GDP / Cabinet on TESG / Weekly picks
• SET: คาดการณ์การปรับตัว Sideways ถึง Sideways up ของ SET Index ในสัปดาห์นี้ต่อไป เนื่องจากปัจจัยแวดล้อมยังคงเป็นบวก ไม่ว่าจะเป็น Bond yield และเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ปรับตัวลง ราคาน้ามันที่ทรงตัว เงินบาทที่แข็งค่า และที่สําคัญที่สุดได้แก่ การยืนได้ของคาดการณ์ EPS ในตลาดบ้านเราเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ในส่วนของแรงผลักดันวันนี้ คาดว่า ดัชนีจะได้แรงหนุนหลักจากกลุ่ม ETRON (DELTA, KCE, HANA) ที่น่าจะปรับตัวแข็งสอดคล้องไปกับการปรับตัวขึ้นท่าจุดสูงสุดใหม่ของดัชนี้ Nasdaq สหรัฐฯเมื่อคืนนี้ ส่วนกลุ่มหุ้นอื่นที่อาจเป็นที่เต็งก่าไรในตลาด ต่อไปได้แก่ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Bond yield ขาลงทั้งหลาย ไม่ว่าจะ เป็น กลุ่ม REIT/IFF กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, GPSC) และกลุ่ม ไฟแนนซ์ (SAWAD, MTC, TIDLOR)
• Factors: สําหรับปัจจัยวันนี้แนะน่าติดตาม ได้แก่
1) การประชุมครม.ของไทยว่าจะมีการพิจารณาเห็นชอบหลักเกณฑ์ มาตรการภาษีเพื่อการจัดตั้งกองกองทุน TESG หรือไม่ หากมีข้อสรุป ออกมา คาดว่าจะเป็นสีสันต่อหุ้นขนาดใหญ่ที่มี Rating สูงสุดในดัชนี SETESG ได้ อาทิเช่น PTT (BK:PTT), ADVANC, PTTEP, CPALL (BK:CPALL), SCC, KBANK (BK:KBANK), KTB, CRC, OR, PTTGC
2) การเปิดเผยรายงาน FOMC Minutes จากการประชุม Fed รอบล่าสุด
• GDP: สภาพัฒน์เปิดเผยตัวเลข GDP ของไทยประจําไตรมาส 3/66 ขยายตัว 0.8% QoQ และ 1.5% YoY ต่ํากว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดย หลักเกิดจากการอุปโภคภาครัฐ การลงทุนภาครัฐ และการส่งออกที่ยังคง อ่อนแอในช่วงดังกล่าว ซึ่งสองภาคส่วนแรกเป็นสิ่งที่เข้าใจได้เนื่องจากเป็น ช่วงเปลี่ยนผ่านของรัฐบาลในประเทศ
• Consumption: ทั้งนี้ สภาพัฒน์ได้ปรับเปลี่ยนคาดการณ์ GDP ปี รวมถึง เปิดเผยคาดการณ์ GDP ปีหน้าออกมาเมื่อวานนี้ด้วย โดยมีสิ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ การปรับเพิ่มคาดการณ์ขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชนปี นี้เป็น 7% จากเดิมที่ 5% จากปัจจัยสนับสนุนทั้ง ตลาดแรงงานที่ยังคง แข็งแกร่ง ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่สูงขึ้น และแรงกดดันเงินเฟ้อที่อยู่ใน ระดับต่า มุมมองดังกล่าวสอดคล้องกับความเห็นของเราก่อนหน้านี้ ที ยังคงแนะนําให้ Overweight กลุ่มค้าปลีกเป็น Top sector pick สําหรับช่วง 3 เดือนข้างหน้าต่อไป
• Weekly picks: เรานําาเสนอหุ้นเด่นที่น่าสนใจประจําสัปดาห์นี้ ซึ่งมีปัจจัย เชิงบวกทั้งด้านพันฐานและปันการลงทุนระยะสั้นสนับสนุน ได้แก่
1) BH: คาดท้าก้าไร New High ต่อในปี 2566-2567 แม้ 4066 อาจอ่อน ตัวลง Low single digit แต่ยังคงเติบโตได้ YoY ตั้งเป้าปรับราคาขึ้น ราว 6% ในปี 2567 และขยายเตียงเป็น 585 เตียงในปี 2568 จาก 493 เตียงในปัจจุบัน ล่าสุดมี EBITDA Margin ที่ 40% สูงสุดในกลุ่ม และชื่อขายด้วย EV/EBITDA เพียง 18.8x ต่ํากว่าค่าเฉลี่ยที 25.6x
2) MOSHI: เข้า High Season ในไตรมาส 4 คาด SSS เติบโต 2% YoY จากฐานที่สูง ช่วง 4Q66 คาดเปิดสาขาเพิ่มอีก 13 แห่ง Gross Margin ปรับตัวสูง นจากการเพิ่มสินค้ากลุ่มเครื่องประดับ และขายสินค้า License จาก Sanrio บริษัทปรับเป้ารายได้ปี 2566 จากโต 20% เป็น 30% จากยอดขายที่สูงกว่าคาดใน 9M66 และตั้งเป้าการเติบโตของ รายได้ปี 2567 ที่ 20% ทั้งนี้ MOSHI ถือเป็นหนึ่งในตัวหุ้นที่เรา คาดว่าจะถูกนําเข้าสู่ดัชนี SET100 ในรอบถัดไป
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities