📈 คุณจะเริ่มลงทุนอย่างจริงจังในปี 2025 ไหม? เริ่มต้นก้าวแรกพร้อมรับส่วนลด 50% สำหรับสมาชิก InvestingProรับส่วนลด

ยังมีMONENTUM เหวี่ยงขึ้น แต่จะเบาลง

เผยแพร่ 22/08/2567 10:07

หลังเปิดเผย FED MINUTE ความชัดเจนของทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของ FED ก็ชัดเจนขึ้นมา โดยในการประชุม 18 ก.ย.67 ความเห็นทั้ง 100% คาดลงดอกเบี้ย โดยที่ 36% คาดลงดอกเบี้ยถึง 0.5% ส่วนการประชุม กนง.บ้านเรา วานนี้มีมติ 6:1 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5% โดย เห็นว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงการฟื้นตัว และเงินเฟ้อก็อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถ จัดการให้อยู่ในกรอบได้ ภาพของนโยบายการเงินดังกล่าว ทำให้เงินบาท ยังอยู่ในภาวะที่แข็งค่า โดยล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 34.25 บาท/ USD สำหรับ การเมืองในบ้านเรายังเห็นพัฒนการของการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเริ่มเห็นแนวทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเป็นไปได้ว่าจะ เห็นการอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือนในเดือน ก.ย.67 ภาพดังกล่าวยังหนุนตลาดหุ้น ประเมินจากปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐาน เห็นว่า SET INDEX ยังมี MOMENTUM ในการเหวี่ยงขึ้นแม้จะมีน้ำหนักเบาลงวันนี้คาดกรอบ 1329 –1346 จุด TOP PICK เลือก CPAXT, SIRI และTASCO

ดอกเบี้ย US ใกล้ลง แต่ไทยยังคง เป็นแรงส่งเงินให้เงินบาทแข็งค่า วานนี้สหรัฐฯ ได้เผยแพร่ FOMC FED MINUTE ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ FED หลายราย มี ความเห็นให้ปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมรอบเดือน ก.ค. 67 จากความกังวล ตลาดแรงงานมีความเสี่ยงชะลอตัวหนัก ขณะที่บางส่วนยังต้องการเห็นความคืบหน้า เงินเฟ้อเพิ่มเติม เพื่อให้มั่นใจว่าจะเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ 2% นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตุปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะเงินฝืดช่วงที่ผ่านมา จะเป็นกดดันให้เงิน เฟ้อลดลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หนุนให้วัฏจักรดอกเบี้ยขาลงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ขณะที่ ตลาดการเงินให้น้ำหนัก 100% ที่จะเห็น FED ลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. นี้โดยยังต้อง จับตาว่าFED จะปรับลด 25 BPS. หรือ 50 BPS. ?

ส่วนบ้านเราผลการประชุม กนง. มีมติ 6:1 เสียง คงดอกเบี้ย 2.5% ไว้ตามคาด โดย ประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันยังสอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ และเอื้อ ต่อการรักษาเสถียรภาพในระยะยาว ทั้งนี้ กนง. ยังคงมีมุมมองบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย แต่ยังต้องติดตามข้อมูลอย่าง ใกล้ชิด สำหรับแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินในระยะถัดไป เผยว่า “จุดยืนเรื่อง ดอกเบี้ยอาจยังไม่เปลี่ยนแปลง” หากพัฒนาการของปัจจัยต่างๆ ในระยะถัดไปยังเป็นไป ตามคาดการณ์ของ กนง. และ “การปรับลดดอกเบี้ยมีฮกาสเกิดขึ้น” หากมีเหตุการณ์ ไม่คาดคิดกระทบต่อเศรษฐกิจ

กรณีที่ทิศทางดอกเบี้ยบ้านเรายังคงตรึงไว้ 2.5% ท่ามกลางวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงใน สหรัฐฯ ที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้ DOLLAR อ่อนค่าหนัก ซึ่งถือเป็นแรงส่งเงินให้เเงินบาท แข็งค่า -3.8%MTD สู่ 34.27 บาท/ดอลลาห์ และคาดหวังว่าFUND FLOW จะไหลกลับ เข้าตลาดหุ้นไทยมากขึ้น โดยในอดีตช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การถือครองหุ้นไทยโดยตรง ของต่างชาติเคยมีสัดส่วนสูงถึง 30.2% แต่ล่าสุดอยูที่ 24.5%

สรุป ดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่ใกล้เข้าสู่วัฏจักรขาลง แต่หากไทยยังคง ถือเป็นแรงส่งเงินให้เเงิน บาทแข็งค่า หนุน FUND FLOW ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยมากขึ้น

นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจยังเดินหน้าต่อ แต่อาจชะลอและ เปลี่ยนแปลงไปบ้าง หลังรู้ตัวนายกฯคนที่ 31 ของประเทศไทย ลำดับถัดไป คือ การดำเนินการจัดตั้ง ครม. ใหม่ ซึ่งคาดว่าจะรวบรวมรายชื่อได้ครบ ภายในวันที่ 26 ส.ค.67 และหลังจากนั้นจะมี การตรวจสอบคุณสมบัติอย่างละเอียดอีกราว 2-3 สัปดาห์ (เดิมใช้เวลาแค่ 1 สัปดาห์) จึงทำให้เกิดความกังวลว่านโยบายต่างๆที่เตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะถัดไป จะเกิด การล่าช้าหรือไม่ ? ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่า ช่วงเวลาไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงจากเดิมมากนัก เนื่องจาก โครงสร้างพรรคร่วมรัฐบาลยังชุดเดิม ขณะที่โครงการที่ทุกคนกังวลคงหนีไม่พ้น โครงการ DIGITAL WALLET ที่ล่าสุดข้อมูลจาก ไทยรัฐออนไลน์ บ่งชี้ว่าโครงการ ดังกล่าวเตรียมเปลี่ยนแปลง โดยจ่ายเงินสดแก่คนไทยคนละ 5,000 บาท ภายใต้ โครงการเติมเงินในกระเป๋าคนไทยให้เสร็จภายใน ก.ย.67 ตามกรอบงบประมาณ รายจ่ายปี 67 ส่วนอีก 5,000 บาทก้อนหลัง จะเติมให้เมื่องบประมาณรายจ่ายปี 68 ผ่านสภาเรียบร้อย อาจจะปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า และเปลี่ยนชื่อโครงการเป็น “งบ กระตุ้นเศรษฐกิจ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางด้านเศรษฐกิจ” ซึ่งประเด็นดังกล่าว คาดทำให้นักลงทุนคลายความกังวลไประดับหนึ่ง และหนุนให้เศรษฐกิจไทยยังมีโอกาสเห็นการเติบโตได้ในอนาคต ส่วนหุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าว คือ หุ้น กลุ่มเช่าซื้อ เกษตร-อาหาร และค้าปลีก อาทิ MTC TIDLOR TU TFG GFPT CPALL (BK:CPALL) CPAXT BJC เป็นต้น

ส่วนวันนี้ติดตามการแสดงวิสัยทัศน์ของนายทักษิณ ชินวัตร ใน งาน DINNER TALK : VISION FOR THAILAND 2024เวลา 17:30-21:00 น. โดย เนื้อหาที่คาดการณ์ว่าจะปราศรัย คือ เปิดมุมมองของอนาคตการเมืองไทย, เศรษฐกิจ ไทยจะขับเคลื่อนไปอย่างไร และอนาคตประเทศไทยจะเป็นไปในทิศทางไหน เป็นต้น คาด จะสามารถเรียกความเชื่อมั่นให้นักลงทุนรายย่อย สถาบัน และต่างชาติได้เป็นอย่างดี

สรุป นโยบายของพรรคร่วม ยังผลักดันเศรษฐกิจต่อ จากโครงสร้างพรรคร่วมรัฐบาล ที่ไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่โครงการ DIGITAL WALLET เตรียมเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่ คาดว่าจะเกิดขึ้นจริง และหนุนเศรษฐกิจไทยโตต่อในระยะถัดไปได้ ส่วนหุ้นที่คาดจะได้ ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าว คือ หุ้นกลุ่มเช่าซื้อ เกษตร-อาหาร และค้าปลีก อาทิ MTC BAM TIDLOR TU TFG GFPT CPALL CPAXT BJC เป็นต้น

ช่วงนี้ SET ขึ้นได้ดี มูลค่าซื้อขายมีคุณภาพมากขึ้น หลังจากได้นายกฯ คนที่ 31 “คุณแพทองธาร ชินวัตร” SET INDEX ปรับตัวขึ้นมาได้ โดดเด่น 3.7% ชนะตลาดหุ้นโลก MSCI ACWI ที่ขึ้นมา +1.8% นอกจากนี้หากพิจารณามูลค่าซื้อขายเห็นเพิ่มขึ้นแบบมีคุณภาพมากขึ้น คือ มูลค่าซื้อ ขายเฉลี่ยต่อวัน หลังจากได้นายกฯ คนที่ 31 (4 วันทำการ) เท่ากับ 4.68 หมื่นล้านบาท บวก 27% จากเดือน ก.ค. (มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยเดือน ก.ค. ที่ 3.67 หมื่นล้านบาท) และ บวก 10% จาก YTD (มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยในปีนี้4.25 หมื่นล้านบาท)

นอกจากนี้ปริมาณ SHOT SELL ทั้งระบบ หลังจากได้นายกฯ คนที่ 31 (4 วันทำการ) ยังลดน้อยลงเหลือ 4.05% โดยเดือน ก.ค. อยู่ที่ 4.5% และทั้งปี อยู่ที่ 10.58% หนุนให้มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยที่หัก SHORT SELL ออกหลังจากได้นายกฯ คนที่ 31 (4 วัน ทำการ) เท่ากับ 4.50 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ค.28% (มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยที่ หัก SHORT SELL เดือน ก.ค. อยู่ที่ 3.51 หมื่นล้านบาท) และสูงกว่าในปีนี้ 18% (มูลค่า ซื้อขายเฉลี่ยที่หัก SHORT SELL ในปีนี้ อยู่ที่ 3.81 หมื่นล้านบาท)

นอกจากนี้ SET INDEX อาจได้แรงหนุนจากการ COVER SHORT SELL บางส่วน เพราะเห็นหุ้นหลายๆ ตัว มีสถานะคงค้างการ SHORT ลดลงไปเยอะ อาทิ EA, BANPU, IVL, SIRI, TIDLOR, SPALI, AWC, TOP, COM, BEM, JMT, STA, BCH, MAJOR, CBG

สรุป โครงสร้าง SET INDEX ในช่วงนี้ ถือว่าปรับขึ้นแบบมีคุณภาพ เพราะปรับเพิ่มขึ้น พร้อมกับมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นถึง 10% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั้งปี ยิ่งไปกว่านั้น มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยที่หักมูลค่า SHORT SELL ออกยังเพิ่มขึ้นถึง 18%

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย