ตลาดหุ้นวอลล์ สตรีทปิดสัปดาห์ที่แล้วด้วยขาลงอีกเช่นเคย ส่งผลให้ดัชนีหลักของสหรัฐอเมริกาปิดตัวติดลบเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกันนับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2022 เป็นต้นมา แรงเทขายดังกล่าวทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นยืนเหนือ 1.7% ได้อีกครั้ง
ถึงแม้ว่าวันนี้จะเป็นวันหยุดของตลาดหลักทรัพย์อเมริกาเนื่องในวันรำลึกถึงมาร์ติน ลูเธอร์ คิง แต่หลังจากนั้นจะเป็นสัปดาห์ที่เข้าสู่ช่วงรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสที่ 4 ปี 2021 อย่างเป็นทางการ บริษัทชื่อดังที่มีคิวจะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ประกอบไปด้วยเน็ตฟลิกซ์ (NASDAQ:NFLX) ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ (NYSE:GS) แบงก์ ออฟ อเมริกา (NYSE:BAC) ยูไนเต็ดเฮลท์ (NYSE:UNH) พรอคเตอร์แอนด์แกมเบิล (NYSE:PG) สายการบินยูไนเต็ค แอร์ไลน์ (NASDAQ:UAL) และอเมริกันแอร์ไลน์ (NASDAQ:AAL)
ท่ามกลางสัปดาห์ที่จะมีความผันผวนเกิดขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ในบทความนี้เราจึงได้นำหุ้นที่น่าสนใจประจำสัปดาห์ และหุ้นที่ควรมองข้ามไปเลยมาแนะนำคุณผู้อ่าน อย่างที่ต้องแจ้งเตือนในบทความนี้เสมอว่าบทความนี้มีผลเฉพาะภายในสัปดาห์นี้เท่านั้น
หุ้นน่าซื้อ: Caterpillar
หุ้นของบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องจักรสำหรับการก่อสร้าง “แคทเธอร์พิลลาร์” (NYSE:CAT) เป็นหุ้นที่สร้างขาขึ้นได้อย่างโดดเด่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยการทะยานขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบหกเดือน
ในสัปดาห์นี้ขาขึ้นนั้นอาจปรับตัวขึ้นต่อ จากกระแสการย้ายเงินมาลงทุนในหุ้นกลุ่มวัฐจักร ที่มีอัตราการเติบโตตามเศรษฐกิจอเมริกา ที่ตามความเห็นของธนาคารกลางสหรัฐฯ สามารถฟื้นตัวกลับคืนมาได้แล้ว ตั้งแต่เริ่มต้นปี 2022 มาจนถึงปัจจุบัน หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ปรับตัวขึ้นมาแล้วมากกว่า 10% และยังมีส่วนกับขาขึ้นในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อีกด้วย
กิจกรรมการก่อสร้างที่เพิ่มมากขึ้นตามนโยบายอัปเกรดโคงสร้างพื้นฐานของประธานาธิบดีโจ ไบเดนและความต้องการสินค้าวัสดุก่อสร้างได้ทำให้รายงานผลประกอบการของ CAT ในไตรมาสที่สามเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ไปได้ ซึ่งนักวิเคราะห์บางส่วนก็เชื่อว่าในไตรมาสที่ 4 ที่จะมีการรายงานในวันศุกร์ที่ 28 มกราคม ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาสำคัญ CAT อีกเช่นกัน
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าไตรมาสที่ 4 ปี 2021 แคทเธอร์พิลลาร์จะสามารถรายงานตัวเลขกำไรรวมออกมาที่ $13,100 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 17.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2020 ในขณะที่ตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7.1% จาก $2.12 เป็น $2.27 หลังจากที่ก่อนหน้านี้สามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์มาแล้วได้หกไตรมาสติดต่อกัน
ที่มา: InvestingPro
ด้วยภาพรวมของการก่อสร้างที่กลับมาคึกคัก และยอดสั่งซื้อและยอดขายเครื่องจักรที่เพิ่มมาขึ้น ในสายตาของนักลงทุน พวกเขาเชื่อว่าปัจจัยเชิงบวกเหล่านั้นเมื่อรวมกับการจัดการของแคทเธอร์พิลลาร์ จะสามารถช่วยให้บริษัทสามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ไปได้ ข้อมูลจาก InvestingPro ระบุว่าตอนนี้หุ้น CAT อยู่ในจุดที่ต่ำกว่ามูลค่าความเป็นจริง และมีโอกาสปรับตัวขึ้นอีก 4% ขึ้นไปยังมูลค่าที่ควรจะเป็นที่ $238.36 ต่อหุ้นได้
หุ้นน่าทิ้ง: Snap
หุ้นที่นักลงทุนไม่ควรเข้าไปยุ่งในสัปดาห์นี้ตามความเห็นของเราคือหุ้น "สแนป" (NYSE:SNAP) หุ้นของบริษัทผู้พัฒนาแอปพลิเคชันถ่ายรูป ที่ตอนนี้ถูกยักษ์ใหญ่เลียนแบบไปทำแล้วรุ่งกว่า หุ้นของบริษัทหลังจากที่ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วพึ่งจะสร้างจุดต่ำสุดใหม่อีกครั้งหนึ่ง ตอกย้ำมว่ามรสุมที่รุมเร้ายังไม่จากไปไหน
ในมุมมองของนักวิเคราะห์ พวกเขาประเมินว่าสัปดาห์นี้ขาลงดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไป จากประเด็นที่ได้พูดถึงไปก่อนหน้านี้ และอีกหลายสถานการณ์ที่เข้ามารุมเร้าบริษัทแม่อย่าง “สแนปแชท (Snapchat)” นับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2022 มาจนถึงปัจจุบัน หุ้นสแนปได้ปรับตัวลดลงมาแล้วเกือบ 19% ต่อเนื่องจากขาลงตลอดทั้งปี 2021 ที่ 6%
ความน่าเป็นห่วงของหุ้นสแนปอยู่ตรงที่ขาลงดังกล่าวกำลังจะเกิดขึ้นในช่วงที่หุ้นเทคฯ กำลังจะเข้าสู่สภาวะถดถอย เพราะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นแน่ๆ ในปี 2022) การปรับนโยบายการเงินให้มีความตึงตัวมากขึ้น การดึงสภาพคล่องออกจากระบบ จะเป็นการลดกระแสเงินสดในอนาคต และยิ่งจะเป็นการซ้ำเติมการเติบโตที่แต่เดิมก็ไม่มีกำลังอยู่แล้วของหุ้นสแนป
รายงานผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดของสแนปก็ไม่สามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ได้ อันเป็นผลมาจากการฝากโฆษณาต้องสะดุดเพราะการเปลี่ยนนโยบายรักษาความปลอดภัยของบริษัทแอปเปิล ในรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขอัตราการปันผลกำไรต่อหุ้นจะลดลง $0.09 แต่รายได้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 31.7% คิดเป็น $1,200 ล้านเหรียญสหรัฐจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว
ที่มา: InvestingPro
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหุ้นสแนปได้ปรับตัวลดลงไปยังจุดต่ำสุด $36.56 สร้างจุดต่ำสุดใหม่นับตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคมปี 2020 ก่อนที่จะปรับตัวกลับขึ้นมาทำราคาปิดที่ $38.04 มีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ $61,200 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าของหุ้นสแนปในตอนนี้อยู่ต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $83.34 ประมาณ 55% ข้อมูลจาก InvestingPro คาดการณ์ว่าหุ้นสแนปจะปรับตัวลดลงอีก 6.4% จนทำให้จะลงไปมีราคาซื้อขายหุ้นอยู่ที่ $35.61