.4 พันล้านบาทต่อวัน แม่จะมีเม็ดเงินวายุภักษ์คอยหนุน

2. พอแรงซื้อสถาบันฯ ลดลง ก็เริ่มเห็นการสลับมาขายสุทธิ หลังจากเดือนนี้ สถาบันฯ ซื้อสุทธิมา 14 วันทำการติดต่อกัน เริ่มขายสุทธิมาแล้ว 2 วันทำ การ 23 ต.ค. ขายสุทธิ -690 ล้านบาท และ 24 ต.ค. ขายสุทธิสูงขึ้นเป็น -1.67 พันล้านบาท

สรุป SET INDEX ยังดูไม่ค่อย HEALTHY ขึ้นแค่บางกลุ่ม พร้อมกับแรงซื้อสถาบันฯที่ ถดถอยลง อย่างไรก็ดี ดัชนีที่ย่อตัวลงมาใกล้ๆ ต้นทุนกองทุนวายุภักษ์ที่คิดกลับมา 1460 จุด ทำให้เชื่อว่าการย่อตัวของดัชนีน่าจะไม่รุนแรงเหมือนช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย