FOMC cheat sheet
• SET: คาด SET Index อยู่ในโหมดทรงตัวต่อไป เนื่องจากนักลงทุน บางส่วนคงอยู่ในโหมด Wait & See เพื่อรอดูผลลัพธ์จากการประชุม FOMC ในค่าคืนนี้ ซึ่งเราประเมินว่าไม่ว่าจะออกมาในกรณีไหน คงจะสร้าง ความผันผวนให้กับตลาดทุนได้อย่างแน่นอน (รายละเอียดด้านล่าง) ด้วย เหตุนี้ในเชิงกลยุทธ์ จึงยังคงแนะนําานักลงทุน Selective การถือครองหุ้น ในกลุ่ม Defensive ต่อไปโดยเฉพาะกลุ่ม Healthcare ซึ่งมักเป็นกลุ่มที่มี Low beta อยู่แล้ว ส่วนนักลงทุนที่มีสถานะในหุ้นกลุ่ม Bond-liked และ Rate sensitive อย่าง Utilities / REIT / IFF / Finance หากกลัวความ เสี่ยง แนะลดสถานะถือครองบางส่วนออกมาก่อน เพื่อป้องกันความผันผวน ของ Bond yield ที่อาจเกิดขึ้นในคืนนี้
• FOMC: สาหรับการประชุม Fed ที่จะทราบผลในช่วงดึกคืนนี้ตามเวลาบ้าน เรา มองว่าไม่ว่าการตัดสินใจของ Fed จะเป็นเช่นไร ความผันผวนของราคา สินทรัพย์ต่างๆคงเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจาก ณ ขณะนี้นักลงทุนยังคง เสียงแตกกันระหว่างการปรับลดดอกเบี้ยที่ 0.25% หรือ 0.50% โดยหาก พิจารณาจาก Fed Funds futures ล่าสุดจะพบว่ามีสัดส่วนนักลงทุนที คาดการณ์อยู่ที่ราว 35% ต่อ 65% ตามล่าดับ (รูปที่ 1) ทั้งนี้ เราประเมิน Scenario จากการประชุม FOMC คืนนี้อยู่ 2 กรณี ได้แก่
1) Fed มีมติปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเพียง 0.25% และ Dot plots ที่ ออกมาไม่ได้มีการ Shift ลงุรุนแรงเท่ากับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าสิ้นปี จะอยู่ที่ 4.00-4.25% (รูปที่ 2) ในกรณีนี้ จะถือว่าโทนที่ออกมาไม่ได้ Dovish เท่ากับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งนั่นแปลว่าเงิน USD และ Bond yield สหรัฐฯรุ่นสั้นที่ปรับตัวลงมาก่อนหน้านี้มีโอกาสเด้งรีบาวด์ได้ ส่งผลให้กระแส Fund flow ทั่วโลกมีโอกาสที่จะไหลย้อนกลับไปยัง สินทรัพย์สกุลดอลลาร์มากขึ้น (Reverse USD carry trade) และท่า ให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯมีโอกาสปรับตั๋ว Outperform ตลาดหุ้นเกิดใหม่ ซึ่ง หากแบ่งย่อยเป็นรายอุตสาหกรรม คาดว่าในกรณีนี้ จะทําให้หุ้นกลุ่มวัฏ จักรปรับตัวดีกว่า (Outperform) หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้
2) ในกรณีที่ Fed มีมติปรับลดดอกเบี้ยไปถึง 0.50% จะถือว่าเป็น Action ที่ Dovish กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากค่ากลาง Dot plots มีการปรับลงมาบริเวณเดียวกันกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ณ เวลานี้ (4.00-4.25%) ในกรณีนี้ เชื่อว่าเงิน USD และ Bond yield สหรัฐฯรุ่นสั้นมีโอกาสไหลลงต่อ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มนําหนักต่อ ปรากฏการณ์ USD carry trade ที่เกิดขึ้นอยู่แล้วให้มีโมเมนตัมมากขึ้น ไปอีก ส่งผลบวกต่อสินทรัพย์และค่าเงินทางฝั่งประเทศเกิดใหม่ อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้อาจต้องใช้ความระมัดระวังต่อหุ้นกลุ่ม Global Cyclicals มากขึ้น เนี่องจากการลดดอกเบี้ยที่แรงกว่าตลาดคาดอาจ น่ามาสู่ความกังวลด้าน Recession fear ให้กลับมาอีกครั้ง ดังนั้น สินทรัพย์ที่น่าจะได้อานิสงส์หลักในกรณีนี้จะได้แก่ สินทรัพย์ปลอดภัย เป็นสําคัญ เช่น ทองค่า หุ้นกลุ่ม Utilities / Healthcare / Consumer staple ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ประเมินว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจะ สามารถปรับตัว Outperform หุ้นกลุ่มวัฏจักรในกรณีนี้ได้
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities