SET INDEX วานนี้ REBOUND ขึ้นมาตามคาด แต่หากพิจารณาปัจจัยแวดล้อม ทางพื้นฐานระยะสั้นที่ยังไม่มีตัวขับเคลื่อนที่ชัดเจน ทำให้เรามองว่ายังถือเป็น TECHNICAL REBOUND อย่างไรก็ตามหากมองในภาพใหญ่ พบว่าการปรับ ประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนของนักวิเคราะห์ หลังการประกาศงบงวดปี 2566 จนถึงปัจจุบันน่าจะเข้าสู่ระยะสุดท้ายแล้ว โดยในส่วนของ ASPS RESEARCH ประเมินว่าตัวเลข EPS ปี 2567 หลังการปรับประมาณการแล้ว น่าจะอยู่ที่บริเวณ 92 บาท/หุ้น เติบโตราว 12% YOY ภายใต้สมมุติฐานที่ กำหนดให้MARKE EARNING YIELD GAP อยู่ที่ 3.3% อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ไม่เปลี่ยนแปลงกล่าวคืออยู่ที่ 2.5% (CONSERVATIVE) จะให้ระดับ SET INDEX เป้าหมายอยู่ที่บริเวณ 1580 –1600 จุด เท่ากับว่าที่ระดับ SET INDEX ปัจจุบันมี UPSIDE ที่เปิดอยู่พอสมควร ในเชิงกลยุทธ์ ช่วงเวลาแบบนี้ควรทยอยสะสมหุ้น คุณภาพดีเข้าพอร์ตการลงทุน
SET INDEX เกิด TECHNICAL REBOUND ตามคาด และขึ้นมายืนบริเวณ 1370 จุดได้ ถือเป็นสัญญาณบวก แต่อย่างไรก็ตามยังไม่พ้นช่วงผันผวน วันนี้ คาดกรอบ 1360 –1377 จุด หุ้น TOP PICK เลือก BCH, BGRIM และ BJC
FED ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย หนุนเงินเกลี่ยเข้าสินทรัพย์เสี่ยง
วานนี้ประธาน FED มีการกล่าวเรื่องนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อ สภาคองเกรส โดย FED ยังไม่ได้กำหนดกรอบเวลาที่แน่นอนในการปรับลดดอกเบี้ย แต่ประเมินว่าจะเริ่มดำเนินการในปีนี้ จนกว่าจะมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเงินเฟ้อกำลัง ปรับตัวสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน ทำให้ตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่รายงานออกมา หลังจากนี้ค่อนข้างมีความสำคัญ ซึ่งหากบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอความร้อนแรง ลง เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยช่วยหนุนให้ FED ผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้นได้
ส่วนในมุมของตลาดการเงินมองว่า FED มีแนวโน้มเริ่มปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วง กลางปีนี้ โดยผลการสำรวจของ FED WATCH TOOL พบว่าโอกาสลดดอกเบี้ยใน เดือน มิ.ย. 67 ทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดอยู่ที่61% นอกจากนี้นักลงทุนยังคาดหวัง มากขึ้นกับวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง สะท้อนจาก BOND YIELD ที่ย่อตัวลงมา โดย BOND YIELD 10Y สหรัฐฯ วานนี้ขยับลงมาอีก 5 BPS. ล่าสุดอยู่ที่ 4.1% ทำจุด ต่ำสุดในรอบเดือน ขณะเดียวกันยังกดดันให้เม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง -0.76%MTD มาอยู่ที่ 103.4 จุด
สรุป การส่งสัญญาณของ FED ในการปรับลดดอกเบี้ยในปี 2567 กดดันให้ BOND YIELD ย่อตัว รวมถึง DOLLAR อ่อนค่า ซึ่งน่าจะหนุนให้เงินบาทแข็งค่า และดีต่อ FUND FLOW ไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
SET รีบาวน์,FUND FLOW สลับมาซื้อให้กระชุ่มกระชวยบ้าง
วานนี้SET INDEX พลิกกลับมาบวก 0.83% หรือ 11.29 จุด มาอยู่ที่ 1370.55 จุด หลังจากปรับตัวลงมา 7 วันทำการติดต่อกัน มีการ TECHNICAL REBOUND กลับ ขึ้นมาบ้าง เพราะตลอด 5 ปีที่ผ่านมา มีเพียงแค่ 4 จาก 1213 วันทำการ ที่ SET INDEX ลบติดต่อกันเกิน 7 วันทำการ
ขณะที่ FUND FLOW ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิอีกครั้ง 1.8 พันล้านบาท (หลังจากขาย สุทธิติดต่อกัน 4 วัน) พร้อมกับซื้อสุทธิ SET50 FUTURES 2.8 หมื่นสัญญา ยังคง คาดหวัง FUND FLOW สลับเข้ามาซื้ออีกเรื่อยๆ เพราะวานนี้เป็นวันที่ต่างชาติซื้อ สุทธิหุ้นไทยสูงสดในภูมิภาค รวมถึงค่าเงินบาทค่อยๆ แข็งค่าขึ้นจนล่าสุดอยู่ที่ 35.6 บาท/เหรียญ เป็นการแข็งค่ามากสุดในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา
ในเบื้องต้นฝ่ายวิจัยฯ ประเมินดัชนีเป้าหมายปีนี้บริเวณ 1580 – 1600 จุด ยามที่ ต่างชาติสลับเข้ามาซื้อ และปัจจัยสนับสนุนต่างๆ ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่าน นโยบายการเงิน และการคลัง น่าจะทยอยเข้ามาในช่วงเดือน เม.ย. จึงแนะนำให้ทยอย สะสมหุ้นในช่วงนี้น่าจะมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีในระยะกลางถึงยาวได้
ส่วนวันนี้แนะนำหุ้นราคาย่อตัวลงมาลึกน่าสะสม พร้อมกับคาดหวังการรีบาวน์กลับ ช่วงสั้น BJC (ผ่านแรงกดดันจากการปรับพอร์ตตาม MSCI ไปแล้ว), BCH (ได้ SENTIMENT หากกระทรวงแรงงานเพิ่มเพดานเงินประกันสังคมจากฐาน 15,000 บาท เป็น 20,000 บาท), BGRIM (มีการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลมเพิ่มเติม และยังได้ ประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็งค่า)
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities