Investment Ideas: ภาพรวมการลงทุน: เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,600-1,635 จุด เราคาดว่า SET จะ ตอบรับเชิงลบต่อถ้อยแถลงของประธานเฟด แม้การปรับขึ้นดอกเบี้ยรอบเดือน พ.ย. และการส่งสัญญาณ การขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. จะเป็นไปตามคาดที่ 75bps และ 50bps ตามลำดับ แต่ถ้อยแถลงของ ประธานเฟดยังยืนยันที่จะขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง และมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่กำหนดไว้ก่อนหน้า นี้ ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตอบรับเชิงลบ ผลกระทบดังกล่าว เราเชื่อว่าจะเป็นลบต่อเนื่องต่อตลาดหุ้น ในภนลบต่อเนื่องต่อตลาดหุ้นในภูมิภาค รวมถึง SET ทิศทางของค่าเงินดอลลาร์เริ่มกลับมาแข็งค่า กดดัน ค่าเงินในภูมิภาค ตลาด Commodity รวมไปถึงสินทรัพย์เสี่ยง ทำให้ระยะสั้นนักลงทุนต้องระมัดระวัง แรงขายทำกำไร
เฟดขึ้นดอกเบี้ยตามคาด แต่ตลาดตอบรับเชิงลบ หลังถ้อยแถลงประธานเฟด ระบุยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย และอาจขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ - คณะกรรมการเฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 3.75- 4.00% ตามคาด และส่งสัญญาณว่าจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. อย่างไรก็ตาม ตลาดกลับตอบรับเชิงลบ เนื่องจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า ภารกิจการต่อสู้กับเงินเฟ้อของเฟดยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก และข้อมูลที่เฟดได้รับนับตั้งแต่การประชุมครั้งที่แล้วยังบ่งชี้ว่า เฟดอาจต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง กว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยระบุว่ายังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงการยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดย ข้อมูลเกี่ยวกับตลาดแรงงาน ที่มีการเปิดเผยก่อนหน้านี้เกี่ยวกับตัวเลขการรับสมัครงาน (JOLTS) ที่เพิ่มขึ้น 437,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.7 ล้านตำแหน่ง ในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา สูงกว่าที่ Market Consensus คาดว่า จะลดลงมากอยู่ที่ระดับ 9.85 ล้านตำแหน่ง โดย JOLTS เป็นหนึ่งในข้อมูลที่เฟดใช้ในการพิจารณานโยบาย การเงินและอัตราดอกเบี้ย รวมไปถึงล่าสุดที่มีการรายงานการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 239,000 ตำแหน่ง ในเดือน ต.ค. ก็เป็นการปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ Market Consensus คาดไว้ที่ระดับ 195,000 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้นจากจากระดับ 192,000 ตำแหน่ง ในเดือน ก.ย. สะท้อนถึงตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ ยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เฟด ยังคงต้องดำเนินนโยบายการเงินเข้างวดต่อไป
กลยุทธ์การลงทุน หุ้นในพอร์ต 45% เลือก BAFS BEM BDMS AWC CENTEL PTG SUSCO เป็นหุ้นเด่น – เราให้น้ำหนักหุ้นในพอร์ตที่ระดับ 45% Theme หุ้นที่น่าลงทุน เราเลือก หุ้นในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เรา เลือก ASIAN SAPPE หุ้นในกลุ่ม Defensive เราเลือก BDMS BH หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า เราเลือก EA GULF หุ้นในกลุ่มอุปโภคบริโภค เราเลือก MAKRO CPALL (BK:CPALL) HMPRO GLOBAL หุ้นในกลุ่มขนส่งในประเทศ เราเลือก BEM และหุ้นใน Theme เปิดเมืองเปิดประเทศที่ยังน่าสนใจ เราเลือก AOT (BK:AOT) BAFS ERW AWC CENTEL PTG SUSCO ขณะที่เราแนะนำเก็งกำไรระยะสั้น หุ้นในกลุ่มที่ได้ประโยชน์หลักน้ำท่วม ได้แก่ หุ้นในกลุ่ม Commerce เราเลือก HMPRO GLOBAL DOHOME และกลุ่มสินค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งซ่อมแซม เราเลือก TASCO DCC COTTO TOA
สัปดาห์นี้ติดตาม ตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการเดือน ต.ค. ของอังกฤษ และยูโรโซน และ รายงาน GDP 3Q65 และเงินเฟ้อ เดือน ต.ค. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน รวมไปถึง รายงานเงินเฟ้อของไทย - (3 พ.ย.) : อังกฤษ – ดัชนี PMI ภาคการผลิต เดือน ต.ค. / ยูโรโซน - อัตราการ ว่างงาน เดือน ต.ค. (คาด 6.6%) / สหรัฐฯ – ดุลการค้าเดือน ก.ย. จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงาน ครั้งแรก (คาด 2 แสนตำแหน่ง) ต้นทุนแรงงานต่อหน่วย ในช่วง 3Q65 ดัชนีการจ้างงานนอกภาคการผลิตจาก สถาบัน ISM เดือน ต.ค. // (4 พ.ย.) : ไทย - ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย เดือน ต.ค. (คาด 6.0%yoy เพิ่มขึ้น จากเดือน ส.ค. ที่ 6.41%yoy) / ยูโรโซน – รายงาน PMI เดือน ต.ค. / สหรัฐฯ - รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง เดือน ต.ค.รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง เดือน ต.ค. การจ้างงานนอกภาคการเกษตร เดือน ต.ค. อัตราการมีส่วนร่วม เดือน ต.ค. การจ้างงานนอกภาคการเกษตรเอกชน เดือน ต.ค. (คาด 2 แสนตำแหน่ง) และอัตราการว่างงาน เดือน ต.ค. (คาด 3.6% เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ย. ที่ 3.5%)
ปัจจัยทางเทคนิค – หุ้นแนะนำทางเทคนิค ได้แก่ AOT (แนวต้าน 78.5-80.0 / แนวรับ 74.5-73.0 / Stop loss 70.5) EKH (แนวต้าน 8.8-9.0 / แนวรับ 8.35-8.20 / Stop loss 7.9) CK (แนวต้าน 24.4-24.8 / แนวรับ 23.2-23.0 / Stop loss 22.0)
SET เคลื่อนไหว sideway ก่อนทราบผลการประชุมเฟด - SET วานนี้ (2 พ.ย.) ปิดที่ระดับ 1,625.02 จุด ลดลง 0.71 จุด (-0.04%) มูลค่าการซื้อขาย 66,481.75 ล้านบาท (สูงสุด 1,630.56 จุด และต่ำสุด 1,622.30 จุด) SET เคลื่อนไหวในกรอบ sideway ก่อนทราบผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดย Market Consensus คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% อย่างไรก็ตามประเด็นที่นักลงทุนติดตามคือ ถ้อแถลงของ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดจะส่งสัญญาณชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ย ในการประชุมครั้งถัดไป และการ ดำเนินนโยบายการเงินในระยะต่อไป
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities