น่าจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ ประเมินภาพ SET INDEX ค่อยๆ จากแรงหนุนของหลายปัจจัย เริ่มจาก การเมืองในบ้านเรา ซึ่งล่าสุดมีการโปรดเกล้าฯ แต่ตั้งนายกรัฐมนตรี เมื่อ 18 ส.ค.67 หลังจากนั้นจะดำเนินกระบวนการตั้ง ครม. และสุดท้ายเป็น การแถลงนโยบายต่อรัฐสภาฯ ก่อนเริ่มทำงาน ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นภายในครึ่ง แรกของเดือน ก.ย.67 สถานการณ์ดังกล่าวถูกสะทัอนผ่านตลาดการเงิน โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอย่างชัดเจน ล่าสุดอยู่ที่บริเวร 34.50 บาท/USD ถือเป็นสัญญาณบวกต่อทิศทางFUND FLOW ในทางเศรษฐกิจวันนี้จะมี การประกาศ GDP ในงวด 2Q67 ซึ่งคาดว่าน่าจะเติบโต 2.2% YOY เพิ่มขึ้นจาก 1Q67 ที่เติบโต 1.5% YOY ประเมินว่าทิศทางในช่วง 2H67 น่าจะเห็นการเติบโตเป็นขั้นบันได ทั้งนี้ถือเป็นภาพที่สอดคล้องกับกำไร บริษัทจดทะเบียนที่คาดว่า 2H67 น่าจะเติบโตสูง
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ SET INDEX โดยเห็นแรงหนุนจาก การเมืองที่ ค่อยๆคลี่คลาย เศรษฐกิจ และ กำไร บจ. ที่ฟื้นตัว วันนี้คาดกรอบ 1293 – 1310 จุด หุ้น TOP PICK วันนี้เลือก INTUCH, PLANB และ RCL
ไทยได้นายกใหม่ คาดหวังเศรษฐกิจไปข้างหน้าต่อเนื่อง ศุกร์ที่ผ่านมา ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบให้ “น.ส.แพทองธาร ชินวัตร” เป็นนายกฯ คนที่ 31 ของไทย ด้วยคะแนนเสียง 319 : 145 ก่อนวันที่ 18 ส.ค.67 จะมี การโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกฯ ขณะที่กระบวนการในลำดับ จะเป็นการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม. และถวายสัตย์ปฏิญาณตน ซึ่งหลังจากนั้นจะมีการแถลงนโยบายต่อ รัฐบาลภายใน 15 วัน คาดจะมีความชัดเจนมากขึ้นในเดือน ก.ย. 67 ทั้งนี้หากอ้างอิงตามนายกคนที่ 30 ของไทย กระบวกการตั้งแต่ลงมติเลือนายก ไป จนถึง ครม. นัดแรกเริ่มประชุม ใช้ระยะเวลาราว 3 สัปดาห์
ในแง่มุมของการเดินหน้านโยบายต่างๆ มองว่ารัฐบาลยังคงมุ่งเป้าไปที่การกระตุ้น เศรษฐกิจ หลัง GDP GRWOTH ไทยเติบโตต่ำมาเป็นเวลานาน ขณะที่นโยบายเรือธง หลักของพรรคเพื่อไทย อย่างโครงการแจกเงิน 10,000 บาท นายกฯ เผยว่าจะไม่ล้มเลิก อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามเงื่อนไขว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ ? ขณะที่การขับเคลื่อนกองทุนวายุภักษ์ใหม่ กระทรวงการคลังเผยว่าอาจเปิดกว้างลงทุน หุ้น SMALL & MID CAP ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี คะแนน ESG สูง ไม่ติดเงื่อนไขเพียงแค่ กลุ่มที่อยู่ใน SET50 หรือ SET100
สรุป ความกังวล POLITICAL UNCERTAINTY ในบ้านเราดูผ่อนคลายลง หลังได้ นายกฯ ใหม่คนที่ 31 ซึ่งสุญญากาศทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ ทำให้ นโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเดินหน้าได้ต่อเนื่อง มองเป็น SENTIMENT เชิงบวกต่อ SET INDEX
หวังเศรษฐกิจไทยโตเกินคาด จะหนุน SET ฟื้นตัว เช้านี้เวลา 9.30 น. รอติดตามตัวเลข GDP GROWTH ไทยใน 2Q67 โดย BLOOMBERG คาด +2.1%YOY ขยายตัวสูงดีกว่างวด 1Q67 ที่ +1.5%YOY ซึ่ง ระยะถัดไปคาดหวังเศรษฐกิจไทยเติบโตแบบขั้นบันได จากแรงผลักมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ ด้าน BLOOMBERG ประเมิน 3Q67 +2.7%YOY, 4Q67 +4.0%YOY ส่วนตลอดปี 2567 คาดการณ์ GDP GROWTH อยู่ที่ +2.6%YOY ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยหนุนให้ SET มี แนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน
หากพิจารณาจากข้อมูลในอดีต ช่วงที่เศรษฐกิจไทยมีแรงกระตุ้นทยอยฟื้นตัวได้สูง กว่าคาดการณ์ มักจะหนุนให้ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มขยับขึ้นตามไปด้วย อาทิ ช่วง 1Q66-1Q65 เป็นต้น
สรุป คาดหวังเศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโตแบบขั้นบันได เชื่อว่าจะช่วยให้ SET มีแนวโน้ม ปรับตัวสูงขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน ท่ามกลางการเดินหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ต่างๆ ของภาครัฐ
หวัง FUND FLOW ไหลเข้าต่อ หลังผ่านช่วงการเมืองร้อน หลังเกิดเหตุการณ์ BLACK MONDAY 5 ส.ค. ตลาดหุ้นไทยยังถูกกดดัน จาก อุณหภูมิการเมืองไทยค่อนข้างสูง โดยวันที่ 7 ส.ค. ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค ก้าวไกล และวันที่ 14 ส.ค. นายกฯเศรษฐายุติบทบาท อย่างไรก็ตามถ้าวิเคราะห์ FUND FLOW พบว่า ตั้งแต่ 7 ส.ค. - ปัจจุบัน ต่างชาติเป็นผู้ ซื้อสุทธิหุ้นไทยมากสุด 1,649 ล้านบาท (ซื้อสุทธิ 5 ใน 7 วันทำการ) และซื้อสุทธิผ่าน NVDR อีก 447 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าช่วงการเมืองร้อนแรงต่างชาติก็ค่อยๆ เข้ามา ทยอยสะสมเหมือนกัน
ส่วนสัปดาห์นี้คาดหวัง SET INDEX มีโอกาสเดินหน้าต่อ สะท้อนได้จากสถิติในอดีต ช่วงโหวตนายกฯ 3 ครั้งที่ผ่านมา พบว่า SET INDEX มีการรีบาวน์ขึ้นทุกครั้งในวันโหวต 0.2% -1.6% และปรับตัวขึ้นเรื่อยๆ 1 สัปดาห์บวก 1.3% -2.0%
นอกจากนี้ยังเห็นทิศทางค่าเงินบาทที่แข็งค่าเร็วในช่วงข้ามคืนหลังได้นายกฯ คนที่ 31 ณ 16.30 น.16/08/24 ค่าเงินบาท 35 บาท/เหรียญ แข็งค่าขึ้นมาเร็ว ณ 07.00 น. 19/08/24 ค่าเงินบาทแข็งมาอยู่ที่ 34.6 บาท/เหรียญ ถือเป็นสัญญาณบวกว่ามีเม็ด เงินไหลเข้ามาในประเทศ และบางส่วนอาจจะไหลเข้ามาซื้อหุ้นไทยเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้
กลยุทธ์แนะนำสะสมหุ้นเป้าหมายของ FUND FLOWคือ
1. หุ้นพื้นฐานขนาดใหญ่สภาพคล่องสูง PTT (BK:PTT), AOT (BK:AOT), ADVANC, PTTEP, GULF, BDMS, KBANK (BK:KBANK), INTUCH
2. หุ้นพื้นฐานราคาย่อตัวลงมาลึกหวังรีบาวน์ PTTGC -38%YTD, LH - 36%YTD, SCGP -36%YTD, CRC -35%YTD, IVL -35%YTD, SCC - 33%YTD, ERW -33%YTD, BGRIM -38%YTD
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities