รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ช่วงที่เหลือของปี ตลาดขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ 

เผยแพร่ 23/12/2565 09:23
อัพเดท 09/07/2566 17:32

วานนี้ตลาดหุ้นโลกยังคงผันผวน ส่วนหนึ่งคาดเกิดจากนักลงทุนปรับพอร์ตช่วงท้าย ปี เพื่อเตรียมรับมือปัจจัยต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในปี 66 ทั้งความกังวลเรื่อง Recession รวมถึงการใช้นโยบายการเงินที่เข้มขึ้นของหลายประเทศ รวมถึงวันนี้นักลงทุนรอ ติดตามตัวเลข PCE Index ของสหรัฐ ว่าจะลดลงจากเดือนที่แล้วที่ 6%YoY หรือไม่? ขณะเดียวกันประเด็นในไทย รอติดตามตัวเลขส่งออกเดือน พ.ย. ที่จะ ประกาศในสัปดาห์หน้า ตลาดคาดหดตัว -6.1%YoY (เดือน ต.ค. -4.4%YoY) โดย ธปท. คาดว่ามูลค่าส่งออกในปี 66 จะเติบโตลดลงจาก 9% เหลือ 7% อย่างไรก็ ตามในภาพรวมมุมมอง GDP ปี 66F ยังเห็นการเติบโตต่อเนื่องที่ 3.7% (GDP65F 3.2%) แรงหนุนหลักๆ มาจากนักท่องเที่ยวที่ทยอยเพิ่มขึ้นเป็น 22 ล้านคน รวมถึง การลงทุนภาครัฐที่เพิ่มขึ้น 1.8% เช่นเดียวกับเศรษฐกิจจีนที่น่าจะดีขึ้นตามลำดับ หลังจีนเตรียมยุติการกักตัวเข้าประเทศในสถานที่กักตัวของรัฐจากนสูตร "5+3" ลง มาเหลือ "0+3" วัน (เริ่มเดือน ม.ค. นี้) และสำหรับนักเก็งกำไรใน SET50 Futures อาจต้องเตรียมรับมือความผันผวนที่มากขึ้นหลัง DELTA เข้า SET50 เพราะการ เคลื่อนไหว 1% ของ DELTA ส่งผลต่อ SET50 ขยับถึง 0.67 จุด

สำหรับ SET Index คาดเคลื่อนไหวที่ 1600 – 1620 จุด หุ้น Top Pick เลือกหุ้น ปันผลสูงจ่ายปีละครั้ง AP, ASK และหุ้นรับเหมาฯ CK

สินทรัพย์เสี่ยงโดนกดดันต่อเนื่อง แต่กำลังอยู่ช่วงเปลี่ยนถ่าย คาด ศก. ถดถอยสหรัฐกดดันส่งออกไทย

การดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางหลายแห่งเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งสูง ส่งผลให้การเติบโตของเศรษฐกิจประเทศต่างเริ่มชะลอตัวลงในเวลาต่อมา ทำให้ความ กังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะ Recession ถูกส่งผ่านมายังตลาดหุ้นจนเกิดความ ผันผวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในฝั่งสหรัฐร่วงลงราว -4.5%mtd ถึง 8.7%mtd ขณะที่ในฝั่ง ยุโรปปรับตัวลงราว -1.4%mtd ถึง 3.6%mtd ทั้งนี้ความกังวลดังกล่าวน่าจะยังคงกดดัน Upside ตลาดหุ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้

ในส่วนของบ้านเรายังมีประเด็นที่น่าติดต่อในสัปดาห์หน้าคือ ตัวเลขการนำเข้า-ส่งออก เดือนพ.ย. โดย Consensus คาดว่าจะหดตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ราว -6.1%YoY หลัง ตลาดส่งออกสำคัญของไทย ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างสหรัฐ (สัดส่วนมูลค่า การส่งออก 16.4%) และจีน (สัดส่วนมูลค่าการส่งออก 12%) กำลังเผชิญกับปัญหา เศรษฐกิจชะลอตัว

อย่างไรก็ตาม ธปท. คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะยังเดินหน้าฟื้นตัวต่อไปได้ทั้งในปี 66 และปี 67 โดยมีการขยายตัวราว 3.7%YoY และ 3.9%YoY ตามลำดับ จากการลงทุนของภาครัฐที่ กลับมาเพิ่มขึ้น บวกกับภาคการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาฟื้น และยังมีมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจที่เข้ามากช่วยสนับสนุน อาทิ ช้อปดีมีคืน การลดภาระค่าครองชีพต่างๆ ฯลฯ ซึ่ง จะเป็นแรงหนุนให้ดุลบัญชีเดินสะพัดบวกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในเดือน พ.ย. 65 Consensus คาดว่าจะอยู่ที่ 1.25 พันล้านเหรียญฯ

ตลาดหุ้นในช่วงที่เหลือของปีแนะนำสะสมหุ้นปันผลสูงรับมือความผันผวน AP TISCO ASK และหุ้นอิงกับการฟื้นตัวเศรษฐกิจในประเทศ CBG CRC HMPRO COM7 CK เป็น ต้น ทั้งหลบความผันผวนและได้แรงหนุนจากการฟื้นของเศรษฐกิจปี 66

สำหรับวันนี้คาด SET เคลื่อนไหวที่ 1600 – 1620 จุด หุ้น Top Pick เลือกหุ้นปันผล สูงจ่ายปีละครั้ง AP, ASK และหุ้นรับเหมาฯ CK

ZERO-COVID เริ่มผ่อนคลาย ลุ้นเศรษฐกิจจีน RECOVER หนุน UPSIDE SET INDEX

สถาณการณ์ Covid-19 ในประเทศจีนดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังรัฐบาลจีนเดินหน้าผ่อนคลาย มาตรการควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งล่าสุด สื่อ HKSTV รายงานว่าจีนกำลังพิจารณาลด ระยะเวลาการกักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติลงเหลือ 0+3 วันจากปัจจุบัน 5+3 วัน (กักตัวใน Quarantine + กักตัวที่บ้าน) สำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. 65 เป็นต้น ไป รวมถึงการเปลี่ยนนิยามผู้เสียชีวิตด้วยโรค Covid-19 ว่า จะต้องมีผลตรวจโควิดเป็นบวกพร้อมทั้งเสียชีวิตจากภาวะการหายใจล้มเหลวเท่านั้น นอกจากนี้จีนเริ่มอนุญาติให้พนักง งานที่ป่วยด้วยโรค Covid-19 เพียงเล็กน้อยสามารถทำงานได้ตามปกติในสัปดาห์นี้ ซึ่งทำให้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น

อย่างไรก็ตามแม้ตัวเลขเศรษฐกิจของจีนจะยังไม่ฟื้นตัว แต่ด้วยสถานการณ์โควิดที่ผ่อน คลายมากขึ้น รวมถึงรัฐบาลใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ อาทิ

• มาตรการ 16Point Plan โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดการกับวิกฤตสภาพคล่องของ บริษัทพัฒนาอสังหาฯไปจนถึงการผ่อนคลายข้อกำหนดการชำระเงินดาวน์สำหรับ ผู้ซื้อบ้าน

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

• ประกาศลดประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ใน อัตรา 0.25% สำหรับสถาบันการเงินทุกแห่ง ซึ่งจะช่วยให้เงินไหลเข้าสู่ระบบ เศรษฐกิจจำนวน 5 แสนล้านหยวนในระยะยาว

ทำให้ฝ่ายวิจัยมองว่าปี 66 ภาพเศรษฐกิจจีนจะเป็นการฟื้นตัว ประชาชนกลับมาจับจ่ายใช้ สอย หนุนเศรษฐกิจไทยคึกคืน เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวจีน รวมถึงภาคการค้าเป็นกำลัง สำคัญในการผลักดันการบริโภคของประเทศไทย แนะนำสะสมหุ้น HANA, KCE,TKN, SCC, CBG, AOT (BK:AOT), CENTEL

สรุป สถานการณ์โควิดในจีนที่ผ่อนคลายมากขึ้น รวมถึงรัฐบาลใช้มาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจต่างๆ ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการด้านสาธารณสุข ก็น่าจะเป็น Sentiment เชิงบวกในระยะถัดไปหากจีนกลับมาฟื้นตัวได้เต็มที่มากขึ้น ดีต่อหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้อง

OR ราคานี้น่ารับหรือยัง?

จากประเด็นความกังวลเกี่ยวกับ ธนาคารแห่งประเทศนอร์เวย์ (Norge Bank) ได้ประกาศ ขายหุ้นใน OR และ PTT (BK:PTT) เนื่องจากเข้าข่ายสนับสนุนการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเมียนมาร์ และอาจเป็นเหตุให้กองทุนอื่นๆขายหุ้น OR และ PTT ตามออกมาในภายหลัง วานนี้ ทั้ง OR และ PTT ได้ประกาศแจ้งผ่านตลาดฯ ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุนความรุนแรง และการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยบริษัทฯยืนยันไม่มีการชำระเงินทุนเพิ่มเติมใดๆ ซึ่งจะเป็น ผลต่อการดำเนินกิจการในเมียนมาร์ และบุคคลที่ติดใน sanctions list โดยเด็ดขาด รวมถึง ยังปฏิบัติตามหลักความยั่งยืน (ESG) ซึ่งให้ความสำคัญในด้านการเคารพสิทธิมนุษยชน์อย่าง เคร่งครัด ซึ่งที่ผ่านมาในปี 2562 OR ได้มีการเข้าไปลงทุนในเมียนมาผ่านการถือหุ้น 35% ใน บริษัท Brighter Energy (BE) เพื่อประกอบธุรกิจค้าส่งและคลังเก็บผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม โดยอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างคลังเก็บผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ รัฐประหารในปี 2564 OR ได้แสดงเจตนารม ให้ BE หยุดการก่อสร้างคลังดังกล่าว ปัจจุบัน BE จึงยังไม่มีการเปิดดำเนินการใดๆ ส่วน PTT ได้รับผลกระทบในแง่ของการถือหุ้น 75% ใน OR และ 63.8% ใน PTTEP ซึ่งได้มีการลงทุนกับ เมียนมาร์ ออยล์ แอนด์ แก๊ส (MOGE) ใน โครงการสำรวจและผลิตก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งประเทศเมียนมา จำนวน 3 แหล่ง

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาตามสัดส่วนการถือหุ้นแยกตามประเภทสัญชาติของ OR พบว่า สัดส่วนหลักในการถือครอง OR มาจากสัญชาติไทยสูงถึง 96.6% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และมีผู้ถือหุ้นต่างชาติที่ถือครองโดยตรงมีสัดส่วนรวมกันอยู่เพียง 3.4% โดยอันดับ 1 ของ กลุ่มดังกล่าว ได้แก่ สัญชาติ British คิดเป็นสัดส่วน 2.1%ของจำนวนหุ้น OR ทั้งหมด (ซึ่ง จากการสอบถามไปยังบริษัท พบว่า Norge Bank ถูกนับรวมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย) รองลงมา ได้แก่ Hong Kong และ Singaporean สัดส่วนราว 0.6% และ 0.5% ตามลำดับ

ทั้งนี้ ในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมา ราคาหุ้น OR และ PTT ได้ปรับตัวลงไปแล้วกว่า 5% และ 1.5% ตามลำดับ คาดสะท้อนความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับการขายหุ้นของกลุ่มต่างชาติ ออกไปแล้วระดับหนึ่ง ซึ่งหากเกิดกรณีที่กลุ่มต่างชาติสัดส่วนที่เหลือขายหุ้น OR ออกมาทั้งหมดจริง คาดผลกระทบต่อราคาหุ้นจะมีค่อนข้างจำกัด ขณะที่ด้านปัจจัยพื้นฐานไม่ได้มี ผลต่อประมาณการและมูลค่าพื้นฐานแต่อย่างใด โดยฝ่ายวิจัยคาดผลการดำเนินงานในช่วง 4Q65 OR จะได้ประโยชน์จากการเข้าสู่ช่วง high season ของการใช้น้ำมัน ทำให้คาด ปริมาณขายจะปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงได้รับ sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มผู้ประกอบการค้า ปลีกน้ำมัน สำหรับมาตรการลดหย่อนภาษีจากการเติมน้ำมัน (มาตรการช้อปดีมีคืนปี 2566) ที่สามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 1 ม.ค.- 15 ก.พ. 2566 ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยยังคง FV ณ สิ้นปี 66 ที่ของ OR ที่ 28.50 บาท/หุ้น และ PTT 46 บาท/หุ้น แนะนำทยอยสะสมลงทุนระยะยาว

DELTA จะมีผลให้ SET50 ปี 66 ผันผวนขนาดไหน?

ในช่วง 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา DELTA มีผลกระทบต่อ SET Index มาก เนื่องจากราคาหุ้นปรับ ขึ้นจาก 58 มา 718 บาท จนทำให้มี Market Cap ใหญ่ติด Top 5 ของหุ้นที่ SET Index ทั้งหมด โดย SET Index ได้รับแรงหนุนจาก DELTA กว่า 72 จุดตลอด 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา(ปี นี้ได้SET แรงหนุนจาก DELTA 31 จุด) อย่างไรก็ตามหุ้น DELTA นั้นมี Free float อยู่ใน ระดับต่ำเพียง 23.5% จึงทำให้ราคาหุ้นผันผวนได้ง่ายกว่าหุ้นขนาดใหญ่ตัวอื่นๆ

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

นอกจากที่ DELTA จะมีผลกระทบต่อ SET Index แล้ว ในบางครั้งที่ DELTA ได้ถูกคัดเลือก เข้าดัชนี SET50 ในปี 2021 ก็จะส่งผลกระทบต่อ SET50 ด้วย โดยกดดัน SET50 กว่า 7.3 จุด ขณะที่ปัจจุบัน DELTA ได้ถูกคัดเลือกเข้าดัชนี SET50 อีกครั้งในช่วง 1H23 คาดมี โอกาสทำให้ SET และ SET50 กลับมาผันผวนมากขึ้น

หากพิจารณาการกระจายตัวข้อมูล DELTA ส่งผลต่อ SET ต่อวันในอดีต จะเห็นได้ว่า มี ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ +0.12 จุด และ S.D. 2.73 จุด แสดงว่า มีโอกาส 68% จะเห็น SET Index แกว่งตัวจาก DELTA -2.61 ถึง +2.85 จุดต่อวัน (ในช่วง 2 ปีครึ่ง Delta เคยกดดัน SETลง ลึกสุด -13.9 จุด และเคยหนุน SET ขึ้นมากสุด 17.3 จุด ในวันเดียว) ข้อมูลดังกล่าว แสดง ให้เห็นว่า DELTA นั้นมีผลต่อ SET Index มากแค่ไหนทั้งในมุมราคาขึ้นและลง จึงทำให้นัก ลงทุนที่ซื้อขายหุ้นโดยตรง หรือ ซื้อขายสัญญา SET50 Futures ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ในการลงทุนตั้งแต่ต้นปีหน้า ซึ่งปัจจุบันการเคลื่อนไหว 1% ของ DELTA ส่งผลต่อ SET50 ขยับถึง 0.67 จุด

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย