Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน: เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,605-1,635 จุด คาด SET ยังคงผันผวน จากความผิดหวังที่มีต่อการดําเนินนโยบายทางการเงินของเฟด โดยก่อนการประชุม Market Consensus คาดหมายจะเห็นการส่งสัญญาณการดําเนินนโดยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น เหมือนธนาคารกลางอื่นทั่ว โลก รวมไปถึง Dollar index กลับมาแข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก โดยล่าสุด Dollar Index กลับมายืนเหนือ ระดับ 112 จุด และการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราเร่งเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยเฉพาะถ้อยแถลงของ ประธานเฟดล่าสุด หลังการประชุม FOMC ทําให้ตลาดกลับมากังวลต่อการที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ เฟดจะยาวนานกว่าที่คาดไว้ รวมไปถึงจะมีการปรับเพิ่มคาดการณ์เพดานสูงสุดของอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่ ระดับ 5% หรือสูงกว่านั้นในปี 2566 จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 4.50-4.75% เป็นปัจจัยกดดันภาพรวมการ ลงทุน
• BoE ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 75bps ตามคาด - ธนาคารกลางอังกฤษ (BQE) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.0% ในการประชุมวานนี้ ตามคาด การปรับอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวถือเป็นการปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดของ BoE ในรอบ 33 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2532 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน เป็นครั้งที่ 8 นับตั้งแต่เดือนธ.ค.2564 หลังจากเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง ในเดือน ก.ย. ทําจุดสูงสุดใหม่ใน รอบ 40 ปี โดยก่อนหน้านี้ BoE มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สู่ระดับ 2.25% ในการประชุมเดือน ก.ย. ซึ่งสร้างความผิดหวังต่อนักลงทุนที่คาดว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% โดย BOE มีกําหนดจัดการ ประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายในปี 2565 ในวันที่ 15 ธ.ค.
• กลยุทธ์การลงทุน หุ้นในพอร์ต 45% เลือก BAFS BEM BDMS AWC CENTEL PTG SUSCO เป็นหุ้นเด่น - เราให้ น้ําหนักหุ้นในพอร์ตที่ระดับ 45% Theme หุ้นที่น่าลงทุน เราเลือก หุ้นในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เราเลือก ASIAN SAPPE หุ้นในกลุ่ม Defensive เราเลือก BDMS BH หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า เราเลือก EA GULF หุ้นในกลุ่ม อุปโภคบริโภค เราเลือก MAKRO CPALL (BK:CPALL) HMPRO GLOBAL หุ้นในกลุ่มขนส่งในประเทศ เราเลือก BEM และหุ้น ใน Theme เปิดเมืองเปิดประเทศที่ยังน่าสนใจ เราเลือก AOT (BK:AOT) BAFS ERW AWC CENTEL PTG SUSCO ขณะที่ เราแนะนําเก็งกําไรระยะสั้น หุ้นในกลุ่มที่ได้ประโยชน์หลักน้ําท่วม ได้แก่ หุ้นในกลุ่ม Commerce เราเลือก HMPRO GLOBAL DOHOME และกลุ่มสินค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งซ่อมแซม เราเลือก TASCO DCC COTTO TOA
• สัปดาห์นี้ติดตาม ตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญของสหรัฐฯ ดัชนี PMI ยูโรโซน และรายงานเงินเฟ้อของไทย - (4 พ.ย.) : ไทย - ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย เดือน ต.ค. (คาด 6.0%yoy เพิ่มขึ้นจากเดือน ส.ค. ที่ 6.41%yoy) / ยูโรโซน - รายงาน PMI เดือน ต.ค. / สหรัฐฯ - รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง เดือน ต.ค.รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง เดือน ต.ค. การจ้างงานนอกภาคการเกษตร เดือน ต.ค. อัตราการมีส่วนร่วม เดือน ต.ค. การจ้างงานนอกภาคการเกษตร เอกชน เดือน ต.ค. (คาด 2 แสนตําแหน่ง) และอัตราการว่างงาน เดือน ต.ค. (คาด 3.6% เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ย. ที่ 3.56)
ข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญ - กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 217,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา สวนทางกับ Market Consensus ที่คาดว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 220,000 ราย อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวอยู่สูงกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ย ต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จํานวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 50,000 ราย สู่ระดับ 1.49 ล้านราย / กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า คําสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3%mom และเพิ่มขึ้น 13%yoy ใน เดือน ก.ย. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2%mom ในเดือน ส.ค. ส่วนยอด สั่งซื้อสินค้าทุนพื้นฐาน ที่ไม่รวมหมวดอาวุธและเครื่องบิน ลดลง 0.4% ในเดือนก.ย. โดยยอดสั่งซื้อดังกล่าวถือเป็น มาตรวัดความเชื่อมั่น และแผนการใช้จ่ายในภาคธุรกิจ / ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจ อังกฤษได้เข้าสู่ภาวะถดถอยใน 3065 และภาวะถดถอยดังกล่าวจะดําเนินต่อไปในปี 2566 จนถึงกลางปี 2567 โดยภาวะถดถอยในครั้งนี้จะยาวนานกว่าที่เคยเกิดขึ้นในช่วงวิกฤตการเงินในปี 2551-52 และจะส่งผลให้เศรษฐกิจ อังกฤษ คาดว่าหดตัว 2.9% นอกจากนี้ BoE คาดว่าเงินเฟ้อจะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 11% ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ในรอบ 40 ปี ใน 4Q65 และอัตราว่างงานจะปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.4% ในปลายปี 2568 จากระดับ 3.5% ในปี 2565 ซึ่งเป็นระดับต่ําสุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1970
ปัจจัยทางเทคนิค - หุ้นแนะนําทางเทคนิค ได้แก่ E KKP (แนวต้าน 76.5-78.0 / แนวรับ 73.0-72.25 / Stop loss 69.25) GBBIK (แนวต้าน 132-134 / แนวรับ 125.0-123.0/ Stop loss 118) & PR9 (แนวต้าน 19.019.4 / แนวรับ 18.1-17.8 / Stop loss 17.2)
• SET ตอบรับเชิงลบต่อถ้อยแถลงประธานเฟด แต่ SET ยังถือว่าแข็งแกร่งกว่าภูมิภาค - SET วานนี้ (3 พ.ย.) ปิดที่ระดับ 1,625.62 จุด เพิ่มขึ้น 0.60 จุด (+0.04%) มูลค่าการซื้อขาย 52,198.84 ล้านบาท (สูงสุด 1,628.78 จุด และต่ําสุด 1,619.99 จุด) SET เคลื่อนไหว sideway ในกรอบแคบ โดยยังมีแรงกดดันจากถ้อย แถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ยังคงส่งสัญญาณว่าเฟดจะเดินหน้าปรับ ขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกต่อไป อย่างไรก็ตาม SET ยังถือว่าแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นภูมิภาค โดยเฉพาะแรงซื้อในกลุ่ม หุ้นขนาดใหญ่ ทั้งกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงาน
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities