รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

เงินเฟ้อเดือนก.ย.ลดลงสู่ระดับ 0.30% ตามการลดลงของราคาพลังงาน และมาตรการรัฐ

เผยแพร่ 05/10/2566 14:42
อัพเดท 09/07/2566 17:32

เงินเฟ้อเดือนกันยายนลดลงสู่ระดับ 0.30%

ตามการลดลงของราคาสินค้าพลังงาน และผลของมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของรัฐบาล

  • Headline Inflation September 2023

Actual: 0.30%       Previous: 0.88% 

KTBGM: 0.86%     Consensus: 0.70%

  • กระทรวงพาณิชย์รายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนกันยายนลดลงสู่ระดับ 0.30% กดดันโดยราคาสินค้าพลังงานที่ลดลง และผลของมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของรัฐบาล ขณะเดียวกัน ราคาเนื้อสัตว์ รวมถึงผักสด ก็ปรับตัวลดลง กดดันราคารสินค้าหมวดอาหาร
  • สำหรับไตรมาสที่ 4 กระทรวงพาณิชย์มองว่า อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอลงตามการปรับตัวลดลงต่อเนื่องของราคาเนื้อสัตว์ ผลของมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพ ผลกระทบจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดและฐานราคาที่สูงในปีก่อนหน้า ขณะที่ผลกระทบของภาวะ El Nino การอ่อนค่าของเงินบาท และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจพอช่วยหนุนราคาสินค้าและบริการได้ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้ สู่กรอบ 1.0%-1.7% (ค่ากลาง 1.35%) จากเดิมกรอบ 1.0%-2.0%
  • เราคงมุมมองเดิมว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจเลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 2.50% หลังอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มไม่ต่างจากคาดการณ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยล่าสุด อย่างไรก็ดี การประเมินแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ โดยเฉพาะผลกระทบจากมาตรการ Digital Wallet และแนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่อาจทรงตัวในโซน 80-100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
  • ตราบใดที่ อัตราเงินเฟ้อโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นไม่เกิน +0.25%m/m กนง. อาจไม่ได้กังวลต่อแนวโน้มเงินเฟ้อมากนักและอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% ก็ยังมีความเหมาะสม ดังนั้น เราจึงมองว่า บอนด์ยีลด์ของไทยที่มีการปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ก็ควรย่อตัวลงบ้าง เพื่อสะท้อนโอกาสในการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. ที่เพิ่มสูงขึ้น  

กระทรวงพาณิชย์รายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ระดับ        0.30% ลดลงจากระดับ 0.88% ในเดือนสิงหาคม

  • กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนล่าสุด ลดลง -0.36% จากเดือนก่อนหน้า (เรามอง +0.20%) ตามการปรับตัวลดลงของราคาในหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ถึง -0.5% นำโดย หมวดเคหสถาน -1.3% ซึ่งเป็นผลจากมาตรการลดค่าไฟฟ้า ขณะเดียวกันราคาน้ำมันเชื้อเพลิงก็ลดลง -0.1% นอกจากนี้ ราคาในหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ก็พลิกกลับมาลดลง -0.16% ตามการปรับตัวลดลงต่อเนื่องของราคาเนื้อสัตว์ ผักสด รวมถึงราคาอาหารสำเร็จรูป
  • เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงสู่ระดับ 0.30% จาก 0.88% ในเดือนก่อนหน้า โดยปัจจัยหนุนยังคงเป็นราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าโดยสารสาธารณะ ในขณะที่ค่ากระแสไฟฟ้า ลดลงตามมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของรัฐบาล ทั้งนี้ ราคาหมวดอาหาร พลิกกลับมาลดลงครั้งแรกในรอบ 23 เดือน ตามการปรับตัวลดลงต่อเนื่องของราคาเนื้อสัตว์ ส่วนราคาผักสดก็ลดลง ตามผลผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ ราคาข้าว ไข่และผลิตภัณฑ์นมยังคงสูงขึ้นจากปีก่อนหน้า และเมื่อหักราคาอาหารสดรวมถึงพลังงานออก อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ชะลอลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 สู่ระดับ 0.63% จากระดับ 0.79% ในเดือนก่อนหน้า

เราคงมุมมองเดิม ว่า กนง. ได้จบรอบการขึ้นดอกเบี้ยแล้วที่ระดับ 2.50% หลังอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มเป็นไปตามคาดการณ์ของ กนง. ล่าสุด

  • การชะลอตัวลงของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปล่าสุด แม้ว่าจะสวนทางกับที่เราคาดการณ์ไว้ แต่ก็มองได้ว่าเป็นสัญญาณที่อาจจะทำให้ กนง. คลายกังวลต่อแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในอนาคตได้ โดยจากการประเมินล่าสุดของเรา พบว่า หากโมเมนตัมอัตราเงินเฟ้อไม่เกินระดับ +0.25%m/m ก็จะทำให้ แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อไม่ต่างจากคาดการณ์ของ กนง. ทำให้ มุมมองของ กนง. ล่าสุด ที่มองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% ถือว่าเป็นระดับที่เหมาะสม ภายใต้สมมติฐานเศรษฐกิจล่าสุด นั้นไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ดี เรามองว่า ตัวแปรสำคัญที่อาจทำให้ การประเมินแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อของเราและ กนง. เปลี่ยนแปลงไปได้ คือ 1. ทิศทางราคาน้ำมันดิบ และ 2. ผลกระทบจากมาตรการ Digital Wallet โดยในส่วนของราคาน้ำมันดิบ เรามองว่า ราคาน้ำมันดิบอาจแกว่งตัวในกรอบ 80-100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และอาจไม่ได้พุ่งสูงเกินระดับ 120 หรือ 150 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากทางกลุ่ม OPEC+ อาจไม่สามารถลดกำลังการผลิตได้นานหรือลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม โดยเฉพาะในจังหวะที่ทางสหรัฐฯ เริ่มกลับมาลงทุนในธุรกิจพลังงานมากขึ้นและเริ่มแย่งส่วนแบ่งการตลาด ขณะเดียวกัน ทางกลุ่ม OPEC+ ก็ยังต้องพึ่งพารายได้จากพลังงานเป็นหลัก นอกจากนี้ หากเศรษฐกิจหลัก ทั้งสหรัฐฯ และยุโรป ชะลอตัวลงชัดเจนตามที่เราประเมินไว้ ก็จะยิ่งทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นได้ยาก ส่วนในประเด็น Digital Wallet แม้ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน แต่เราประเมินเบื้องต้นว่า มาตรการดังกล่าวอาจไม่ได้ช่วยหนุนให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นไปมาก เมื่อพิจารณาว่า fiscal multiplier ของมาตรการแจกเงิน ก็ไม่สูงเพียง 0.4 เท่า และหากเป็นการแจกเงินผ่าน Block chain ก็อาจจะมี fiscal multiplier ที่น้อยกว่านั้นได้ 
  • ตลาดอาจเริ่มกลับมามองว่า กนง. ได้จบรอบการขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว ทำให้บอนด์ยีลด์ของไทยที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมานั้นเริ่มย่อตัวลงได้บ้างโดยเราคงมองว่า บอนด์ยีลด์ระยะสั้น อย่าง บอนด์ยีลด์ 2 ปี ของไทยอาจแกว่งตัวใกล้ระดับ 2.50%-2.60% หากสมมติฐาน terminal rate ของ กนง. ที่ 2.50% นั้นถูกต้อง ส่วนบอนด์ยีลด์ระยะยาว อย่าง บอนด์ยีลด์ 10 ปี เราอาจ”มองต่าง” จากผู้เล่นในตลาดและนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ เนื่องจากสมมติฐานเดิม คือ แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงชัดเจน ทำให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ สามารถปรับตัวลดลงได้ (อาจลงมาได้ถึง 4.00% ณ สิ้นปี) และจะช่วยให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี ของไทย อาจย่อลงมาแถว 3.10%-3.20% ได้ไม่ยาก ณ ช่วงสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ เรายอมรับว่า ปัจจัยที่น่ากังวล คือ ผลกระทบจากมาตรการ Digital Wallet ในส่วนของการหาแหล่งเงินทุนสำหรับมาตรการดังกล่าว (รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ของรัฐบาล) ซึ่งอาจส่งผลให้บอนด์ยีลด์ระยะยาวอาจอยู่ในระดับสูงได้มากกว่าที่เราประเมินไว้
นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

ความคิดเห็นล่าสุด

มีการแก่งแย่งดอกสุง
ดอกเบี้ยเดือนนี้จะสุงและมีค่าเงินยุโรและเงินเก็บสะสมมาหลายปีถ้าเทขายfoud
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย