รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ถ้าเงินบาทแข็งแรง ... SET Index ก็แข็งแรง 

เผยแพร่ 03/01/2567 09:52
อัพเดท 09/07/2566 17:32

ทิศทางของเงินบาทที่ยังแข็งค่า ตามเหตุผลที่เราได้กล่าวไปใน Market Talkวานนี้ น่าจะเป็นแรงส่งให้Fund Flow ยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นไทยได้ต่อ หลังจากที่วานนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 1.25 พันล้านบาท ส่วนปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐาน วันนี้ที่โดดเด่นเป็นเรื่องของมติ ครม. ที่มีหลายมาตรการที่เข้ามากระตุ้นภาคการ ท่องเที่ยว เฉพาะอย่างยิ่งการยกเว้น วีซ่าถาวร ระหว่างไทย-จีน ซึ่งน่าจะเป็นผลดี ในระยะยาว ขณะที่ในสภาผู้แทนราษฎร์วันนี้ จะเริ่มพิจารณา พ.ร.บ. งบประมาณฯ ปี 2567 โดยในวันที่ 3 – 5 ม.ค. จะมีการอภิปรายก่อนลงมติเห็นชอบในวาระที่ 1 (รับหลักการ) คาดว่าจะเสร็จกระบวนการทั้งหมดและมีผลบังคับใช้ในช่วงปลาย เดือน เม.ย. หรือ ต้น พ.ค. 2567 หลังจากนั้นก็น่าจะเห็นการใช้เม็ดเงิน งบประมาณในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น

คาดว่า SET Index ยังมีMomentum ในการเหวี่ยงขึ้นได้อยู่ เพียงแต่ในช่วงเวลา สั้นๆ อาจมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง วันนี้คาด SET Index อยู่กรอบ 1425 – 1440 จุด สำหรับ หุ้น Top Pickวันนี้ เลือก BEM, MAJOR และ PLANB

นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจไทยมีมากขึ้น คาดหนุนเงินบาทแข็งค่า

ความคืบหน้าของ พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ในวันนี้จะเป็นวันแรกของเสนอสภาผู้แทนราษฏรพิจารณาวาระที่ 1 (เริ่ม 3 – 5 ม.ค. 67) โดยกรอบเวลาการอนุมัติงบประมาณในระยะถัดไปตามความ เห็นชอบรายละเอียดของรัฐบาล สรุปได้ดังนี้

• ม.ค. – มี.ค.67 คณะกรรมาธิการฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ 2567

• 3-4 เม.ย.67 สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ 2567

วาระที่ 2-3

• 9-10 เม.ย.67 วุฒิสภา พิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ 2567

• 17 เม.ย.67 สำนักงบประมาณเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นำร่าง พ.ร.บ.

งบประมาณ 2567ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อประกาศใช

ขณะที่มติในที่ประชุม ครม. ล่าสุดวานนี้ ส่วนใหญ่จะเน้นนโยบายส่งเสริมภาคการ ท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ อาทิ

1. ยดเว้นภาษีสุราพื้นบ้าน พร้อมทั้งปรับลดภาษีสรรพสามิตธุรกิจสถานบริการสถานบันเทิง เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้จ่าย

2. การยกเลิกวีซ่า ให้กับนักท่องเที่ยว ไทย-จีน ถาวร (2 ทาง จีน – ไทย) ตั้งแต่ 1 มี.ค. 67 หลังมาตรการที่มีอยู่จะหมดอายุสิ้น ก.พ. นี้

เมื่อพิจารณาจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยปี 2566 ททท. เผยเบื้องต้นอยู่ที่ 28 ล้านคน (+153% YoY) ใกล้เคียงฝ่ายวิจัยฯคาด ซึ่งยังเป็นระดับที่ต่ำกว่าช่วงก่อนโค วิด-19 ที่ 40 ล้านคน ทั้งนี้มาตรการส่งเสริมภาคท่องเที่ยวดังกล่าวข้างต้น เชื่อว่าจะ เป็นแรงหนุนสำคัญให้ต่างชาติเดินทางเข้ามาในบ้านเรามากขึ้นในระยะถัดไป เฉพาะ อย่างยิ่งชาวจีน อย่างไรก็ตามยังต้องพิจารณาถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนด้วย เช่นกัน

จากข้อมูลในอดีต ในช่วงที่ก่อนโควิด-19 ระหว่างปี 2015-2019 ดุลบัญชีเดินสะพัดมี ค่าเฉลี่ยเกินดุลราว 3.68 พันล้านเหรียญฯ โดยมีแรงส่งมากจาทั้งดุลการค้าและดุล บริการที่เกินดุลเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่เงินบาทเฉลี่ยอยู่ที่ 31 บาท/USD ในส่วนระยะ ถัดไปหากนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยมีแนวโน้มสูงขึ้น เชื่อว่าจะเป็นแรงหนุนให้ดุล บริการและดุลบัญชีเดินสะพัดพลิกกลับมาเกินดุลต่อเนื่องได้อีกครั้ง ซึ่งน่าจะเป็นแรงส่ง สำคัญให้เงินบาทแข็งค่ามากขึ้น คาดดีต่อ Fund Flow ไหลเข้าไทย

สรุป นโยบายส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวของภาครัฐล่าสุด ถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ที่ช่วงดึงดูดให้ต่างชาตเข้ามาในไทย เฉพาะอย่างยิ่งชาวจีน ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยหนุน สำคัญให้ดุลบริการและดุลบัญชีเดินสะพัดพลิกกลับมาเกินดุลต่อเนื่องได้อีกครั้ง ดีต่อ เงินบาทให้แข็งค่ามากขึ้น นอกจากนี้ยังมีอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการ ข้างต้น อาทิ กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มอสงัหาฯ เป็นต้น โดยรายละเอียดเชิงพื้นฐานจะอยู่ใน หัวข้อถัดไป

เปิดตลาดวันแรก หุ้นไทยแข็งแกร่ง สวนทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ

วานนี้ตลาดหุ้นเปิดทำการวันแรกของปี 2567 ด้วยภาพรวมที่ไม่ดีนัก โดยตลาดหุ้น สหรัฐฯ ปรับตัวลงราว -0.7%ถึง -1.6% ตลาดหุ้นโซนยุโรปปรับตัวลงราว -0.1%ถึง -0.2%

นักลงทุนกังวลการประชุม Fed Minutes คืนนี้ 2.00 น.(เวลาตามประเทศไทย) เพราะ Fed คาดว่าจะปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ แต่ตลาดคาดปรับลด 5 – 6 ครั้ง กดดัน ให้Bond Yield 10Y สหรัฐฯ ระหว่างวันเพิ่มขึ้นแตะระดับ 4% และ Dollar แข็งค่า0.9% อยู่ระดับ 102.2 จุด ซึ่งหากพิจารณาในมุมค่าเงินในเอเชีย จะเห็นได้ว่าอ่อนค่าลงเกือบ ทุกประเทศ ยกเว้นแค่ไทยที่ยังแข็งค่าต่อเนื่อง หลังมีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว คือ ประเด็น ยกเลิกวีซ่าไทย –จีน

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

หรืออีกทางหนึ่ง จะเห็นเม็ดเงินโยกย้ายจากหุ้นกลุ่มเติบโต มาสู่หุ้นกลุ่มคุณค่ามากขึ้น สังเกตได้จากวานนี้ MSCI Growth index ปรับตัวลง -1.6% สวนทาง MSCI value index ที่ปรับตัวขึ้น +0.2% ซึ่งนั้นยิ่งทำให้ตลาดหุ้นไทยดูน่าสนใจ เนื่องจากส่วนใหญ่ น้ำหนักหุ้นไทยอยู่ในกลุ่มคุณค่าอยู่แล้ว

ดังนั้น เม็ดเงินบางส่วนมีการไหลกลับมาในหุ้นคุณค่า พร้อมกับค่าเงินบาทที่ยังอยู่ใน ทิศทางแข็งค่าสู่ระดับ 33.5-34 บาท/เหรียญฯ หนุน Fund Flow มีโอกาสไหลเข้าหุ้น ไทยต่อ หลังจากต่างชาติและสถาบันฯ ที่ยังซื้อสุทธิหุ้นไทยในวานนี้ 1.26 พันล้านบาท และ 1.42 พันล้านบาทตามลำดับ หนุนให้มียอดซื้อสะสม ในช่วง 14 ธ.ค. 23 – 2 ม.ค. 24 ของสถาบันฯ เพิ่มขึ้นเป็น 8.1 พันล้านบาท และ ต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 7.4 พันล้าน บาท หนุนให้ SETIndex ปรับตัวเพิ่มขึ้นมา 5.5% ในช่วงเวลาดังกล่าว

ส่วนกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นได้ประโยชน์บาทแข็งค่า อาทิ กลุ่มที่มีต้นทุน หรือหนี้ สกุลต่างประเทศ GULF BGRIM MINT กลุ่มเน้นการนำเข้า TFG TVO และ กลุ่มเป้าหมาย Flow ไหลเข้า KBANK (BK:KBANK),TISCO, IVL, SCC, CPN, CPALL (BK:CPALL), ADVANC เป็นต้น

สรุป เปิดตลาดหุ้นวันแรกของปี 2567 ตลาดหุ้นสหรัฐฯดูไม่สดใส แต่แรงกดดันไม่น่าจะ ส่งมาถึงตลาดหุ้นไทยมากนัก เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง และสัดส่วนหุ้นไทย ที่มีน้ำหนักหุ้นกลุ่ม Tech น้อยหากเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ โดยวันนี้คาดกรอบการ เคลื่อนไหว SET Index ที่ระดับ 1425-1440 จุด

กลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัยได้ประโยชน์ทางอ้อมจากเปิด Free Visa ไทย-จีน

จากประเด็นที่จะมีการยกเลิกวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวไทย-จีนอย่างถาวรตั้งแต่ 1 มี.ค. 2567 นอกจากเป็นการกระตุ้นโดยตรงต่อภาคท่องเที่ยวแล้ว ยังส่งผลบวกทางอ้อม ต่อธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยของไทย เนื่องจากการเดินทางระหว่างไทย-จีน ที่คล่องตัว มากขึ้น ย่อมเพิ่มโอกาสต่อธุรกรรมการซื้อขายที่อยู่อาศัยในไทย โดยเฉพาะกลุ่ม คอนโดฯ เนื่องจากจีนถือเป็นลูกค้าหลักอันดับ 1 มีมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์คิดเป็น สัดส่วนมากสุด 47.3% ของมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ของคนต่างชาติงวด 9M66 ทำให้ สถานะ Backlog คอนโดฯ สิ้น 3Q66 ที่มีราว 1.55 แสนล้านบาท (รวมคอนโดฯ JV 7.4 หมื่นล้านบาท) ที่เป็นส่วนของลูกค้าต่างชาติ สามารถโอนได้คล่องตัวขึ้น รวมถึง การระบายสต๊อกคอนโดฯ พร้อมโอนฯ ที่มีอยู่ราว 1.29 แสนล้านบาท ทำได้มากขึ้น โดยกลุ่มผู้ประกอบการที่เน้นพอร์ตคอนโดฯ และได้รับประโยชน์จากดีมานด์ลูกค้า ต่างชาติ ได้แก่ NOBLE (9M66 มีลูกค้าต่างชาติสัดส่วน 26% ของยอดขาย และราว 20% ของยอดโอนฯ รวม) ตามด้วย ANAN (สิ้น 3Q66 มีสต๊อกคอนโดฯ พร้อมโอนฯ มากสุดด้วยมูลค่า 2.1 หมื่นล้านบาท) รวมถึง SPALI, AP และ ORI ที่มีสต๊อกคอนโด ฯ พร้อมโอนฯ ราว 1.4 หมื่นล้านบาท, 1.33 หมื่นล้านบาท และ 1.18 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย