ยังเห็นการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสำคัญในต่างประเทศ ซึ่งเป็นแรงช่วยหนุน Sentiment ตลาดหุ้นบ้านเราเช้านี้ แต่สิ่งที่เห็นเป็นสัญญาณบวกอย่างเป็น รูปธรรมได้แก่ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นสัญญาณบวกต่อ ทิศทางของ Fund Flow ที่น่าจะไหลเข้าสู่บ้านเราเพิ่มขึ้น สำหรับปัจจัย แวดล้อมทางพื้นฐานวันนี้มีเรื่องที่ หอการค้าฯ เตรียมยื่นข้อเสนอต่อ รมว.คลัง ให้พิจารณา ขยายกรอบเวลาของโครงการช้อปดีมีคืน และ เพิ่มวงเงินใน โครงการคนละครึ่งเฟส 4 ซึ่งน่าจะเป็นแรงหนุนต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก สำหรับ Theme การลงทุน ยังให้น้ำหนักไปที่กลุ่ม ธนาคาร ค้าปลีก รับเหมาฯ อสัง หาฯ และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง อย่างโรงแรม และ โรงพยาบาล
SET Index อยู่ในสถานะที่ดีขึ้นตามลำดับ หลังขึ้นมายืนเหนือ 1658 จุด วันนี้ คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1658 – 1675 จุด พอร์ตจำลองวันนี้ไม่มีการ ปรับเปลี่ยน หุ้น Top Pick เลือก ADVANC, BH และ MAKRO
ตลาดหุ้นโลกฟื้นตัวต่อวันที่ 4 แต่ Momentum เบาลงตามระยะเวลา
ตลาดหุ้นโลกวานนี้เดือนหน้าฟื้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 แต่ทว่า Momentum เริ่มอ่อนตัว ลง สังเกตได้จากตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยลง เช่น ตลาดหุ้นสหรัฐเพิ่มขึ้น เฉลี่ย 0.9% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปค่อนข้างทรงตัว และถ้าหากพิจารณาการเปลี่ยนแปลง ของตลาดหุ้นสหรัฐ พบว่าดัชนี S&P500 มีสัญญาณปรับเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลงบ้าง กล่าวคือ ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น +2.4%, +1.9%, 0.7%, 0.9% ใน 4 วันทำการที่ผ่าน มาตามลำดับ
ทางด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทรงตัวสูงต่อ เช่น ก๊าซธรรมชาติ, ค่าระวางเรือ, ถั่วเหลือง , ถ่านหิน, ยาง, น้ำมันดิบ เป็นต้น หนุนจากความคาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะรัสเซีย-ยูเครน ที่แม้จะมีท่าทีผ่อนคลายลงบ้าง หลังรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียได้เจรจาหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐผ่านทาง โทรศัพท์ เพื่อลดความตึงเครียด แต่รัสเซียยังไม่ได้ดำเนินการถอนกำลังแต่อย่างใด รวมถึงค่าเงิน Dollar Index ที่อ่อนค่าต่อเนื่องวันที่ 3 โดยอ่อนค่าอีก 0.4% ก็มีส่วนช่วย ประคองราคาสินค้าโภคภัณฑ์เช่นเดียวกัน
และสำหรับราคาน้ำมันดิบยังทรงตัวสูงเช่นกัน ภายหลังที่ประชุม OPEC+ มีมติปรับเพิ่ม กำลังการผลิต 4 แสนบาร์เรล/วัน ในเดือน มี.ค. 2565 ตามแผนเดิมต่อไป
ฝั่งดัชนีเศรษฐกิจ วานนี้ สหรัฐรายงานข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรจากสถาบัน ADP (ADP Nonfarm Payroll) เดือน ธ.ค. 2564 พบว่าพลิกกลับมาลดลง 3.01 แสน ตำแหน่ง สวนทางตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 2.07 แสนตำแหน่ง ส่งผลให้ตลาดเริ่มให้น้ำหนัก การรายงานภาวะตลาดแรงงานสหรัฐในวันที่ 4 ก.พ. 2565 ซึ่งเป็นรายงานจาก กระทรวงแรงงานสหรัฐ อย่างใกล้ชิดมากขึ้น สำหรับประเด็นอื่นๆที่น่าติดตาม คือการ ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และอังกฤษ (BOE) ในวันนี้โดยตลาดคาด ECB จะคง อัตราดอกเบี้ยต่ำต่อ แต่ BOE อาจปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นจาก 0.25% เป็น 0.5% หลัง อังกฤษเผชิญอัตราเงินเฟ้อสูงสุดในรอบเกือบ 30 ปี
สรุปภาพรวม ASPS มองว่าตลาดหุ้นไทยในวันนี้ยังมี Momentum เหวี่ยงตัวขึ้นต่อได้ จาก Sentiment เชิงบวกของตลาดหุ้นต่างประเทศ และค่าเงิน Dollar Index อ่อนค่า ต่อเนื่องวันที่ 3 สะท้อน Fund Flow มีแนวโน้มไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยไปยัง สินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงช่วยให้ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อวันที่ 3 ซึ่งเอื้อให้ Fund Flow ไหลเข้ามาไทยสะดวกมากขึ้น แต่ประเมินว่าในระยะสั้น SET Index จะมีกรอบในการแกว่ง ขึ้นค่อนข้างจำกัด เพราะปัจจัยหนุนต่างๆยังเบาบาง โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหว ของ SET Index วันนี้จะอยู่ในช่วง 1,658-16,75 จุด
กระแสบวกยังมีต่อหุ้นค้าปลีก และ หุ้น EV
ปัจจัยแวดล้อมในประเทศ ASPS ประเมินยังเป็นปัจจัยบวกหนุนตลาดหุ้นไทยในเดือน ก.พ.65 หลักๆ คือ
-
สถานการณ์ Covid ในไทยมีทิศทางดีขึ้น ผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ และ ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นแต่ไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ยังต่ำกว่า 1 หมื่นราย ต่ำกว่าคาดการณ์ ของสาธารณสุขที่คาดก่อนหน้าจะเพิ่ม 2-3 หมื่นรายต่อวัน หนุนรัฐบาล เดินหน้าผ่อนคลายกิจกรรมเศรษฐกิจต่อเนื่อง อาทิปรับลดพื้นที่คุม Covid นำระบบ Test and Go กลับมาใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2565
-
นโยบายการเงินคาดผ่อนคลายยาวตลอดปี 2565คือแม้ดอกเบี้ยโลกจะเป็น ขาขึ้น แต่ดอกเบี้ยนโยบายไทยคาดยังคงที่ 0.5% ไปตลอดในปี 2565 แม้ ล่าสุด เมื่อวาน คณะกรรมการร่วมสภาหอการค้า(กกร.) ขยับกรอบเงินเฟ้อปี 2565 ใหม่จากเดิม 1.2-2% เป็น (1.5-2.5%) ประเมินครึ่งปีแรกเงินเฟ้อจะแตะ 3% และคงกรอบ GDP Growth โต 3-4.5% แต่ ASPS เชื่อว่า 1.) เศรษฐกิจ ไทยยังไม่ฟื้นกลับที่เดิมหรือใกล้เคียงระดับก่อนเกิด Covid 2.)Core Inflation (อัตราเงินเฟ้อที่ไม่รวมพลังงาน และอาหารสด) ยังขยายตัวต่ำเพียง 0.29% บ่ง บอกว่า แรงกดดันเงินเฟ้อของไทยยังต่ำ โดยรวมดอกเบี้ยไทยยังต่ำคาดยังเป็น ปัจจัยหนุนสภาพคล่องไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น
-
นโยบายคลังถูกเร่งออกมาในช่วง 1H65 เริ่มตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค.65 มี มาตรการช้อปดีมีคืน กระตุ้นการใช้จ่ายผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยนำ จำนวนเงินที่ซื้อสินค้าและบริการมาใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตาม จำนวนที่จ่ายจริง ไม่เกิน 30,000 บาท และล่าสุด เดือน ก.พ. เป็นต้นไป มี มาตรการคนละครึ่งเฟส 4, เพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการ, เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 มี ผล หลักๆบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก คาดจะมีกระแสเชิงบวกต่อ เนื่องจากวัน พรุ่งนี้ สภาหอการค้าไทยเตรียมเสนอ กระทรวงการคลั ขยายระยะเวลา มาตรการช้อปดีมีคืน + เพิ่มวงเงินคนละครึ่งเฟส 4 เป็น 1500 บาท โดยรวม ถือว่าดีต่อหุ้นค้าปลีก อาทิ CPN, CRC, SPVI, COM7, DOHOME HMPRO
-
มาตรการกระตุ้นอุตสาหกรรมอื่นๆจากรัฐ อาทิ Package สนับสนุนการใช้ EV คาดวันนี้น่าจะเกิดกระแสการเก็งกำไรอีกครั้ง (ประเด็นเดิม) อิงจากหน้า 1 หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจเช้านี้ (ดังรูป) คือ คาด ครม. จะมีการเสนอ มาตรการสนับสนุนรถ EV ภายในเดือน ก.พ.65 นี้ ประเมินเป็น Sentiment บวกต่อ EA(SWITCH: FV@57.0) GPSC(BUY:FV@90.0) PTT (BK:PTT)(BUY:FV@49.5)
โดยรวมประเมินจากปัจจัยแวดล้อมในประเทศดังกล่าว ทิศทางบวก โดยปัจจัยลบที่ กดดันตลาดผ่อนคลายในช่วงสั้น คาดจะเป็นปัจจัยหนุนให้เงินทุนไหลเข้า และหนุน SET index ยังแกว่งตัวในทิศทางขึ้นต่อในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้
หุ้นเปิดเมือง หุ้นปัจจัยบวกเฉพาะ ยังช่วยหนุนนำตลาด แนะ BH, MAKRO, ADVANC พร้อมเตรียมรับฟัง Facebook Live “เปิด 2 มุมมองหุ้น”เวลา 13.15 น. เช้านี้สินทรัพย์เสี่ยงโลกยังอยู่ในภาวะผันผวน อาทิ สินทรัพย์ดิจิตอล Bitcoin -4.4% ดัชนี Nasdaq Futures -2.2% แต่ดัชนีที่เกียวข้องกับหุ้น Value ยังค่อนข้างแข็งแรง อย่าง Down Jones Futures -0.1% เท่านั้น รวมถึงช่วงที่ผ่านมา หลังผ่านพ้นวิกฤต โควิด นักลงทุนหันมาให้ความสำคัญหุ้นที่ฟื้นตัวตามภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศมาก ขึ้น ในทางกลับกันหุ้นวัคซีน อย่าง Moderna เคยขึ้นมาแรงจนช่วงเดือน ส.ค. 64 ทำ จุดสูงสุดที่ 497 เหรียญ แต่ปัจจุบันย่อตัวลงมาต่อเนื่องเหลือเพียง 169 เหรียญ กลับมาที่ตลาดหุ้นไทยคาดว่า Momentum ดังกล่าวถือว่าดีต่อตลาดหุ้นไทย ดังน
ภาพรวมเศรษฐกิจที่จะได้แรงหนุนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติทยอยเข้า
มาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทาง ททท. คาดว่าจะมีตัวเลขนักท่องเที่ยวในปีนี้เข้า
มา 5 – 15 ล้านคน (ปีที่แล้ว 4 แสนคน) หลังจากปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบ
Test & GO
▪ มาตรการกระตุ้นจากภาครัฐที่จัดเต็มในเดือนนี้ รวมถึงทางหอการค้าเตรียมยื่นขอขยายวงเงินช๊อปดีมีคืน ดีต่อหุ้นค้าปลีกที่ Laggard มานาน
▪ ตลาดหุ้นไทยมีโครงสร้างเป็นหุ้น Commodity และหุ้นอิงการฟื้นตัวตามเศรษฐกิจในประเทศถึง 2 ใน 3 ของตลาด ทำให้นักลงทุนต่างชาติมีโอกาสให้น้ำหนักกับตลาดหุ้นไทยมากขึ้น
▪ ประจวบเหมาะกับค่าเงินดอลลาร์ที่ชะลอการแข็งค่า หนุนค่าเงินบาทแข็งและ Fund Flow มีโอกาสไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อ
ทุกหัวข้อที่กล่าวมา มีหุ้นหลายบริษัทในไทยได้ประโยชน์ และน่าจะคอยช่วยพยุง ตลาดหุ้นไทยให้แข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นพัฒนาแล้วในช่วงนี้ได้ ประเมินกรอบการ เคลื่อนไหววันนี้ 1658 – 1675 จุด กลยุทธ์ภายใต้ความผันผวนจากปัจจัยภายนอก และมูลค่าซื้อขายที่อยู่ในระดับต่ำในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน แนะนำหุ้นเปิด เมืองพื้นฐานดี BH, MAKRO และหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ADVANC ใกล้ ประกาศงบในวันจันทร์หน้า รอดูทิศทางธุรกิจหลังหุ้นแม่ INTUCH ควบรวมกับ GULF รวมถึงการปรับโครงสร้างใหม่อาจนำไปสูการจ่ายปันผลหรือ Payout Ratio เพิ่มขึ้น
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities