Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน: คาด SET ยังคง Sideway ติดตามรายงานเฟ้อไทย พรุ่งนี้ - เราคาดว่า SET วันนี้ จะ เคลื่อนไหวในกรอบ 1,580-1,600 จุด เราคาดว่า SET จะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ sideway หลัง สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีน และสหรัฐฯ ไม่เกิดความรุนแรง ทําให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคคลายความ กังวล มีโอกาสเห็น Fund flow ที่ไหลกลับภูมิภาคเอเซียเหนือ ขณะที่เรายังคงให้น้ําหนักหุ้นในกลุ่ม Anti-commodity หลังราคาน้ํามันดิบยังปรับลดลง ทําให้ต้องระวังระวังแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน ปัจจัยในประเทศ ยังคงต้องติดตามรายงานเงินเฟ้อของไทย (5 ก.ค.) ที่คาดว่าจะยังมีโอกาสทรงตัวใน ระดับสูง ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจในการดําเนินนโยบายการเงินของ กนง. ซึ่งมีกําหนดการประชุม 10 ส.ค. เราคาดว่า กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่น้อยกว่า 25bps กลยุทธ์การลงทุน หุ้นในพอร์ต 50% เรายังชอบหุ้น Anti-commodity เน้นโรงไฟฟ้า - กลยุทธ์การลงทุน เรา ให้หนักการลงทุนในหุ้น 50% ของพอร์ต เรายังคงให้น้ําหนักหุ้นในกลุ่ม Defensive Stock เราเลือก EGCO RATCH GULF BDMS BH INTUCH AOT (BK:AOT) ADVANC หุ้นในกลุ่มอาหารต้นน้ําที่ได้ประโยชน์จากภาวะ ขาดแคลนอาหาร เราเลือก GFPT TU TFG ASIAN CFRESH CPE หุ้นในกลุ่มค้าปลีกและอุปโภคบริโภค เรา เลือก CRC CPN MBK MAKRO GLOBAL HMPRO หุ้นในกลุ่ม Anti-Commodity อย่าง BGRIM GPSC PTG SUSCO EPG และหุ้นใน Theme เปิดเมือง AOT BAFS SHR MINT MAJOR BEM AMATA • สัปดาห์นี้ติดตาม ดุลการค้าสหรัฐฯ และเงินเฟ้อของไทย - 4 ก.ค. - สหรัฐฯ: ตัวเลขการส่งออก นําเข้า และ ดุลการค้า (คาดขาดดุล 8 หมื่นล้านเหรียญ) / จํานวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (คาด 2.55 แสนตําแหน่ง) // 5 ก.ค. - ไทย: ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย เดือน ก.ค. (คาด 7.5%YoY ลดลงจากเดือน มิ.ย. 7.66%YoY) / สหรัฐฯ: รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง เดือน ก.ค. (เพิ่มขึ้น 0.36MoM และเพิ่มขึ้น 4.99%YoY) อัตราการว่างงาน เดือน ก.ค. (คาด 3.6% ทรงตัว MoM) และอัตราการว่างงานนอกภาคการเกษตร เดือน ก.ค. (คาด 2.5 แสนตําแหน่ง)
ราคาน้ํามันดิบปรับลดลง ให้น้ําหนักหุ้นในกลุ่ม Anti-Commodity ตามพอร์ต Core Investment - สัญญา น้ํามันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. ปิดที่ 90.66 เหรียญต่อบาร์เรล ลดลง 3.76 เหรียญ (-4%) หลังมีรายงาน จากสํานักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณสํารองน้ํามันดิบ เพิ่มขึ้น 4.5 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา สวนทางกับที่ Market Consensus คาดว่าจะลดลง 700,000 บาร์เรล นอกจากนี้ปริมาณสํารองน้ํามันดิบ ณ เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ํามันดิบล่วงหน้า ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 926,000 บาร์เรล สู่ระดับ 24.5 ล้านบาร์เรล ด้านปริมาณสํารองน้ํามันเบนซินเพิ่มขึ้น 163,000 บาร์เรล สวนทางกับที่ Market Consensus คาดว่าจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล และปริมาณสํารอง น้ํามันกลั่น (ฮีตติ้งออยล์และน้ํามันดีเซล) ลดลง 24 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ Market Consensus คาดว่าเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล เราให้น้ําหนักหุ้นในกลุ่ม Anti-Commodity ตามพอร์ต Core Investment เลือก BGRIM GPSC PTG SUSCO EPG เป็นหุ้นเด่น ข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญ - กลุ่ม OPEC+ มีมติเพิ่มกําลังผลิต สําหรับแผนการผลิตน้ํามันในเดือน ก.ย. อีก 100,000 บาร์เรลต่อวัน ถือเป็นการปรับเพิ่มกําลังผลิตในอัตราที่ลดลงจาก 3 เดือนที่ผ่านมา ที่มีการเพิ่ม กําลังผลิตในระดับ 432,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน มิ.ย. และเพิ่มในระดับ 648,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.ค. และ ส.ค. / กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานคําสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.0% ในเดือน มิ.ย. สูงกว่าที่ Market Consensus คาดว่าเพิ่มขึ้น 1.1% และเป็นการปรับขึ้นต่อเนื่องจากเดือน พ.ค. ที่ เพิ่มขึ้น 1.8% / สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) รายงานดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯ เดือน ก.ค. ปรับลดลง อยู่ที่ 56.7 จุด เป็นการปรับลดลงติดต่อกัน 3 เดือน ดีกว่าที่ Market Consensus คาดว่าจะลดลง สู่ระดับ 53.5 จุด ปัจจัยทางเทคนิค - หุ้นแนะนําทางเทคนิค ได้แก่ 6 BCH (แนวต้าน 21.2-21.6/ แนวรับ 20.6-20.2/ Stop loss 19.8) © GPSC (แนวต้าน 70.75-72.00 / แนวรับ 69.00-68.50 /Stop loss 65.00) # MC (แนวต้าน 9.75-9.95/ แนวรับ 9.50-9.40 /Stop loss 9.20) SET วานนี้ (3 ก.ค.) เคลื่อนไหว sideway และพลิกกลับมาเป็นบวกช่วงท้ายตลาด หลังประธานสภา ผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ เดินทางกลับโดยไม่มีเหตุรุนแรง - SET วานนี้ (3 ส.ค.) ปิดที่ระดับ 1,594.73 จุด เพิ่มขึ้น 5.57 จุด (+0.35%) มูลค่าการซื้อขายราว 50,898.19 ล้านบาท (สูงสุด 1,597.74 จุด และตําสุดที่ 1,586.49 จุด) SET เคลื่อนไหวในกรอบ Sideway แต่สามารถกลับมาปิดในแดนบวกได้ในช่วงท้ายตลาด หลัง มีรายงานข่าวการเดินทางกลับของประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ โดยไม่มีเหตุรุนแรง ทําให้ตลาด คลายความกังวลในระยะสั้น แต่ยังต้องติดตามท่าทีของทางการจีน รวมไปถึงสถานการณ์ด้านการค้า การ ลงทุน และการเมืองระหว่างประเทศ ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ในระยะต่อไป อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวของ SET ยังเป็นไปอย่างจํากัด เนื่องจากขาดปัจจัยบวกหนุนที่ชัดเจน ขณะที่ยังคงต้องติดตามรายงานเงินเฟ้อของ ไทยวันศุกร์นี้ ก่อนการประชุม กนง. สัปดาห์หน้า (10 ส.ค.)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities