ข่าวเด่น
เสนอซื้อเสนอขาย
ประเภทตราสารทั้งหมด

โปรดลองค้นหาใหม่อีกครั้ง

รับส่วนลด 45% 0
นี่เป็นการเทขายหุ้นครั้งใหญ่หรือการปรับฐานตลาด? ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน นี่คือสิ่งที่คุณควรทำต่อไป
ดูหุ้น Overvalued

เงินเฟ้อเดือนกันยายนสูงขึ้นสู่ระดับ 0.61% และมีแนวโน้มทยอยสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 4

โดย Poon Panichpiboolตลาดหุ้นOct 07, 2024 14:04
th.investing.com/analysis/article-200450508
เงินเฟ้อเดือนกันยายนสูงขึ้นสู่ระดับ 0.61% และมีแนวโน้มทยอยสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 4
โดย Poon Panichpibool   |  Oct 07, 2024 14:04
บันทึกแล้ว ดู รายการที่ได้บันทึก.
ได้บันทึกบทความนี้ไว้เรียบร้อยแล้วใน รายการที่ได้บันทึก ของคุณ
 

เงินเฟ้อเดือนกันยายนสูงขึ้นสู่ระดับ 0.61% และมีแนวโน้มทยอยสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้

  • Headline Inflation September 2024

Actual: 0.61%       Previous: 0.35% 

KTBGM: 0.62%     Consensus: 0.78%

  • กระทรวงพาณิชย์รายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนกันยายนปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 0.61% จากราคาน้ำมันดีเซล รวมถึงราคาผักสด ที่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเร่งตัวขึ้นสู่ระดับ 0.77% 
  • สำหรับไตรมาสที่ 4 กระทรวงพาณิชย์มองว่า อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้นจากช่วงไตรมาสที่ 3 ตาม 1) ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศที่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 2) ราคาสินค้าเกษตรที่อาจสูงขึ้นในระยะสั้นตามผลกระทบจากน้ำท่วม 3) ราคาสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวมีแนวโน้มสูงขึ้น ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ขณะที่อัตราเงินเฟ้ออาจถูกกดดันจาก 1) ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มต่ำกว่าปีก่อนหน้าพอสมควร 2) ผลกระทบจากการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาททำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าลดลง และ 3) การจัดโปรโมชั่นของผู้ประกอบการค้าส่ง-ค้าปลีกรายใหญ่ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ปรับคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้ เป็นกรอบ 0.2% ถึง 0.8% (ค่ากลาง 0.5% ตามเดิม)
  • อัตราเงินเฟ้อของไทยยังคงมีแนวโน้มเป็นไปตามคาดการณ์ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ทำให้เรายังคงมุมมองเดิมว่า อัตราเงินเฟ้อจะทยอยกลับสู่เป้าหมาย 1%-3% ของ กนง. ได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ทำให้อัตราเงินเฟ้อจะไม่ใช่ประเด็นหลักที่ กนง. กังวลนัก ซึ่งหากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยไม่ได้เผชิญปัจจัยกดดันที่ชัดเจน กนง. ก็อาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 2.50% ตลอดทั้งปีนี้ และมีความเป็นไปได้มากขึ้น ที่ กนง. อาจคงอัตราดอกเบี้ย 2.50% ได้นานกว่าที่เราประเมินไว้

กระทรวงพาณิชย์รายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ระดับ        0.61% สูงขึ้นจากระดับ 0.35% ในเดือนสิงหาคม หนุนโดยราคาน้ำมันดีเซลที่สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนราคาผักสดก็สูงขึ้นจากผลกระทบน้ำท่วม

  • กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนล่าสุด ลดลง -0.10% จากเดือนก่อนหน้า (เรามอง -0.09%) ตามการลดลงของราคาในหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม -0.36% โดยเฉพาะในส่วนของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง (ราคาน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์) -1.98% ส่วนราคาของใช้ส่วนบุคคลและของใช้ในครัวเรือน (หมวดเคหสถาน) ก็มีการปรับตัวลดลง ขณะที่ราคาในหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ปรับตัวขึ้นราว +0.25% อาทิ ราคาสินค้ากลุ่มข้าว แป้ง +0.40% ราคาเนื้อสัตว์ +0.28% รวมถึงราคาอาหารนอกบ้าน +1.03% ส่วนราคาผลไม้สดและผักสดก็ทยอยปรับตัวลดลงบ้าง ตามการปรับตัวลดลงของราคาทุเรียน มังคุด ถั่วฝักยาว และฟักทอง เป็นต้น
  • เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้นสู่ระดับ 0.61% จาก 0.35% ในเดือนก่อนหน้า ตามการปรับตัวขึ้นของราคาสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม +2.25% โดยเฉพาะผักสด +12.76% ผลไม้สด +6.01% ขณะที่ ราคาสินค้าหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม กลับลดลง -0.55% ตามการลดลงถึง -4.46% ของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง แต่เมื่อหักราคาอาหารสดรวมถึงพลังงานออก อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) เร่งขึ้นสู่ระดับ 0.77% จากระดับ 0.62% ในเดือนก่อนหน้า
  • กระทรวงพาณิชย์ ปรับคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้ เป็น 0.2% ถึง 0.8% (ค่ากลาง 0.5% ตามเดิม) ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน และอาจมีการปรับเปลี่ยนคาดการณ์ได้ หากสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงชัดเจน

แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อล่าสุด ยังคงสอดคล้องกับคาดการณ์ของ กนง. ทำให้ เราคงมุมมองเดิม ว่า กนง. จะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50% ตลอดทั้งปีนี้ และควรเตรียมรับมือโอกาสที่ กนง. อาจคงอัตราดอกเบี้ย 2.50% ได้นานกว่าคาด

  • พัฒนาการล่าสุดของอัตราเงินเฟ้อ โดยเฉพาะในส่วนของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ทยอยเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง ทำให้เราคงประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยยังมีแนวโน้มทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย 1%-3% ของ กนง. ได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ตราบใดที่ยังคงเห็น โมเมนตัมของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยราว +0.10%m/m ซึ่งมีความเป็นไปได้พอสมควร เมื่อประเมินว่า ราคาน้ำมันดิบได้ทยอยปรับตัวสูงขึ้นพอสมควรจากความกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง นอกจากนี้ ความกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าว รวมถึงความหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ล่าสุด และผลกระทบจากความแปรปรวนของภาวะอากาศยังส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้น หากแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อและพัฒนาการของเศรษฐกิจยังเป็นไปตามที่ กนง. คาดการณ์ไว้ เรายังคงมุมมองเดิมว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50% ในปีนี้ 
  • นอกจากนี้ เราเริ่มเห็นความเสี่ยงที่ กนง. อาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50% ได้นานกว่าคาด (เราประเมินว่า การลดดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า) หากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังเป็นไปตามที่ กนง. ได้ประเมินไว้ อีกทั้งความเสี่ยงด้านลบก็ทยอยลดลงไป โดยเฉพาะ ปัจจัยภายนอก เช่น ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญอาจชะลอตัวลงหนัก เนื่องจากล่าสุด เศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็ไม่ได้มีแนวโน้มจะชะลอตัวลงหนัก อย่างที่ตลาด รวมถึงเราเคยกังวลก่อนหน้า อีกทั้ง เศรษฐกิจจีนก็เริ่มมีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น หากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ล่าสุดได้ผล นอกจากนี้ ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ก็อาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เราประเมิน โดยมีความเป็นไปได้เช่นกัน ว่า Kamala Harris อาจคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ ปิดโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะเผชิญความเสี่ยงด้านลบจากสงครามการค้ารอบใหม่ หาก Donald Trump ชนะการเลือกตั้ง (base case ของเรา) ซึ่ง Professor Allan Lichtman ได้ประเมินว่า Kamala Harris จะคว้าชัยชนะ (ที่ผ่านมา Professor Lichtman คาดการณ์ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ได้อย่างแม่นยำถึง 9/10 ครั้ง ตั้งแต่การเลือกตั้งปี 1984) ทั้งนี้ เรามองว่า ควรจับตาความเปลี่ยนแปลงของการสื่อสารจากทาง กนง. อาทิ ถ้อยแถลงของผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึง ผลโหวตของที่ประชุม กนง. ที่ควรจะเห็นผลโหวตเห็นชอบให้ลดดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ เมื่อเข้าใกล้การประชุมปลายปี (เหลือการประชุม 16 ตุลาคม และ 18 ธันวาคม) และการสื่อสารของทางธนาคารแห่งประเทศไทยผ่านงานสัมนา Monetary Policy Forum (MPF) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 30 ตุลาคม อนึ่ง เรามองว่า ถ้า กนง. จะลดดอกเบี้ยได้ เร็วที่สุดก็น่าจะเป็นการประชุมเดือนธันวาคม หลังเริ่มปรับโทนการสื่อสารให้ Dovish มากขึ้น ในการประชุมเดือนตุลาคม และย้ำมุมมองดังกล่าวในงาน MPF เดือนตุลาคม
  • เนื่องจากแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อยังมีโอกาสทยอยสูงขึ้นได้ ทำให้เราคงแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดที่มีสถานะลงทุนใน ILB หรือ กองทุน KT-ILF (Krungthai Inflation Linked Fund) ตาม Trade Idea ที่เราได้แนะนำไปแล้วนั้นก็สามารถคงสถานะการลงทุนไว้ได้เพื่อ Let Profits Run อย่างไรก็ดี เรามองว่า ผู้ที่มีการลงทุนในบอนด์ระยะยาว ควรระวังความเสี่ยงที่บอนด์ยีลด์ระยะยาวอาจปรับตัวสูงขึ้นได้ในช่วงนี้ หลังผู้เล่นในตลาดอาจทยอยปรับลดมุมมองต่อการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด

เงินเฟ้อเดือนกันยายนสูงขึ้นสู่ระดับ 0.61% และมีแนวโน้มทยอยสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 4
 

บทความที่เกี่ยวข้อง

เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม
น่าจะเห็น SET INDEX พักฐานในระยะสั้น โดย เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม - Oct 16, 2024

SET INDEX มีโอกาสที่จะปรับฐานระยะสั้น โดยส่วนหนึ่งของแรงกดดันมา จากทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับลดลง หลังตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวช้า กว่าคาด กดดันให้DEMAND ปรับลดลง...

Poon Panichpibool
ราคาทองคำทยอยปรับตัวสูงขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ โดย Poon Panichpibool - Aug 19, 2024

Economic Highlight ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางหลัก ทั้ง เฟด ECB และ BOJ ผ่านรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ ของสหรัฐฯ ยูโรโซนและญี่ปุ่น...

ณัฐชาต เมฆมาสิน
คาด SET Index แกว่งทรงตัว โดย ณัฐชาต เมฆมาสิน - Jul 12, 2024

One step closer to September Fed rate cut: Sector to outperform • SET: คาด SET Index แกว่งทรงตัว โดยถึงแม้ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯจะ ออกมา คาดเมื่อคืนนี้ (รายละเอียดด้านล่าง)...

เงินเฟ้อเดือนกันยายนสูงขึ้นสู่ระดับ 0.61% และมีแนวโน้มทยอยสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 4

แสดงความคิดเห็น

เกณฑ์การแสดงความคิดเห็น

เราสนับสนุนให้ท่านได้ใช้ช่องทางการแสดงความคิดเห็นนี้เพื่อสื่อสารสัมพันธ์กับผู้ใช้เว็บไซต์อื่นๆ เพื่อแลกเปลี่ยนในทัศนคติและสอบถามข้อสงสัยกับผู้เขียนและสอบถามซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตามเพื่อให้การสื่อสารสัมพันธ์นี้เป็นไปอย่างเรียบร้อยที่เราทุกคนต้องการและคาดหวังดังนี้กรุณาพึงระลึกในข้อปฏิบัติดังต่อไปนี้:  

  • มีเนื้อหาสาระ การสนทนาควรมีเนื้อหาสาระที่น่าสนใจ
  • เอาใจใส่และตรงประเด็น กรุณาโพสต์ในเนื้อหาสาระที่เกี่ยวข้องกับหัวเรื่องที่กำลังอภิปราย
  • ให้เกียรติ แม้ในการแสดงความคิดเห็นเชิงลบก็ตามควรต้องกระทำในลักษณะสร้างสรรค์และสุภาพ
  • ใช้สไตล์การเขียนมาตรฐานทั่วไป ที่รวมถึงการใช้เครื่องหมายวรรคตอนและตัวอักษรใหญ่เล็ก
  • หมายเหตุ: ข้อความและลิงค์ประเภทสแปมและ/หรือเพื่อการส่งเสริมการขายที่ปรากฎในการแสดงความคิดเห็นจะถูกลบทิ้ง
  • หลีกเลี่ยงการลบหลู่ การให้ร้ายผู้อื่น และการกล่าวโจมตีโดยส่วนตัว ที่กระทำต่อผู้เขียนเนื้อหาในเว็บหรือต่อผู้ใช้เว็บไซต์คนอื่น
  • เฉพาะภาษาไทยเท่านั้น สามารถแสดงความคิดเห็นเป็นภาษาไทยเท่านั้น

ผู้ที่โพสต์เนื้อหาข้อความสแปมหรือใช้เว็บไซต์นี้ไปในทางผิดจะถูกลบรายชื่อทิ้งจากเว็บไซต์และถูกปิดกั้นการลงทะเบียนเป็นสมาชิกในอนาคตซึ่งเป็นไปตามดุลพินิจของเว็บไซต์ Investing.com

เขียนบรรยายความคิดของคุณได้ที่นี่
 
คุณแน่ใจว่าต้องการลบกราฟนี้?
 
โพสต์
และโพสต์บน :
 
แทนที่กราฟที่แนบมาด้วยกราฟใหม่ ?
1000
ความสามารถในการแสดงความคิดเห็นของคุณถูกระงับในขณะนี้เนื่องจากมีรายงานเชิงลบจากผู้ใช้เว็บไซต์ ผู้ดูแลเพจของเราจะทบทวนสถานะของคุณ
กรุณารอสักครู่ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นอีกครั้ง
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ ความคิดเห็นของคุณทั้งหมดจะอยู่ระหว่างการอนุมัติจากผู้ดูแลระบบ ดังนั้นอาจใช้เวลาระยะหนึ่งก่อนที่จะปรากฎบนเว็บไซต์ของเรา
 
คุณแน่ใจว่าต้องการลบกราฟนี้?
 
โพสต์
 
แทนที่กราฟที่แนบมาด้วยกราฟใหม่ ?
1000
ความสามารถในการแสดงความคิดเห็นของคุณถูกระงับในขณะนี้เนื่องจากมีรายงานเชิงลบจากผู้ใช้เว็บไซต์ ผู้ดูแลเพจของเราจะทบทวนสถานะของคุณ
กรุณารอสักครู่ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นอีกครั้ง
เพิ่มกราฟไว้ในคอมเมนต์
ยืนยันการบล็อก

คุณแน่ใจหรือว่าคุณต้องการบล็อก %USER_NAME%?

เมื่อทำการบล็อก คุณและ %USER_NAME% จะไม่สามารถเห็นโพสต์ของแต่ละฝ่ายบนเว็บไซต์ Investing.com ได้

%USER_NAME% ได้ถูกเพิ่มเข้าไปใน Block List ของคุณแล้ว

เนื่องจากคุณเพิ่งยกเลิกการบล็อกบุคคลนี้ คุณต้องรอ 48 ชั่วโมงก่อนการบล็อกอีกครั้ง

รายงานความคิดเห็นนี้

ฉันรู้สึกว่าความคิดเห็นนี้

ความคิดเห็นได้รับการติดธงเตือน

ขอบคุณ!

รายงานของคุณได้ถูกส่งไปยังผู้ดูแลบอร์ดของเราเพื่อการทบทวน
ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Apple
สมัครสมาชิกด้วย Google
หรือ
สมัครสมาชิกด้วยอีเมล