ขาลง 2.03% ที่อยู่มาห้าวันติดต่อกัน และเกือบจะลงไปทดสอบจุดต่ำสุดของวันที่ 20 ธันวาคมของดัชนีเอสแอนด์พี 500 ทำให้ตลาดลงทุนค่อนข้างเป็นกังวลอยู่พอสมควร อย่างไรก็ตาม ภาพที่ดูเหมือนไม่น่าจะสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้โดยง่ายก็เกิดขึ้นเพียงสองชั่วโมง เมื่อนักลงทุนเปลี่ยนโมเมนตัมจากการเทขายมาเป็นการเข้าซื้อ
ก็ไม่ใช่ว่าการขึ้นลงอย่างรวดเร็วครั้งนี้จะไม่มีสาเหตุ ก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นโดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถูกเทขายจากความกังวลในเรื่องของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะมีถึงสี่ครั้งในปีนี้ หากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง จะสร้างแรงกดดันให้กับบริษัทเอกชนที่เคยปรับตัวขึ้นได้เป็นอย่างดีก่อนหน้านี้ ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากหุ้นกลุ่มเทคฯ
อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ปรับตัวลดลงมาจากจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2020 การปรับตัวครั้งนี้อาจเป็นสัญญาณบอกว่านักลงทุนเริ่มทำใจยอมรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้บ้างแล้ว (อย่างน้อยก็ในตอนนี้) หลักฐานก็คือเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กลุ่มหุ้นเทคโนโลยีสามารถปิดอยู่ในแดนบวกได้ เมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มเฮลท์แคร์ ดัชนีของกลุ่มเทคฯ ชื่อดังอย่างแนสแด็กแม้จะขึ้นไม่มาก แต่ก็สามารถปิดบวกได้
คำถามก็คือ “แล้วในอนาคตอันใกล้ ดัชนีเอสแอนด์พี 500 จะสามารถรักษาแนวโน้มขาขึ้นนี้เอาไว้ได้หรือไม่”
จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค ขาลงของดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลงมาเจอแนวรับที่เส้นเทรนด์ไลน์ขาขึ้น แต่ยังสามารถสร้างจุดปิดยืนเหนือจุดต่ำสุดของวันได้ ที่สำคัญคือสามารถสร้างจุดปิดอยู่เหนือจุดเปิดของวัน ก่อให้เกิดเป็นรูปแบบแท่งเทียน “หัวค้อน (Hammer)” ขึ้น
นอกจากจะเป็นสัญญาณแห่งความหวังของฝั่งขาขึ้นแล้ว แท่งเทียนหัวค้อนอันนี้ยังก่อให้เกิดกรอบราคาขาขึ้นระยะสั้นซ้อนขึ้นมาอีกหนึ่งอัน (กรอบสีเหลือง) แต่ถึงกระนั้น ความเสี่ยงก็คือความชันของกรอบราคาอันนี้ถือว่าลดลงเมื่อเทียบกับกรอบราคาขาขึ้นสีดำอันเดิม ยิ่งถ้าได้พิจารณาร่วมกับอินดิเคเตอร์ MACD และ RSI จะเห็นถึงสัญญาณขาขึ้นที่อ่อนแรงชัดเจนขึ้น
อินดิเคเตอร์ RSI ได้ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นเทรนด์ไลน์ขาขึ้น ในขณะที่จุดสูงสุดของ MACD ทั้งสองลูกกลับปรับตัวลดลง ไม่สอดคล้องกับกราฟเอสแอนด์พี 500 ที่ตอนนี้วิ่งอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับ MACD แต่ยังเกิดขึ้นกับอินดิเคเตอร์ RSI ด้วย เมื่อได้ทดสอบเปลี่ยนกรอบราคาไปดูในกราฟ 4 ชั่วโมงและรายสัปดาห์ ก็ได้พบว่าความไม่สอดคล้องกันระหว่างราคากับอินดิเคเตอร์เกิดขึ้นกับกรอบเวลาอื่นด้วย
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้จึงสามารถสรุปได้ว่า ถึงภาพที่เราเห็นจะเป็นการปรับตัวขึ้นของดัชนีเอสแอนด์พี 500 แต่ขาขึ้นนี้เป็นขาขึ้นที่เกิดการชะลอตัวแล้ว ซึ่งในเร็วๆ นี้อาจจะเกิดเป็นจุดสูงสุดใหม่ ก่อนที่ดัชนีจะเปลี่ยนเทรนด์ได้
กลยุทธ์การเทรด
เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอจนกว่าเอสแอนด์พี 500 สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ โดยที่อินดิเคเตอร์กลับมาส่งสัญญาณสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้น แต่ถ้าไม่ ก็จะรอให้ดัชนีเปลี่ยนเทรนด์เป็นขาลงก่อน จึงตัดสินใจขาย
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะเสี่ยงวางคำสั่งซื้อ เนื่องจากอัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทนตอนนี้อยู่ในจุดที่เหมาะสม ยิ่งกราฟอยู่ใกล้กับจุดต่ำสุด ประกอบกับแท่งเทียนสร้างรูปแบบดีดกลับ ก็สามารถเข้าใจได้หากคิดที่จะลองเข้าซื้อ
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะวางคำสั่งซื้อทันที หากว่าการเข้าซื้อครั้งนี้เป็นไปตามกลยุทธ์การเทรด แผนการเงิน จังหวะ และความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงที่วางเอาไว้
ตัวอย่างการเทรด (สำหรับขาขึ้น)
- จุดเข้า: 4,600
- Stop-Loss: 4,580
- ความเสี่ยง: 20 จุด
- เป้าหมายในการทำกำไร:4,700
- ผลตอบแทน: 100 จุด
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:5