Tech is back - Thailand will underperform
• SET: คาด SET Index เปิดตลาดปรับตัว Technical rebound เช่นเดียวกับ ตลาดหุ้นเอเชียอื่นเช้าวันนี้ แต่อาจไม่รุนแรงเท่ากับตลาดหุ้นเอเชียเหนือ และตลาดหุ้นสหรัฐฯที่เด้งแรงเมื่อคืน น่าโดยกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีที่ลงมา แรงก่อนหน้านี้เป็นสําคัญ ทั้งๆที่ปัจจัยหนุนโดยรวมไม่ได้มีมากนัก โดยตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯที่ออกมาเมื่อคืนนี้ส่วนใหญ่ตรงตามที่ ตลาดคาด และ Core CPI สูงกว่าคาดเล็กน้อยด้วย (+0.3% MoM vs. 0.2%) จากตัวเลขดังกล่าว ทําให้เรามีความมั่นใจ 100% แล้วว่า Fed จะเริ่มต้นลดดอกเบี้ยเพียง 0.25% ไปก่อนในการประชุมสัปดาห์หน้า ซึ่งตลาดก็ดูเหมือนเชื่อเช่นนั้นมากขึ้น โดยล่าสุดให้นําหนักความน่าจะเป็น เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 85% จากวันก่อนที่อยู่เพียง 66% เท่านั้น (รูปที่ 1) มองปรากฏการณ์ Readjusting ที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้ จะทําให้เงิน USD ทยอยแข็งค่าขึ้น และทําให้ Flow มีการไหลย้อนกลับไปยัง Dollar asset ชั่วคราว จนทําให้ตลาดหุ้นฝังสหรัฐฯเริ่มปรับตัว Outperform ได้ ในส่วนของบ้านเรา อาจต้องระวังเงินบาทที่จะเริ่ม ทยอยอ่อนค่าได้เช่นกัน
• Debate effect: กระแส Trump trade ได้รับความนิยมลดลงชั่วคราว ภายหลังคะแนนนิยมของนาย Donald Trump ผู้ท้าชิงตําแหน่งปธน.จาก พรรครีพับลิกันตกลงเล็กน้อยหลังจากการดีเบตเมื่อวานนี้ (รูปที่ 2) อาทิ เช่นราคาหุ้น Trump Media และราคา Bitcoin ที่อ่อนตัวลง ในทางกลับกัน ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นกลุ่มตัวแทนความคาดหวังทางด้าน นโยบายของพรรคเดโมแครตปรับสูงขึ้น หลังจากที่หลายฝ่ายมองว่าการดี เบตเมื่อวานนี้เป็นทางฝั่งนาง Kamala Harris ที่มีแต้มต่ออย่างชัดเจน ทั้งนี้ ใจความสําคัญของการดีเบตเมื่อวานนี้ที่เกิดขึ้น ได้แก่
1) นโยบายเศรษฐกิจ: ทรัมป์ยังคงเน้นการลดภาษีและการลดระเบียบ ข้อบังคับเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะที่แฮร์ริสสนับสนุน การลงทุนของรัฐบาลเพิ่มขึ้นในโครงการสังคมและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อจัดการกับความไม่เท่าเทียมทางรายได้และปรับปรุงบริการ สาธารณะ
2) นโยบายต่างประเทศ: การดีเบตเน้นถึงแนวทางที่แตกต่างกันใน นโยบายต่างประเทศ ทรัมป์มุ่งเน้นการยืนหยัดที่แข็งแกร่งต่อศัตรูและ การรักษาการมีอยู่ของกองทัพ ขณะที่แฮร์ริสเน้นความสําคัญของการ ทูตและการสร้างพันธมิตรระหว่างประเทศใหม่
3) ระบบสาธารณสุข: ทรัมป์ปกป้องแนวทางของเขาในการปฏิรูประบบ สุขภาพและการลดต้นทุน ขณะที่แฮร์ริสสนับสนุนการขยายการเข้าถึง บริการสุขภาพผ่านแผนรัฐบาลที่ครอบคลุมมากขึ้น
4) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: ทรัมป์แสดงความไม่แน่ใจต่อแนว ทางการบังคับใช้กฎระเบียบด้านสภาพภูมิอากาศและยังคงต้องการเน้น การพึ่งพาพลังงานจากฟอสซิล ขณะที่แฮร์ริสสนับสนุนการดําเนินการ ด้านสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจังและการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน
5) ประเด็นสังคม: แฮร์ริสเรียกร้องให้มีการปฏิรูประบบและเพิ่มงบประมาณ สําหรับการศึกษา ขณะที่ทรัมป์มุ่งเน้นนโยบายความมั่นคงเป็นสําคัญ
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities