💎 ดูบริษัทต่าง ๆ ที่มีสุขภาพทางการเงินที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบันเริ่มต้นเลย

ผู้เล่นในตลาดจับตาเหตุผลของเฟดต่อการเร่งลดดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือนกันยาย

เผยแพร่ 16/09/2567 09:10

Economic Highlight

ควรรอลุ้นผลการประชุมบรรดาธนาคารกลางหลัก ทั้ง เฟด, ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ เช่น ยอดค้าปลีก (Retail Sales) และยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims)  

**ราคาทองคำ = Spot Gold price (XAUUSD

FX Highlight

  • สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าขึ้นมากกว่าที่คาด ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ หลังผู้เล่นในตลาดกลับมาเชื่อว่าเฟดยังมีโอกาสเร่งลดดอกเบี้ย -50bps ในการประชุม FOMC เดือนกันยายน พร้อมกันนั้น โฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำและแรงซื้อสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ ก็มีส่วนหนุนการแข็งค่าของเงินบาท
  • เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทมีโอกาสทยอยอ่อนค่าลง (เราจะมั่นใจมากขึ้น หากเงินบาทสามารถอ่อนค่าเหนือระดับ 34.00 บาทต่อดอลลาร์ ได้ชัดเจน) โดยเฉพาะในกรณีที่เฟดไม่ได้เร่งลดดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดหวัง อีกทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด (Dot Plot) ก็ไม่ได้สะท้อนแนวโน้มการเร่งลดดอกเบี้ย
  • โดยในกรณีที่เราประเมินนั้น เงินดอลลาร์อาจรีบาวด์แข็งค่าขึ้นบ้าง พร้อมกับการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ 
  • ทว่า หากเฟดเร่งลดดอกเบี้ยจริง -50bps พร้อมส่งสัญญาณเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่อเนื่องใกล้เคียงกับที่ตลาดกำลังคาดหวังอยู่ ก็อาจกดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงได้บ้าง
  • อย่างไรก็ดี ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาเหตุผลของเฟดต่อการเร่งลดดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือนกันยายน เพราะหากเป็นการตัดสินใจจากความกังวลเศรษฐกิจเสี่ยงชะลอตัวลงหนัก ก็อาจกดดันบรรยากาศในตลาดการเงินได้
  • หากตลาดปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) อาจส่งผลกระทบต่อบรรดาสินทรัพย์ฝั่ง EM ตามแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงของผู้เล่นในตลาด ทว่า เงินบาทอาจพอได้แรงหนุนตราบใดที่ราคาทองคำยังปรับตัวขึ้นได้
  • นอกจากนี้ เงินดอลลาร์อาจผันผวนไปตามทิศทางสกุลเงินหลักทั้งเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) และเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ซึ่งจะขึ้นกับผลการประชุม BOE และ BOJ
  • เรากังวลว่า เงินเยนญี่ปุ่นเสี่ยงแข็งค่าขึ้นเร็วและแรงได้ หากผู้เล่นในตลาดกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงหนัก (สะท้อนผ่านการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด) หรือ BOJ ส่งสัญญาณพร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม 
  • อนึ่ง ควรจับตาทิศทางเงินหยวนจีน (CNY) หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญรายเดือนของจีน ออกมาแย่กว่าคาด สะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่สดใสนัก 
  • นอกเหนือจากปัจจัยข้างต้น เรามองว่า ควรติดตามทิศทางฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งอาจเริ่มทยอยขายทำกำไรสินทรัพย์ไทย รวมถึงจับตาการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะราคาทองคำ
  • สัญญาณจาก  RSI MACD และ Stochastic ใน Time Frame รายวัน สำหรับ USDTHB สะท้อนว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทได้ชะลอลง และเงินบาทมีความเสี่ยงแข็งค่ามากขึ้น จากสัญญาณของ MACD และ Stochastic ขณะที่ RSI Bullish Divergence ยังคงอยู่ เปิดโอกาสให้เงินบาท อาจแกว่งตัว sideways ได้
  • ส่วนสัญญาณจาก Time Frame H1 สะท้อนว่า เงินบาทมีแนวโน้มทยอยอ่อนค่าลงได้ จาก RSI Bullish Divergence รวมถึงสัญญาณจาก Stochastic และ MACD ในขณะที่ Time Frame H4 สัญญาณจาก RSI และ Stochastic สะท้อนว่า เงินบาทเริ่มมีโอกาสอ่อนค่าลง ทว่า MACD ยังไม่ได้สะท้อนภาพดังกล่าวที่ชัดเจน
  • โดยรวมเงินบาทยังมีแนวต้านแรกแถว 33.50-33.65 บาทต่อดอลลาร์ และมีโซนแนวต้านถัดไปในช่วง 33.85-34.00 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนโซนแนวรับแรกนั้นจะอยู่ในช่วง 33.20 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งหากเงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องก็อาจทดสอบโซน 33.00 บาทต่อดอลลาร์   

Gold Highlight

  • ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ สวนทางกับที่เราประเมินไว้ หลังผู้เล่นในตลาดยังคงคาดหวังการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟดอยู่ 
  • ราคาทองคำเสี่ยงผันผวนในลักษณะ Two-Way Volatility ซึ่งจะขึ้นกับ ผลการประชุมบรรดาธนาคารกลางหลัก โดยเฉพาะ เฟด และพัฒนาการของสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
  • ราคาทองคำเสี่ยงปรับตัวลดลงหนัก หากเฟดไม่เร่งลดดอกเบี้ยและไม่ได้ส่งสัญญาณพร้อมเร่งลดดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดหวัง 
  • ทั้งนี้ ราคาทองคำอาจปรับตัวขึ้นบ้าง หากเฟดเร่งลดดอกเบี้ย หรือในกรณีที่ตลาดต้องการถือทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยจากภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาด 
  • และนอกเหนือจากประเด็นแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของบรรดาธนาคารกลางหลัก เรามองว่า ราคาทองคำต้องการปัจจัยหนุนเพิ่มเติม ถึงจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องได้ โดยเฉพาะปัจจัยความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์จากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและสงครามรัสเซีย-ยูเครน
  • ในเชิงเทคนิคัล สัญญาณจาก RSI Stochastic และ MACD Time Frame รายวัน ชี้ว่า โมเมนตัมการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำมีกำลังมากขึ้น แต่ราคาทองคำก็เสี่ยงเข้าสู่โซน RSI Overbought 
  • ส่วนในภาพTime Frame H1 สัญญาณจากทั้ง RSI Stochastic และ MACD สะท้อนว่า ราคาทองคำเสี่ยงย่อตัวลงบ้าง โดยแนวต้านระยะสั้น คือ แถวจุดสูงสุดใหม่ 2,580-2,590 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ Time Frame H4 สัญญาณจาก MACD ยังคงสะท้อนแนวโน้มการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ
  • โดยรวม เรายังคงมองว่า ราคาทองคำจะแกว่งตัวในกรอบ sideways ในกรอบกว้างหรือเสี่ยงผันผวนสูง โดยมีโซนแนวต้านแถว 2,580-2,590 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีโซนแนวรับแถว 2,530 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย