💎 เปิดเผยหุ้นราคาถูกที่ซ่อนอยู่ในตลาดเริ่มต้นเลย

ผันผวนกรอบแคบรอดูการเมือง

เผยแพร่ 07/08/2567 10:05
SETI
-

หลังจากผ่าน PANIC SELL เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ภาพใหญ่ของตลาด หุ้นทั่วโลกเริ่มเย็นลง โดยหลายตลาดที่ปรับลงแรงมีการ REBOUND กลับขึ้นมา ส่วนบ้านเราเห็นการแก่วงตัวในกรอบแคบๆ ซึ่งประเมินว่า เหตุ ปัจจัยประการหนึ่งเกิดจากการที่นักลงทุนรอติดตามผลการวินิจฉัยของ ศาลรัฐธรรมนูญ ใน 2 คำร้องที่สำคัญ สำหรับประเด็นที่น่าติดตามวันนี้ ในต่างประเทศมีเรื่องความคาดหวังว่า FED จะปรับลดดอกเบี้ย เดือน ก.ย.67 ในอัตรา 0.5% ขณะที่ต้องติดตามสถานการณ์สู้รบในตะวันออก กลาง หลังจากที่อิหร่านประกาศจะตอบโต้อิสราเอล ส่วนในประเทศ สภาฯ ได้ผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณกลางปีฯ 1.22 แสนล้านบาทแล้ว ถือเป็นการ ยืนยันการเดินหน้า DIGITAL WALLET ส่วนวันนี้ รอติดตามตัวเลขเงิน เฟ้อเดือน ก.ค.67 ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 0.7% YOY ประเมินว่า SET INDEX น่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบ รอดูสถานการณ์การ เมื้องที่จะมีการวินิจฉัยคำร้องยุบพรรคก้าวไกลในวันนี้ คาดกรอบ 1265 –1286 จุด TOP PICK เลือก BDMS, CPALL (BK:CPALL) และ PLANB

RECESSION ในสหรัฐฯจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ? + ราคา น้ำมันดิบมีทิศทางเป็นเช่นไร ในช่วงต้นสัปดาห์หลายตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ส่งสัญญาณอ่อนแอต่อเนื่อง ทั้งการ จ้างงานนอกภาคการเกษตร ที่ชะลอตัวลง 2 เดือนติดต่อกัน, อัตราการว่างงาน สูงสุดในรอบ 33 เดือน และ ค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมง YOY ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 24 เดือน ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เกิด PANIC SELL โดยตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค. 67 ตลาดหุ้นสหรัฐตกหนัก -5% ถึง -8% (โดยเฉพาะวันที่ 06/08/24 กลับมาเกิด BLACK MONDAY อีกครั้งในรอบ 37 ปี) อย่างไรก็ตามวานนี้เริ่มเห็นสัญญาณการ ดีดตัวกลับเล็กน้อยราว +0.7% ถึง +1.0% หลังตัวเลข PMI ภาคบริการสหรัฐฯ เดือน ก.ค. 67 ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ในโซนขยายตัวเหนือ 50 จุด และการคาดการณ์การ เกิด RECESSION ของสหรัฐฯ จาก BLOOMBERG ยังอยู่ระดับเดิมกับช่วงต้นเดือน ส.ค.67 และมีโอกาสน้อยลงจากช่วงต้นปีจาก 50% เหลือ 30%

ขณะเดียวกันความกังวล DEMAND ชะลอตัวในหลายประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ จีน ยังสร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมันดิบโลก(WTI/BRENT) ปรับตัวลงต่อเนื่องราว 0.3%-0.4% อย่างไรก็ตามความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น ยัง มีโอกาสผลักให้ราคาน้ำมันขยับขึ้นได้หลังจากผู้นำกลุ่มฮามาสและกลุ่มฮิซบอล เลาะห์ถูกลอบสังหาร จึงทำให้อิหร่านประกาศว่าจะล้างแค้นอิสราเอลและสหรัฐ ซึ่ง อาจจะส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุปทานน้ำมันในตะวันออกกลางซึ่งเป็นภูมิภาคที่ผลิต น้ำมันดิบมากถึง 1 ใน 3 ของโลก

สรุป ความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯว่าจะเกิด RECESSION ได้สร้างแรงกดดันต่อ สินทรัพย์เสี่ยงผันผวนในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเริ่มคลายความกังวลประเด็น ดังกล่าวไปบ้างแล้ว ลุ้นสร้าง SENTIMENT เชิงบวกต่อ SET ในวันนี้ อย่างไรก็ตาม อาจมีแรงกดดันจากความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ ตามความเสี่ยงเชิงภูมิ รัฐศาสตร์ที่รุนแรงขึ้นตามลำดับ

มาตรการกระตุ้น CONSUMPTION มาไกลเกินครึ่งทาง วานนี้ในที่ประชุม สว. มีมติ 139 : 38 เสียง เห็นชอบงบฯ ปี 2567 เพิ่มเติม 1.22 แสน ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการ DIGITAL WALLET (วงเงินทั้งหมด 4.5 แสนล้านบาท) สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ จะส่งไปยัง ครม. พิจารณาต่อไป ก่อนที่จะมีการนำขึ้น ทูลเกล้าฯ ถวายในวันที่ 13 ส.ค. นี้ โครงการ DIGITAL WALLET ที่เดินหน้ามามากว่าครึ่งทาง เชื่อว่าจะยังคงดำเนิน ต่อไป ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองไทยที่เกิดขึ้น โดยในเดือน ส.ค. 67 รอ ติดตามผลการตัดสินของ ศาล รธน. ใน 2 คดีใหญ่ทางการเมือง คือ

1. ศาล รธน.นัดฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ในวันนี้ เวลา 15.30 น.

2. ศาล รธน.นัดฟังคำวินิจฉัยคดีถอดถอน นายกฯเศรษฐา ในวันที่ 14 ส.ค.67 เวลา 15.00 น.

ส่วนประเด็นที่น่าติดตามในวันนี้เพิ่มเติมคือ การรายงานตัวเลขเงินเฟ้อไทยเดือน ก.ค. 67 โดย CONSENSUS คาดว่าจะขยับขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อยแค่ +0.7%YOY และ +0.1%MOM อย่างไรก็ตาม แม้เงินเฟ้อไทยจะมีโอกาสขยายตัวต่ำ กว่ากรอบเป้าหมาย 1-3% แต่ในระยะถัดไปหากมีแนวโน้มสูงขึ้นจากแรงหนุน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ น่าจะทำให้มุมมองดอกเบี้ยนโยบายบ้านเรายังคง ยืนอยู่ที่ระดับ 2.5% ตามเดิม

สรุป โครงการ DIGITAL WALLET ที่เดินหน้ามามากว่าครึ่งทาง เชื่อว่าจะยังคง ดำเนินต่อไป ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองไทยที่เกิดขึ้น มองเป็น SENTIMENT เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก อาทิ CPALL CPAXT BJC

ช่วงที่เหลือของปีมีโอกาส เห็นบาทแข็งค่าขึ้น ตลาดคาดว่า FED มีโอกาสเร่งลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.67-0.5%เหลือ 5% โดยลด ทุกการประชุมจนปลายปี2567 ลดรวม -1% เหลือ 4.5% โอกาสการเร่งลดดอกเบี้ย ของ FED มีโอกาสส่งผลให้ค่าเงินบาทเร่งแข็งค่าได้

ฝ่ายวิจัยฯ ทำการศึกษาว่า ส่วนต่างดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐกับไทยที่แคบลง 0.25% จะหนุนให้บาทแข็งค่าได้ราว 70 สตางค์ ดังนั้นถ้า21 ส.ค. กนง. ยังคงดอกเบี้ยไทย และ 18 ก.ย. FED ลดดอกเบี้ย -0.25% ถึง -0.5% อาจจะหนุนให้บาทเร่งแข็งค่าขึ้น 70 สตางค์ ถึง 1.4 บาท ได้จูงใจให้ต่างชาติทยอยกลับมาลงทุนในหุ้นไทยเพิ่มขึ้นในช่วงที่ เหลือของปี

นอกจากนี้ยังเห็นเม็ดเงินนักลงทุนไทย ที่ไหลออกนอกประเทศ (FCD) ไปกว่า 2.2 หมื่น ล้านเหรียญ เริ่มไหลกลับมา1.4 พันล้านเหรียญ และคาดว่ามีโอกาสไหลกลับได้อีกไม่ น้อยกว่า 6 พันล้านเหรียญ ถ้าส่วนต่างดอกเบี้ยสหรัฐไทยแคบลงไม่ถึง 2.5% ในช่วง ที่เหลือของป

สรุป ค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้น จูงใจให้นักลงทุนต่างชาติมีโอกาสได้กำไรจาก อัตราแลกเปลี่ยน และกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น บวกกับเริ่มเห็นเม็ดเงินนัก ลงทุนไทยที่ไหลออกไปต่างประเทศ ทยอยกลับมาในประเทศมากขึ้น ทั้ง 2 ส่วนน่าจะ ค่อยๆ กลับมาสะสมหุ้นไทย หนุนให้ตลาดหุ้นมีโอกาสค่อยๆ ฟื้นตัวได้

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย