Defensive play + Energy / Politics / MSCI
• Key factors: สําหรับปัจจัยสําคัญที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
1) การแถลงรายละเอียดของกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่งในวันนี้
2) การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อคดีคุณสมบัตินายกฯในวันที่ 14 ส.ค. (รายละเอียดด้านล่าง)
3) ความเสี่ยงปัจจัย Geopolitical risk ระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน โดยต้องติดตามดูว่าทางอิหร่านจะมีการโจมตีตอบโต้อิสราเอลหรือไม่ หลังจากที่ผู้น่าระดับสูงของกลุ่มฮิชบอลเลาะห์และกลุ่มฮามาสถูก สังหารไปในช่วงที่ผ่านมา
4) ตัวเลขเศรษฐกิจสําคัญของสหรัฐฯที่อาจส่งผลต่อมายังคาดการณ์ของ ตลาดเกี่ยวกับประเด็น Growth fear อาทิเช่น ตัวเลขยอดค้าปลีก, การขอรับสวัสดิการว่างงาน, ผลผลิตอุตสาหกรรมในวันที่ 15 ส.ค. ตัวเลขการสร้างบ้านใหม่ในวันที่ 16 ส.ค. และตัวเลขความเชื่อมั่น ผู้บริโภคในวันที่ 16 ส.ค.
5) การออกมาให้ความเห็นของกรรมการ Fed คนสําคัญอาทิเช่น นาย Raphael Bostic ที่จะออกมาพูดในคืนนี้เกี่ยวกับมุมมองแนวโน้ม เศรษฐกิจสหรัฐฯล่าสุด
• Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ แนะน่านักลงทุนขยับพอร์ตการลงทุนให้เข้าสู่ โหมด “เชิงรับ” มากขึ้น จากปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองทั้งต่างประเทศและ ในประเทศ ซึ่งอาจจะทําให้เราเห็นการโยกย้ายเม็ดเงินเข้าสู่สินทรัพย์ ปลอดภัยมากขึ้นอีกครั้ง อาทิ พันธบัตร ทองคํา และกลุ่มหุ้น Defensive สําหรับหุ้นไทย แนะน่านักลงทุนถือครองหุ้นในส่วนเดิมไว้ ก่อน โดยโฟกัสไปที่กลุ่ม Defensive อย่าง Utilities และโรงพยาบาล ต่อไป (GULF, BGRIM, BDMS, BH) ในขณะที่กลุ่ม Qil & Gas (PTTEP, TOP, BCP, SPRC) น่าจะได้ Sentiment หนุนระยะสั้นจากการ แกว่งขึ้นของราคานํามันดิบมายืนที่ระดับ 80 เหรียญ/บาร์เรล จากความ เสี่ยง Geopolitical risk ที่สูงขึ้น ในส่วนของการเพิ่มนํ้าหนักการลงทุนใหม่ นั่น เราขอดูความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศเสียก่อน เนื่องจาก อาจส่งผลกระทบต่อคาดการณ์ EPS ในตลาดและระดับดัชนี SET ที่เหมาะสมของเราในแต่ละกรณีได้ (รายละเอียดด้านล่าง)
• Thai politics: จับตาสถานการณ์การเมืองไทยในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งไฮไลท์สําคัญสุดคงหนีไม่พ้นการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญต่อคดี คุณสมบัตินายกฯเศรษฐา ทวีสิน ในวันที่ 14 ส.ค.นี้ ซึ่งเราประเมินผลลัพธ์ ที่ออกมาทั้ง 2 กรณีดังต่อไปนี้
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities