แม้SET INDEX วานนี้จะบวกได้ 0.88 จุด แต่หากไม่รวม DELTA ที่ปรับตัว ขึ้นแรงขึ้นมาพบว่า SET INDEX น่าจะติดลบประมาณ 6 จุด สำหรับ ทิศทางหลังจากนี้ คาดหวังว่าน่าจะเห็นเม็ดเงินก้อนใหม่ๆ ไหลเข้าสู่ตลาด หุ้น โดยวานนี้ ครม. เห็นชอบ TESG FUND บนเงื่อนไขที่ให้นำเงินลงทุน ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 3 แสนบาท ระยะเวลาถือครอง 5 ปีเต็ม ซึ่งคาดหวัง ว่าน่าจะเห็นเม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นราว 3 – 4 หมื่นล้านบาท ต่อปี (ใน กรณีที่โครงการอยู่เต็มปีปฎิทิน) นอกจากนี้ยังมีการระดมเงินลงทุนผ่าน กองทุนวายุภักษ์ ราว 1 แสนล้านบาท ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นในปี 2567 สำหรับทิศทางของ FUND FLOW ต่างชาติ ภายใต้สถานการณ์ที่ FED เตรียมปรับลดดอกเบี้ย ขณะที่ กนง. คงดอกเบี้ย มีโอกาสทำให้เงินบาทอยู่ ในโซนแข็งค่า เปิดโอกาสให้FUND FLOW ไหลเข้าได้ดีขึ้น เม็ดเงินที่จะไหลเข้าตลาดเพิ่มขึ้นในอนาคต น่าจะเป็นผลดีต่อ SET INDEX ในระยะต่อไป ส่วนในระยะสั้นก็น่าจะทำให้DOWNSIDE จำกัด วันนี้คาด กรอบ 1300 –1316 จุด TOP PICK เลือก MAJOR, PLANB และ SIRI
ทิศทางดอกเบี้ยขาลงชัดเจน โดยเฉพาะสหรัฐฯ มีผลต่อค่าเงิน บาทแข็งค่าขึ้นตามกลไล วันนี้จับตาการประชุม 3 ธนาคารกลางใหญ่ เริ่มจาก 31 ก.ค.67 สหรัฐฯและญี่ปุ่น ตลาดคาดคงดอกเบี้ยไว้ระดับเดิมที่ 5.50% และ 0.10% ตามลำดับ ส่วนวันถัดมา 1 ส.ค.67 อังกฤษ ตลาดคาดปรับลดดอกเบี้ยสู่ระดับ 5.00%
แม้การประชุมเดือน ก.ค.67 ยังคงเห็นการคงดอกเบี้ยของสหรัฐฯ แต่ระยะถัดไป จะเริ่ม เห็นทิศทางดอกเบี้ยที่เป็นขาลงชัดเจนขึ้น โดยตลาดประเมินว่า FED จะปรับลด ดอกเบี้ยปีนี้ 2-3 ครั้ง โดยผลการสำรวจของ FED WATCH TOOL ให้น้ำหนักเกือบ 90% คาดว่าจะเห็นวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงเริ่มต้นขึ้นในเดือน ก.ย. 67 คาด ณ สิ้นปี ดอกเบี้ยจะอยู่ระดับ 4.75%
ขณะที่บ้านเรา ในมุมมองของ ธปท. มีโอกาสสูงที่จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม 2.50% จนถึงสิ้นปี โดยแสดงจุดยืนเดิมในเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันที่ 2.50% เป็น ระดับที่เหมาะสมกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และเสถียรภาพการเงินของบ้านเรา อีกทั้ง เงินเฟ้อไทยยังมีโอกาส ทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นตามการมาของ DIGITAL WALLET ในช่วง 4Q67 ประเด็นดังกล่าว อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ FUND FLOW ชะลอการไหล ออกได้ และหนุนให้ค่าเงินบาทมีเสถียรภาพมากขึ้นในอนาคต ซึ่งข้อมูลในอดีตบ่งชี้ว่า ความสัมพันธ์ของส่วนต่าง BOND YIELD สหรัฐ – ไทย กับค่าเงินบาท เคลื่อนไหวไป ทิศทางเดียวกัน โดยมีค่า CORRELATION สูงถึง 0.85
สรุป ทิศทางดอกเบี้ยอยู่ในโหมดขาลงชัดเจน โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ตลาดคาดว่าจะ ทยอยปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้ 2-3 ครั้ง ขณะที่ไทยอาจยังไม่ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย ในปีนี้ โดยมองเป็นระดับที่เหมาะสมกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และเสถียรภาพ การเงินของบ้านเรา จึงทำให้ค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าระยะถัดไป และลุ้น FLOW ต่างชาติไม่ไหลออกจากบ้านเราไปมากกว่านี้ ดังสถิติในอดีต
ราคาน้ำมันผันผวน หลังปัจจัย DEMAND - SUPPLY สวนทาง ประเด็นราคาน้ำมันยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องด้วยมีปัจจัยหนุนจากทั้งฝั่ง SUPPLY รวมปัจจัยกดดันในฝั่ง DEMAND ที่เสี่ยงชะลอตัวลง จากเศรษฐกิจประเทศ ขนาดใหญ่มีโอกาสเติบโตได้ช้าลง
สำหรับแรงกระตุ้นให้ราคาน้ำมันดีดตัว ส่วนหนึ่งมากจาฝั่ง SUPPY ที่อาจลดลงจาก ความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่เริ่มกลับมามีน้ำหนักอีกครั้ง
• ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง อิสราเอลโจมตีทางใต้ของกรุงเบรุต เมือง หลวงของเลบานอน เพื่อสังหารผู้บัญชาการทางทหารของกลุ่มฮิซบอล เลาะห์ซึ่งเป็นการกระดับความตึงเครียด และเพิ่มความกังวลต่อการขยายวง กว้างของสงครามไปในระดับภูมิภาค
• ความร้อนแรงในทะเลจีนใต้จากกรณที่จีนและรัสเซียได้ทำซ้อมรบด้วยกระสุน จริงในทะเลจีนใต้ อีกทั้งสหรัฐฯ ได้ประกาศงบสนับสนุนการทหารฟิลิปปินส์ มูลค่ากว่า500 ล้านเหรียญ
ในทางกลับกันราคาน้ำมันอาจมีแรงกดดันจากปัจจัย DEMAND ที่ส่งสัญญาณชะลอ ตัวลง สะท้อนจาก PMI ภาคการผลิตจีนเดือน ก.ค. 67 ที่ประกาศออกมาล่าสุดเช้านี้ อยู่ที่ชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 50.2 จุด ตามคาด ซึ่งปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนที่ 50.5 จุด
เชิง VALUATION กองทุน TESG น่าซื้อสะสม วานนี้ ครม. เห็นชอบกองทุน TESG ใหม่ โดยมียอดเงินที่สามารถซื้อมาลดหย่อนภาษี ได้สูงถึง 3 แสนบาทต่อปี (เดิม 1 แสนบาทต่อปี) และถือครองเพียงแค่ 5 ปี (เดิม 8 ปี) และ ประเภทหุ้นที่กองทุนสามารถลงทุนได้เป็นหุ้นยั่งยืนให้ความสำคัญเรื่อง ESG ซึ่งทาง ตลาดฯ อยู่ในช่วงปรับกฎเกณฑ์ ESG RATING ให้น่าเชื่อถือและเป็นสากลมากขึ้น โดยปัจจุบันกองทุนใช้ดัชนี SETESG เป็นเกณฑ์อ้างอิง และเป็นตัวเลือกในการลงทุน เป็นหลัก ฝ่ายวิจัยประเมินว่าในช่วงนี้เป็นจังหวะเหมาะสมที่เข้าไปลงทุนหุ้นในดัชนี SETESG เพราะหากดูในเชิง VALUATION ณ 30 ก.ค. 67 ถือว่าถูกมาก เมื่อเทียบกับตลาดทุก มิติดังนี้
▪ SETESG ย่อตัวลงมาลึก -10.23%YTD (ต่ำกว่า SET -7.61% YTD) แต่ ระยะยาว 3 -5 ปี ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า SET
▪ SETESG มี TRAILING P/E เพียง 14.96 เท่า (ต่ำกว่า SET 17.09 เท่า)
▪ SETESG มี TRAILING P/BV เพียง 1.21เท่า (ต่ำกว่า SET 1.23เท่า)
▪ SETESG มี TRAILING DIVIDEND YIELD สูงถึง 3.81 เท่า (สูงกว่า SET 3.50เท่า)
ถ้าลงไปดูองค์ประกอบในของ SETESG พบว่า มี 25 หุ้นที่มีน้ำหนักมากสุด คือ PTT (BK:PTT) 8.5%, AOT (BK:AOT) 7.7%, ADVANC 6.4%, GULF 5.3%, PTTEP 5.3% และอื่นๆ ตาม ตารางทางด้านล่าง พร้อมกับรายละเอียด ESG RATING และเป็นหุ้นที่อยู่ในกองทุน วายุภักษ์ 1 หรือไม่?
สรุป เชิง VALUATION กองทุน TESG น่าซื้อสะสม เพราะดัชนีอ้างอิงอย่าง SETESG ถือว่าถูกมากกว่าตลาด และในระยะยาวยังมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดอีก ทั้งวัดจากผลตอบแทน 3 – 5 ปีในอดีต และการให้ความสำคัญกับความยั่งยืนของ ธุรกิจ
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities