November investment outlook
• November: สําหรับภาพตลาดหุ้นไทยในเดือนพฤศจิกายน คาดว่าจะอยู่ ในช่วงสุดท้ายของการสร้างฐานรอบนี้ โดยในช่วงแรกของเดือน ดัชนีอาจจะยังปรับตัว Overhang จากความไม่ชัดเจนของธนาคารกลาง สหรัฐฯ (Fed) รวมไปถึง Noise รบกวนจากการสู้รบระหว่างอิสราเอลและ กลุ่มฮามาสที่ยังคงยืดเยื้อ อย่างไรก็ดี พอเวลาดําเนินไป ประเมินว่าปัจจัย เหล่านี้จะสะท้อนเข้าไปอยู่ในราคาสินทรัพย์ต่างๆมากขึ้นตามล่าดับ ทําให้ ในช่วงครึ่งเดือนหลัง อาจเริ่มเห็นความคาดหวังเชิงบวกที่เข้ามากระทบได้ บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีปัจจัยใดที่ทําให้เชื่อได้ว่า Fed ได้มีการปรับ ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายครั้งสุดท้ายผ่านพ้นไปแล้ว นับตั้งแต่การประชุมเมื่อ เดือนก.ค.ที่ผ่านมา ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET ในเดือน พ.ย.จะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 1350 จุด และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 1450 จุด
• Factors: สําหรับปัจจัยสําคัญที่น่าติดตามในเดือนนี้ได้แก่
1) ความชัดเจนของมาตรการ Digital Wallet โดยต้องรอติดตามจากการ ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่
2) ตัวเลขเศรษฐกิจสําคัญของสหรัฐฯที่จะออกมาในเดือนนี้ รวมถึง ความเห็นของกรรมการ Fed คนต่างๆ ซึ่งจะมีอิทธิพลต่อไปยัง Fed Funds futures และการปรับตัวของ Bond yield
3) การประชุมกนง.ของไทยในวันที่ 29 พ.ย. ซึ่งคาดว่าจะมีมติคงดอกเบี้ย ทีระดับเดิม 2.50%
4) ความเป็นไปได้ในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของจีน
5) การประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนประจําไตรมาส 3/66 รวมถึงแนวโน้มในช่วงถัดไป ซึ่งจะส่งผลต่อการปรับประมาณการของ นักวิเคราะห์ในตลาด รวมถึง Valuation ของดัชนีโดยอัตโนมัติ
• Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ แนะถือครองหุ้นที่ได้เข้าสะสมมาก่อนหน้านี้ มองกลุ่มที่น่าสนใจยังคงได้แก่กลุ่มค้าปลีกที่อิงกับการบริโภค ภายในประเทศ ได้ประโยชน์จากมาตรการลดค่าครองชีพ และเตรียมได้รับ อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายในช่วงถัดไป ซึ่งส่วนใหญ่หุ้นใน กลุ่มนี้ Earnings เตรียมจะปรับตัว Bottom out จากจุดต่าในไตรมาส 3 ได้ อาทิ CPALL (BK:CPALL), CPAXT, BJC, CRC, HMPRO, GLOBAL, DOHOME,TNP
• M2: วานนี้ธปท.รายงานตัวเลขฐานเงินอย่างกว้าง (M2) เดือนก.ย.พลิก กลับมาปรับตัวสูงขึ้น MoM ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน สร้างความ คาดหวังเชิงบวกต่อสภาพคล่องในตลาดหุ้นไทยได้บ้างในช่วงถัดไป ทั้งนี้ จากการศึกษาของเราพบว่าตัวเลขดังกล่าวมักมีความสัมพันธ์ในระดับสูงกับ การมีส่วนร่วมของนักลงทุน Retail รวมถึง Performance ของหุ้นขนาด กลาง-เล็ก ดังนั้นหากสัญญาณ M2 ยังคงดีขึ้นต่อเนื่อง เราอาจคาดหวัง ดัชนี MAI/SET50 และดัชนี SET/SET50 มีโอกาสทยอยฟื้นตัวจากจุด ต่าสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปี 2021 ได้บ้าง (รูปที่ 1)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities