- โอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยมีมากขึ้น
- แม้ว่าเศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือไม่ก็ตาม นักลงทุนควรเพิ่มหุ้นที่ทนต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยในพอร์ตการลงทุนของตน
- ในส่วนนี้ เราจะพูดถึงหุ้นที่มีกำไรเป็นเลขสองหลักในช่วงเศรษฐกิจถดถอย 5 ครั้งล่าสุด
- Analog Devices (NASDAQ:ADI) +21.8%.
- Sherwin-Williams (NYSE:SHW) +20.1%
- General Mills (NYSE:GIS) +16.8%
- Hormel Foods (NYSE:HRL) +16,1%
- Johnson & Johnson (NYSE:JNJ) +15.8%
- Conagra Brands (NYSE:CAG) +15.6%
- Campbell Soup (NYSE:CPB) +13%
- W.W. Grainger Inc (NYSE:GWW) +11,7%
- Kellogg (NYSE:K) +11.4%
จากข้อมูลของ Factset ประมาณ 95% ของบริษัทที่จดทะเบียนใน S&P 500 ได้รายงานผลประกอบการแล้ว และ 78% ในจำนวนนี้ทำผลงานได้เกินความคาดหมายของตลาด
ผลกำไรลดลง 2.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่แล้ว แต่ดีกว่าการลดลง 6.6% ที่คาดไว้มาก ยิ่งไปกว่านั้น ภาคส่วนทั้ง 11 ภาคยังทำงานได้ดีเกินคาด โดยเทคโนโลยีทำผลงานได้ดี
นี่เป็นข่าวดี แต่เรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ “ภาวะถดถอยที่แท้จริง”
ภาวะถดถอยคือการเปลี่ยนแปลงเชิงลบใน ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ เป็นเวลาสองไตรมาสติดต่อกัน สาเหตุเชื่อมโยงกับความผันผวนของ เงินเฟ้อ ซึ่งจำกัดกำลังซื้อของครัวเรือน
แต่ก็ไม่เหมือนกับวิกฤติเศรษฐกิจ มันหมายถึงช่วงเวลาที่ไม่มั่นคงจะอยู่เป็นเวลานาน ซึ่งมีผลกระทบระยะยาว
เศรษฐกิจต้องผ่านภาวะถดถอยครั้งใหญ่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างภาวะเศรษฐกิจถดถอยและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
แล้วทำไมฉันถึงบอกว่ามีความเป็นไปได้สูงที่เศรษฐกิจจะถดถอยในสหรัฐฯ?
เนื่องจากหนึ่งในเครื่องมือที่น่าเชื่อถือที่สุดที่ใช้โดย Federal Reserve Bank of New York ซึ่งวิเคราะห์ส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน และ 10 ปี เพื่อคาดการณ์ความน่าจะเป็นของ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐอเมริกาในอีก 12 เดือนข้างหน้าบ่งชี้เช่นนั้น
เมื่อเร็ว ๆ นี้ พันธบัตรอายุ 3 เดือนและ 10 ปีประสบกับเส้นอัตราผลตอบแทนผกผันที่ใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 40 ปี ในช่วง 57 ปีที่ผ่านมา มี 8 ครั้งที่ตัวบ่งชี้ภาวะถดถอยของธนาคารกลางสหรัฐนิวยอร์กเกิน 40%
ในช่วงเวลานั้นไม่เคยมีครั้งใดผิดพลาด และในเวลานี้ ค่าความน่าจะเป็นของภาวะเศรษฐกิจถดถอยอยู่ที่ 68.22% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 42 ปี
ที่มา: Venture Consulting
ดังนั้น นักลงทุนจึงมองหาวิธีรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยด้วยหุ้นที่มักไปได้ดีในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย บทความนี้จะกล่าวถึงหุ้นที่มีผลประกอบการดีกว่า S&P 500 ในช่วงภาวะถดถอย 5 ครั้งล่าสุด
เราจะใช้เครื่องมือจาก InvestingPro ในการวิเคราะห์หุ้นเหล่านี้
Walmart
Walmart (NYSE:WMT) ทำงานได้ดีในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย เมื่อเวลาเลวร้าย ผู้คนแห่กันไปที่สถานประกอบการซึ่งพวกเขาสามารถซื้อเกือบทุกอย่างได้ในราคาที่ถูกลง
หุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น +39.5% โดยเฉลี่ยในช่วงเศรษฐกิจถดถอย 5 ครั้งล่าสุด (ในปี 2550 หุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น +1.12% เมื่อดัชนี S&P 500 ดิ่งลง -38%)
บริษัทจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 2 มกราคม
ที่มา: InvestingPro
บริษัทคาดว่าจะรายงาน รายได้ ในวันที่ 17 สิงหาคม ซึ่งคาดว่าจะทำผลงานได้ดีกว่าไตรมาสที่ผ่านมา
ที่มา: InvestingPro
จากผลลัพธ์ของ InvestingPro ค่าเฉลี่ยเป้าหมายของนักวิเคราะห์คาดราคาหุ้นอยู่ที่ 165.71 ดอลลาร์
ที่มา: InvestingPro
Walmart ได้รับคะแนนเรตติ้ง ซื้อ 31, ถือ 10 ,และ ขาย 0
ที่: InvestingPro
Barclays ให้คะแนน Walmart ที่ 'overweight' ด้วยราคาเป้าหมายที่ 162 ดอลลาร์
ในทางเทคนิคแล้ว หุ้นไม่น่าจะสามารถผ่านแนวต้านที่ 153.69 ดอลลาร์ได้
Kroger
บริษัทแม่ของ Kroger (NYSE:KR) ใน Cincinnati ทำผลงานได้ดีในภาวะเศรษฐกิจถดถอย 5 ครั้งที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 22.7%
ที่มา: InvestingPro
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน หุ้นรายงาน รายได้ และคาดว่าจะรายงานรายได้ต่อหุ้น (EPS) ที่ 1.43 ดอลลาร์
ที่มา: InvestingPro
โมเดลของ InvestingPro ให้เป้าหมายของราคาที่ 66.12 ดอลลาร์
คุณสามารถดูปันผลได้ที่นี่:
ที่มา: InvestingPro
ในทางเทคนิคแล้ว มันพยายามฝ่าแนวต้านที่ 50.35 ดอลลาร์หลายครั้ง แต่ไม่เคยสำเร็จ
Oหุ้นตัวอื่น ๆ ที่ทำผลงานได้ดีในช่วงภาวะเศรษฐกิจถอถอย
นี่คือรายชื่อหุ้นที่ทำผลงานได้ดีในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย 5 ครั้งที่ผ่านมาและอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยของหุ้นแต่ละตัว
ด้วย InvestingPro, คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ครอบคลุมและภาพรวมของบริษัทได้อย่างสะดวกสบายในที่เดียว โดยไม่จำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่ง
นอกเหนือจากเป้าหมายของนักวิเคราะห์ InvestingPro แสดงผลการวิเคราะห์ในหน้าเดียว และให้ข้อมูลที่ครบถ้วน ประหยัดเวลา
เริ่มต้นใช้งานฟรี 7 วันได้ทันที!
Disclaimer: บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อจุดประสงค์ในการเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้น ไม่ถือเป็นการชักชวน ข้อเสนอ คำแนะนำ คำปรึกษา หรือคำแนะนำในการลงทุน และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการซื้อสินทรัพย์ในทางใดทางหนึ่ง