ในช่วงเริ่มต้นปี 2021 สหรัฐอเมริกาเคยคาดการณ์ไว้ว่าสิ้นปีนี้ อัตราเงินเฟ้อในประเทศจะมีระดับอยู่ที่ 2% เท่านั้น แต่ความเป็นจริง ณ ตอนนี้ เรากำลังอยู่ในโลกที่อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกากำลังขยับขึ้นเข้าใกล้ระดับ 7% แล้ว ความเป็นจริงนี้กำลังบีบธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์ สำหรับตลาดหุ้นนี่คือความเสี่ยงที่จะบีบให้ฟองสบู่แตกเร็วขึ้น
ด้วยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงของนักลงทุนลดลงเรื่อยๆ พวกเขาจะย้ายเงินที่ลงทุนอยู่กับหุ้นอัตราเติบโตสูง ไปยังสินทรัพย์สำรองปลอดภัย อย่างเช่นตลาดพันธบัตร อีกหนึ่งวิธีที่นักลงทุนนิยมใช้ในการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงคือการย้ายไปลงทุนในหุ้นปันผลดี ที่มีอัตราการเพิ่มเงินปันผลได้เร็วกว่าการเร่งตัวของเงินเฟ้อ ในบทความนี้ เราจึงได้นำหุ้น 2 ตัวที่มีอัตราการปันผลดีมานำเสนอ แม้จะไม่สูงมากเหมือนหุ้นกลุ่มเติบโต แต่เชื่อได้เลยว่าการปันผลของหุ้นทั้งสองจะสามารถเอาชนะความเสี่ยงของภาวะเงินเฟ้อได้อย่างแน่นอน
1. Broadcom
การลงทุนในหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ตลอดระยะเวลาสองปีล่าสุดได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นการเดินเกมที่ชาญฉลาด ในยุคที่คอมพิวเตอร์ มือถือ ศูนย์กลางข้อมูลกลายเป็นสิ่งสำคัญ บริษัทผู้ผลิตชิปฯ จึงต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้สามารถผลิตสินค้าได้ทันตามความต้องการของลูกค้า
หากคุณต้องการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ โดยตั้งธงเอาไว้ว่าหุ้นตัวนั้นจะต้องมีความผันผวนน้อยที่สุด เราขอแนะนำหุ้นของบริษัทบรอดคอม (NASDAQ:AVGO) บริษัทนี้การันตีฝีมือด้วยชิปคุณภาพ ที่อยู่ในสมาร์ทโฟนระดับโลกอย่าง iPhone นอกจากนี้บรอดคอมยังมีลูกค้าคนสำคัญเป็นบริษัทชื่อดังทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นกูเกิล (NASDAQ:GOOGL) ที่ต้องการชิปฯ จำนวนมหาศาลในการทำศูนย์กลางข้อมูล เช่นเดียวกันกับแอมะซอน (NASDAQ:AMZN) ที่ต้องการชิปฯ จากบรอดคอมไปแข่งกับกูเกิลด้วยเช่นกัน
ความต้องการชิปประมวลผล ได้ทำให้รายงานตัวเลขผลประกอบการของบรอดคอมครั้งล่าสุดสามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ไปได้อย่างไม่ยากเย็น ด้วยตัวเลขกำไรที่เพิ่มขึ้น 23% และทำยอดขายได้มากขึ้นอีก 15% ฮอค แทน CEO ของบรอดคอมกล่าวในรายงานผลประกอบการปีงบประมาณของไตรมาสที่ 4 ปี 2021 เอาไว้ว่า
“บริษัทขอสรุปปี 2021 เลยว่ากำไรที่เพิ่มขึ้นจนสามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ได้ 4 ไตรมาสติดต่อกันเป็นผลมาจากความต้องการชิปประมวลผล เพื่อไปสร้างบริการบนระบบคลาวด์ ในแง่ของซอฟต์แวร์ อัตราการเติบโตของซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐานมีแนวโน้มว่าจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างมั่นคง นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจากการหันมาใช้กลยุทธ์เน้นให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง”
ความต้องการสินค้าของบรอดคอมที่มีอยู่ตลอด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หุ้นของบริษัทจะสามารถปรับตัวขึ้นได้ 250% ตลอดระยะเวลาห้าปีล่าสุด ในแง่ของอัตราการปันผลกำไรต่อหุ้นนั้นได้เติบโตขึ้นมากกว่าสามเท่า จาก $1.02 ในปี 2017 ตอนนี้ได้กลายมาเป็น $4.1 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บรอดคอมพึ่งประกาศแผนซื้อหุ้นคืนคิดเป็นวงเงิน $10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และจะเพิ่มอัตราการปันผลจากหุ้นขึ้นจากเดิมอีก 14% ณ ตอนนี้อัตราการปันผลของหุ้นบอรดคอมมีเปอร์เซ็นต์อยู่ที่ 2.56% มีราคาซื้อขายหุ้นล่าสุดอยู่ที่ $639.86 สูงกว่าค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนในดัชนี S&P 500
2. Verizon
ถามว่าในกลุ่มเทคฯ นอกจากหุ้นของผู้ผลิตชิปประมวลผล ยังมีหุ้นตัวอื่นที่น่าสนใจอีกหรือไม่? คำตอบคือมี คราวนี้ยังคงเป็นหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีเช่นกัน แต่เป็นกลุ่มผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตและการเชื่อมต่อแบบไร้สาย เรากำลังพูดถึงหนึ่งในบริษัทคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกาอย่างเวอร์ไรซอน (VZ) นี่คือบริษัทที่ผู้ใช้บริการตัดสินใจโยนทิ้งได้ยากที่สุด ความสามารถในการพัฒนาบริการให้ดียิ่งขึ้น มีแต่จะดึงดูดนักลงทุนในระยะยาวให้เข้ามาลงทุนกับเวอร์ไรซอน
ในแง่ของการปันผล หุ้นเวอร์ไรซอนมีประวัติการปันผลที่ดีเยี่ยมมาโดยตลอด ด้วยอัตราการปันผลที่เติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มาตั้งแต่ปี 2007 จนถึงปัจจุบัน ตอนนี้หุ้นเวอร์ไรซอนปันผลอยู่ที่ $0.64 ต่อไตรมาส คิดเป็นเปอร์เซ็นต์การปันผลต่อปีอยู่ที่ 5% ฮาน เวสต์เบิร์ก CEO ของเวอร์ไรซอนกำลังพยายามลดวงเงินที่ไปลงทุนกับธุรกิจเสี่ยง เปลี่ยนแผนไปลงทุนกับการขยายเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ล่าสุดเวอร์ไรซอนพึ่งปล่อยขายบริษัท Yahoo และ Apollo Global Management ในวงเงิน $5,000 ล้านเหรียญสหรัฐและ $4,250 ล้านเหรียญสหรัฐตามลำดับ
ปีนี้เวอร์ไรซอนมียอดผู้สมัครสมาชิกใช้บริการเครือข่ายไร้สายเพิ่มขึ้น การที่มือถือรุ่นใหม่สามารถรองรับ 5G ได้ทำให้เวอร์ไรซอนได้อานิสงส์จากความต้องการใช้บริการ 5G ตามไปด้วย แน่นอนว่าอัตราการเติบโตของหุ้นตัวนี้อาจจะไม่สูง และก็เป็นความจริงที่ปีนี้หุ้นเวอร์ไรซอนปรับตัวลดลง 13% แต่ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดหากพูดถึงการป้องกันมูลค่าของเงินลงทุนจากการกัดกินของเงินเฟ้อ (แถมยังได้ผลตอบแทนกลับมาในระดับที่ยอมรับได้อีกด้วย)
นักลงทุนให้คุณค่ากับหุ้นของเวอร์ไรซอนในฐานะผู้นำในการให้บริการ 5G และผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตที่ยังคงเป็นแนวหน้าของวงการ ในไตรมาสที่ 3 ตัวเลขกำไรที่ทำได้และอัตราการปันผลกำไรต่อหุ้นยังสามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ไปได้ ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ยกให้หุ้นเวอร์ไรซอนอยู่ในลิสต์ของหุ้นที่มีโอกาสพลิกเกมกลับมาในปี 2022 พวกเขาคาดว่าปีหน้าหุ้นเวอร์ไรซอนมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ 24% จากระดับราคาล่าสุดเมื่อวานนี้ที่ $50.55