นอกจากความกังวลความเสี่ยงเรื่อง RECESSION แล้ว อีกเหตุปัจจัย หนึ่งที่ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเฉพาะในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว น่าจะเกิด จาก VALUATION ของแต่ละตลาดที่ค่อนข้างแพง ทั้งนี้เราประเมินว่า ตลาดหุ้นมีโอกาสที่ต้องเผชิญกับภาวะความผันผวนต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามในวันนี้มีโอกาสที่จะเห็น TECHNICAL REBOUND ซึ่ง ถือเป็นธรรมชาติของตลาดที่เกิดขึ้นหลังจากการเกิด PANIC SELL สำหรับตลาดหุ้นบ้านเรา เชื่อว่าการปรับตัวลดลงแรงเป็นผลมาจาก SENTIMENT ที่ได้รับต่อมาจากตลาดหุ้นต่างประเทศ แต่ด้วยเนื้อหาของ ตลาดหุ้นบ้านเรา ที่ VALUATION ไม่แพง ขณะที่เศรษฐกิจก็อยู่ในฐานที่ ต่ำและกำลังฟื้นตัว ระดับราคาหุ้นที่ปรับลดลงมาจึงน่าจะถือเป็นโอกาส สำหรับนักลงทุนระยะยาว แต่การTRADING ระยะสั้นความเสี่ยงยังสูง หลัง PANIC SELL การเกิด TECHNICAL REBOUND ก็มักจะตามมา แต่ความผันผวนยังมีอยู่ต่อ คาด SET INDEX มีแนวรับบริเวณ 1265- 1270 จุด แนวต้าน 1290 จุด TOP PICK เลือก BDMS, CK และ CPALL (BK:CPALL)
ACTION ต่อเนื่องจากความกังวล RECESSISON วานนี้ตลาดหุ้นโลกยังคงพากันดิ่งลงต่อเนื่อง โดยในฝั่งสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงราว - 1.5% ถึง -2.4% ส่วนฝั่งยุโรปปิดตัวในแดนลบราว -1.3% ถึง -2.7% ขณะที่ฝั่งเอเชีย เกิด PANIC SELL ถล่มหนัก เฉพาะอย่างยิ่งญี่ปุ่นร่วงมากสุดเป็นประวัติการณ์ - 12.4% ด้านบ้านเรา -2.93% กดดัน SET INDEX ทำจุดต่ำสุดในรอบ 4 ปี จากความกังวลเศรษฐกิจ RECESSION ในสหรัฐฯ นอกจานกนี้ สัญญาณจาก SAHM RULE เตือนว่าอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น 0.5% จากจุดต่ำสุดในรอบ 12 เดือน สถิติมีความแม่นยำสูงถึง 100% ในการทำนาย RECESSION ทำให้ระยะถัดไป จำเป็นต้องสังเกตภาพตลาดแรงงานสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด โดยในวันที่ 6 ก.ย. 67 รอ ติดตามตัวเลขการจ้างงานและอัตราการว่างงานอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ เริ่มเห็นการ REBOUND กลับขึ้นมา นำโดย NIKKEI +10.0%, KOSPI +3.3%, HANG SENG +1.2% หลังตัวเลข PMI ภาค บริการสหรัฐฯ เดือน ก.ค. 67 ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ในโซนขยายตัวเหนือ 50 จุด ซึ่งช่วย คลายความกลัวเรื่อง RECESSION ลงไปได้บ้าง ขณะที่การต้านทาน RECESSION ในสหรัฐฯ มองว่า FED ยังมีกระสุนสำรองอีกมาก ผ่านการปรับลดดอกเบี้ย ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับสูง ขณะที่ผลการสำรวจ FED WATCH TOOL เผยตลาดการเงินให้น้ำหนัก 87.5% ที่อาจเห็น FED ใช้ยาแรงปรับ ลดดอกเบี้ย 0.5% (เดิมคาด 0.25%) ในการประชุมรอบเดือน ก.ย. นี้
สรุป ความกังวลเศรษฐกิจ RECESSION ในสหรัฐฯ ยังสร้างแรงกดดันต่อสินทรัพย์ เสี่ยงผันผวนต่อเนื่อง ขณะที่เช้านี้เริ่มเห็นตลาดหุ้นแถบเอเชีย REBOUND กลับขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งในมุมตลาดแรงงานและ ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ
พรุ่งนี้ ฟังคำวินิจฉัย กรณีพรรคก้าวไกล ส่วนพุธหน้า ลุ้นคดี ถอดถอนนายก พรุ่งนี้ศาลรธน.นัดฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล เวลา 15.30 น.ซึ่งแนวทางคำ ตัดสินที่เกิดขึ้นได้มีอยู่ 3 แนวทาง ดังนี้
• หากศาลมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคก้าวไกล สส.ภายในพรรค สามารถย้าย พรรคได้ภายใน 60 วัน ซึ่งเห็นว่าไม่ได้ทำให้เกิด DOWNSIDE ให้กับคะแนน เสียงพรรคร่วมรัฐบาล
• หากศาลนัดฟังคำวินิจฉัยแล้ว ไม่ยุบพรรคก้าวไกล ท่าทีของพรรคฝ่ายค้าน ทางสภาฯ ก็น่าจะดูร้อนแรงและแข็งแกร่งมากขึ้น
• หากศาลนัดฟังคำวินิจฉัยแล้ว ไม่ยุบพรรคก้าวไกล แต่ศาลอาจตัดสิน ความผิด ม.112 จากสส.ในพรรคแทน ซึ่งอาจทำให้ ส.ส. บางส่วนถูกตัดสิทธิ ทางการเมือง
ซึ่งต้องติดตามวันนี้ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร โดยสัปดาห์หน้ามีอีก 1 คดีที่นักลงทุนให้ ความสนใจไม่แพ้กัน นั้นคือ คดีถอดถอน นายกฯเศรษฐา ในวันที่ 14 ส.ค.67 เวลา 15.00 น.ซึ่งหากศาลนัดฟังคำวินิจฉัยแล้ว นายกฯ ถูกถอดถอน ตลาดหุ้นน่าจะถูก ตีความในเชิงลบ เพราะ ครม.ในปัจจุบัน จะพ้นสภาพไปด้วย และต้องมีการโหวตเลือก นายกใหม่ และอาจนำไปสู่มาตการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆที่เตรียมไว้ ต้องชะลอออกไป เช่นกัน ซึ่งอาจส่งผลให้ GDP GROWTH บ้านเรา ชะลอตัวลงในบางภาคส่วน แต่ถ้า นายกฯ ไม่ถูกถอดถอน การดำเนินนโยบายต่างๆ ยังเป็นไปตามกระบวนการ ตามปกติ และตลาดหุ้นน่าจะตอบสนองในเชิงบวกมากกว่า
สรุป ประเด็นความไม่แน่นอนทางการเมืองไทยยังต้องติดตามต่อ โดยจะรู้ผลลัพธ์ใน สัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดหุ้นไทยระยะถัดไป และในช่วงเวลาก่อนรู้ ผล(ปัจจุบัน) น่าจะกดดันให้ตลาดหุ้นไทยผันผวนในกรอบแคบ
หวังตลาดหุ้นรีบาวน์ หลังลงลึก แนะหุ้น 3 ธีม วานนี้เกิด BLACK MONDAY อีกครั้งในรอบ 37 ปี หลังตลาดหุ้นโลกลงแรงโดย NIKKEI -12.4%, NASDAQ -3.4% และตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลดลงแรงตาม ตลาดหุ้นโลก ลดลง -38.41 จุด หรือ -2.93% ทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 4 ปี โดยปัจจัยต่างๆ ที่กดดันเกิดจากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว จากเดิมเชื่อว่า เป็น SOFT LANDING และกังวลประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยของ BOJ ส่งผลให้ค่าเงินเยน ที่แข็งเร็ว ทำให้เกิดความผันผวนจากการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินจากการทำ CARRY TRADE ส่วนวันนี้คาดว่าจะมีการรีบาวน์กลับขึ้นมาบ้าง
▪ จากเทคนิคอลรีบาวน์ ตามหุ้นโลก โดยเช้านี้ ตลาดหุ้น NIKKEI +10%, KOSPI +3.5% เป็นต้น
▪ FED ยังมีกระสุนใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายจากดอกเบี้ยที่สูงถึง 5.5% ยับยั้งความกังวลการเกิด RECESSION ใด้อยู่
ทั้งนี้นักลงทุนต้องติดตามตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดในช่วงต่อจากนี้ เพราะจะเป็นฉนวนให้เกิดความผันผวนในระยะถัดไปได้ แนะนำหุ้นเด่น 3 ธีม
1. เก็งกำไรสั้นๆ ในหุ้นพื้นที่ลงลึกเมื่อวาน CK-8.5%, CRC -7.5%, PLANB - 6.2%, IVL -5.8%, DELTA -5.7%, SCC -5.0%
2. สะสมหุ้นได้ประโยชน์จากบาทแข็งเทรนด์ดอกเบี้ยลง GULF, GPSC, BGRIM, MTC
3. สะสมหุ้นผันผวนต่ำหรือปันผลสูง BDMS, ADVANC, LH, SIRI, PTTEP
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities