🐦 Early bird ค้นพบหุ้นที่มาแรงที่สุดตอนนี้ด้วยราคาเบา ๆ รับส่วนลดสูงถึง 55% สำหรับ InvestingPro กับโปรโมชัน Black Fridayรับส่วนลด

สงครามและเงินเฟ้ออาจเร่งให้กฎหมายคุมเข้มคริปโตฯ เกิดได้เร็วขึ้น

เผยแพร่ 11/03/2565 10:33
อัพเดท 09/07/2566 17:31
DX
-
BTC/USD
-
BMC
-
ETH/USD
-
ETH
-
COIN
-

ครั้งสุดท้ายที่มีสงครามครั้งใหญ่ในยุโรป ยังไม่มีสกุลเงินดิจิทัลเหมือนกับทุกวันนี้ ทางเลือกในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลช่วยให้ประชาชน ธุรกิจ และแม้กระทั่งรัฐบาลสามารถขนส่งเงิน ทรัพย์สิน และเงินออมได้ แม้ว่าสกุลเงินดิจิทัลจะเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง แต่มันก็มีประโยชน์หลายประการ คริปโตฯ สามารถทำธุกรรมได้แม้จะอยู่ใต้เรดาร์ของรัฐบาล เป็นการทำธุรกรรมแบบกึ่งนิรนาม ไม่มีพรมแดนขวางกั้น มีอิสระเสรีอยู่ในไซเบอร์สเปซ กระเป๋าเงินดิจิทัลสามารถรองรับสกุลเงินดิจิทัลได้หลายตัวไม่ว่าจะเป็นบิทคอยน์ อีเธอเรียมและสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะมีเงินน้อยหรือมากก็ตาม

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปฏิกิริยาในตลาดสกุลเงินดิจิทัลกลับไม่ได้ครึกครื้นอย่างที่คิด บิทคอยน์ฟิวเจอร์สที่จะส่งมอบเดือนในมีนาคมลดลงเหลือ 34,300 ดอลลาร์ และอีเธอเรียมฟิวเจอร์สที่จะส่งมอบในเดือนมีนาคมก็ลดลงเหลือ 2,305.50 ดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน แม้ว่าทั้งสองสกุลเงินจะมีมูลค่าตลาดรวมกันมากกว่า 60% ของตลาดสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมด แต่เมื่อสงครามเริ่มขึ้น ตลาดแห่งนี้กลับไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญเลยสักครั้ง

สหรัฐฯ และยุโรปตบรัสเซียด้วยการคว่ำบาตรธนาคารและธุรกิจต่างๆ เพื่อเป็นการลงโทษสำหรับการโจมตียูเครน การตบครั้งนี้ทำให้ตลาดหุ้นรัสเซียและเงินรูเบิลร่วงลงอย่างหนัก มีสาวกคริปโตฯ บางกลุ่มคาดหวังว่าอาจจะได้เห็นฉากจบของสงคราม ที่คริปโตฯ จะช่วยเหลือทั้งชาวรัสเซียและชาวยูเครนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามนี้ พวกเขาหวังว่าจะได้เห็นบิทคอยน์ อีเธอเรียมและสกุลเงินดิจิตอลอื่นๆ อีกมากกว่า 18,000 สกุลเงินกลายเป็นที่ยอมรับขึ้นมาได้ และจะกลายเป็นจุดชนวนของตลาดกระทิงระลอกใหม่

คริปโตฯ ไม่มีทางทำให้เกิดเงินเฟ้อ

ในทางอุดมคติ สกุลเงินดิจิทัลเป็นสิ่งที่ปฏิเสธรัฐบาลและการแทรกแซงทางการเงินของธนาคารกลาง ในระบบการเงินปัจจุบัน เพราะรัฐบาลออกประกาศรองรับกระดาษขนาด 7.20 x 16.20 เซนติเมตร เป็นสิ่งถูกกฎหมาย มันจึงทำให้พวกเขาสามารถควบคุมปริมาณเงินได้ แต่เราก็เห็นแล้วว่าเมื่อปล่อยให้ระบบการเงินอยู่ในมือของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง สุดท้ายแล้วมันนำมาซึ่งอะไร

ตามที่เราได้เห็นในช่วงวิกฤตการเงินโลกปี 2008 และการระบาดโควิดทั่วโลกในปี 2020 ประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้สูบฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน ผ่านการลดอัตราดอกเบี้ยและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งคำนี้หมายความว่าการพิมพ์เงินขึ้นมาเพิ่มในจำนวนที่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเห็นว่าสมควร เมื่อเวลาผ่านไป นโยบายการเงินและการคลังกลับขยายหรือหดตัวตามวาระทางการเมือง ไม่ใช่เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนแต่อย่างใด

แต่สกุลเงินดิจิทัลนั้นเป็นในสิ่งที่ตรงกันข้าม หลังจากเขียนคำสั่งและมีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการแล้ว จะไม่มีใครที่มีสิทธิ์แก้ไขข้อบัญญัตินั้นอีกนอกจากจะเป็นฉันทามติของผู้ใช้งานสกุลเงินดิจิทัลนั้นๆ เมื่อปริมาณเงินในระบบมีอยู่อย่างจำกัด ปัญหาเงินเฟ้อจึงเป็นสิ่งที่จะไม่มีวันเกิดขึ้นกับสกุลเงินดิจิทัล ในโลกนี้สิ่งเดียวที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับสกุลเงินดิจิทัลมากที่สุดคือทองคำ เพราะวิธีเดียวที่จะเพิ่มปริมาณทองคำคือการทำเหมืองให้มากขึ้น

รัฐบาลทั้งรักทั้งเกลียดคริปโตฯ

ในตอนนี้รัฐบาลส่วนใหญ่ยังไม่ตื่นตระหนกกับการเติบโตของสกุลเงินดิจิทัล แม้ว่าจะพึ่งสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 ตอนนี้มีเพียงแค่เอลซัลวาดอร์เท่านั้นที่กล้าใช้บิทคอยน์เป็นสกุลเงินประจำชาติ สถาบันข้ามชาติเช่นธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศต่างก็ไม่พอใจที่เห็นเอลซัลวาดอร์ทำเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม เพราะทั้งโลกไม่ได้อยู่ในองค์กรเดียวกัน ประเทศที่ถูกกีดกันจากประเทศมหาอำนาจอาจหันไปใช้คริปโตฯ แทนเนื่องจากพวกเขาไม่ต้องทนทำสงครามค่าเงินกับประเทศที่ใหญ่กว่า 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แพลตฟอร์มผู้ให้บริการและเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลยักษ์ใหญ่คอยน์เบส (NASDAQ:COIN) และไบแนนซ์ ปฏิเสธข้อเรียกร้องในการแบนผู้ใช้งานชาวรัสเซียทุกคน แม้จะมีการคว่ำบาตรจากตะวันตก คราเค่น (Kraken) แพตฟอร์มการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลอีกแห่งก็ไม่ปิดบัญชีผู้ใช้งานชาวรัสเซีย แต่ยอมโอนอ่อนที่จะแบนเฉพาะบัญชีของบุคคลที่ร่ำรวยในรัสเซีย เพราะเชื่อว่ามีโอกาสสร้างเงินทุนให้กับรัฐบาลรัสเซียในการทำสงครามได้

เพราะธนาคารรัสเซียที่ถูกไล่ออกจากระบบ SWIFT ดังนั้นจึงมีแนวโน้มที่พวกเขาจะมองว่าตลาดสกุลเงินดิจิทัลสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการทำธุรกรรมได้ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่าสกุลเงินดิจิทัล ไม่สามารถช่วยให้รัสเซียให้หลีกเลี่ยงผลกระทบจากการคว่ำบาตรได้ เนื่องจากมูลค่ารวมของตลาดสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดยังมีขนาดเล็กเกินไปสำหรับรัสเซียทั้งประเทศ

แต่เพราะมีคนเชื่อว่าสงครามครั้งนี้จะเป็นบทพิสูจน์หนึ่งของสกุลเงินดิจิทัลที่จะมีบทบาทมากขึ้น รัฐบาลทั่วโลกจึงเห็นตรงกันว่าสกุลเงินดิจิทัลอาจเป็นภัยคุกคามได้หากยังปล่อยให้ตลาดคริปโตฯ เติบโตขึ้นอยู่เช่นนี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับยูเครนตอนนี้ สกุลเงินดิจิทัลเป็นเหมือนผู้ช่วยชีวิต นับตั้งแต่มีการรุกราน การบริจาคด้วยสกุลเงินดิจิทัลนับล้านเหรียญสหรัฐได้ไหลเข้าสู่กระเป๋าเงินคริปโตฯ ของรัฐบาลยูเครน ผู้ลี้ภัยยังสามารถใช้สกุลเงินดิจิทัลในการเป็นตัวกลางการแลกเปลี่ยนในช่วงที่ระบบการเงินแบบปกติถูกตัดขาดได้ เพื่อแค่เก็บสกุลเงินดิจิทัลไว้ในแฟลชไดรฟ์หรือรหัสผ่านที่ปลอดภัยในกระเป๋า หรือเสื้อผ้าของพวกเขา

การแฮคยังคงเป็นภัยคุกคามตลาดคริปโตฯ

การที่สกุลเงินดิจิทัลได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้แฮ็กเกอร์มีแรงจูงใจที่จะขโมยเงินดิจิตอลมากขึ้น ในขณะที่แฮกเกอร์ในประเทศกำลังพัฒนา เช่น ไนจีเรีย บังคลาเทศ ตูนิเซีย และไลบีเรีย มีแนวโน้มว่าจะมีแฮคเกอร์คริปโตฯ มากขึ้น ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย จีน เกาหลีเหนือ อิหร่าน กับกับสหรัฐอเมริกา และชาติตะวันตกที่แย่ลง อาจสนับสนุนให้อาชีพแฮกเกอร์คริปโตฯ ในประเทศเหล่านี้มีมากขึ้น

มีรายงานว่าผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน (Kim Jong-un) ได้สนับสนุนให้มีการแฮกคริปโตฯ มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ นี่คือหลักฐานพิสูจน์ให้เห็นว่าการแฮ็กเป็นเครื่องมือที่สร้างผลกำไร ให้ประเทศที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลฝั่งตะวันตก

ในเดือนมกราคม BBC รายงานว่าแฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีเหนือขโมยสกุลเงินดิจิทัลมูลค่าเกือบ 400 ล้านดอลลาร์ ในเดือนตุลาคม 2021 ฟอร์จูนรายงานว่ารัสเซียเป็นสาเหตุของการแฮ็กที่ได้รับการสนับสนุนส่วนใหญ่จากรัฐ โดยมีส่วนแบ่ง 58% การแฮ็กกลายเป็นเครื่องมือสงครามไซเบอร์ที่อันตราย และมีประสิทธิภาพอย่างรวดเร็ว

คาดคำสั่งพิเศษของ ปธน.อาจยิ่งทำให้ตลาดคริปโตฯ ผันผวน

ตลาดลงทุนคือภาพสะท้อนให้เห็นถึงภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจและภูมิศาสตร์ทางการเมือง อัตราเงินเฟ้อที่ขึ้นสูงสุดในรอบกว่าสี่ทศวรรษ สงครามกำลังโหมกระหน่ำในยูเครน สหรัฐฯ และพันธมิตรจัดหนักรวมหัวกันคว่ำบาตรรัสเซีย ปัจจัยเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นการเทน้ำมันลงไปในกองไฟ ยิ่งทำให้ตลาดในสินทรัพย์ทุกประเภทมีความผันผวนเนื่องจากความไม่แน่นอน

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดน ได้ลงนามในคำสั่งพิเศษเพื่อให้มั่นใจว่า "นวัตกรรมสกุลเงินดิจิทัลจะต้องดำเนินควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคม" คำสั่งดังกล่าวหมายถึงการที่ประธานาธิบดีของอเมริการับทราบถึงการเติบโตของสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัลและเรียกร้องให้การพัฒนาต้องเกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้:

- ปกป้องผู้บริโภค นักลงทุน และธุรกิจในสหรัฐอเมริกาจากความเสี่ยงที่เป็นระบบ
- ปกป้องสหรัฐและความมั่นคงทางการเงินทั่วโลก บรรเทาความเสี่ยงทางการเงินที่ผิดกฎหมายและความมั่นคงของชาติ
- ปกป้องความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ และระบบการเงินทั่วโลก
- ส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินที่ปลอดภัยและเท่าเทียมกัน
- สนับสนุนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการพัฒนาสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมีความรับผิดชอบ
- มีความสอดคล้องสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางสหรัฐ

แม้ตลาดสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัลกำลังขยายตัว แต่ก็ต้องประสบปัญหาความผันผวนของราคาครั้งใหญ่ แนวโน้มของบิทคอยน์ อีเธอเรียมและสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ อีกกว่า 18,000 ตัวยังคงเป็นขาลงมาตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน สงครามและอัตราเงินเฟ้ออาจทำให้รัฐบาลต้องรัดกุมการกำกับดูแลมากขึ้น 

อย่างไรก็ตาม ปัญหาด้านความปลอดภัยและความเสี่ยงของการถือครองสกุลเงินปกติได้ปรากฎออกมาอย่างชัดเจนในสงครามระหว่างรัสเซียยูเครน ถ้ารัฐบาลล้ม สกุลเงินที่พวกเขาถือครองอยู่อาจจะกลายเป็นสิ่งไร้ค่าในทันที  ดังนั้นการถือครองสกุลเงินดิจิทัลอาจคุ้มค่ากับความเสี่ยง การหมดศรัทธาในระบบการเงินของรัฐบาลจะผลักดันให้คนหันไปใช้สกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย