เมื่อไม่นานมานี้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อลูมิเนียมปรับตัวขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบหลายปี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากเราจะได้เห็นดัชนี{{20006|ดาวโจนส์อลูมิเนียม}สามารถสร้างผลกำไรตอบแทนได้มากกว่า 99% มาตั้งแต่ต้นปี 2021 มาจนถึงปัจจุบัน และสามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบหลายปีมาตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม ในตอนต้นปีที่เราเคยเขียนบทความเกี่ยวกับอลูมิเนียม ตอนนั้นดัชนีตัวนี้เคยวิ่งอยู่ที่ 90 จุด แต่ตอนนี้สามารถปรับตัวขึ้นมายืนเหนือ 155 จุดได้แล้ว
ในขณะเดียวกันกองทุน ETN ที่มีชื่อว่า iPath® Series B Bloomberg Aluminum Subindex Total Return ETN (NYSE:JJU) ซึ่งเป็นกองทุนที่ติดตามราคาจากดัชนี Dow Jones-UBS Aluminum Subindex ก็สามารถทำกำไรได้ 34% จากราคาอลูมิเนียมที่ปรับตัวขึ้น
นอกจากการติดตามดัชนีทั้งสองและ JJU นักลงทุนในตลาดอลูมิเนียมยังนิยมติดตามราคาห้นของบริษัทที่ทำเกี่ยวกับอลูมิเนียมชื่อดังได้แก่
- Alcoa (NYSE:AA) ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันสามารถปรับตัวขึ้นมาได้ 97.8%
- Aluminum Corp of China (NYSE:ACH) ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันสามารถปรับตัวขึ้นมาได้ 72.1%
- Arconic (NYSE:ARNC) ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันสามารถปรับตัวขึ้นมาได้ 1.1%
- Century Aluminum (NASDAQ:CENX) ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันสามารถปรับตัวขึ้นมาได้ 19.9%
- Constellium (NYSE:CSTM) ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันสามารถปรับตัวขึ้นมาได้ 34.2%
- Kaiser Aluminum (NASDAQ:KALU) ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันปรับตัวลดลง 1.8%
- Reliance Steel & Aluminum (NYSE:RS) ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันสามารถปรับตัวขึ้นมาได้ 22.5%
หากถามว่านอกจากหุ้นและ ETN แล้ว มีทางเลือกอื่นในการลงทุนกับอลูมิเนียมอีกไหม? คำตอบคือมี และในวันนี้เราก็มีสองกองทุน ETF มาแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการทางเลือกอื่นในการลงทุนกับอลูมิเนียม
Invesco DB Base Metals Fund
- ระดับราคาปัจจุบัน: $21.36
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $15.65 - $24.00
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.77% ต่อปี
กองทุน ETF Invesco DB Base Metals Fund (NYSE:DBB) เป็นกองทุนสินค้าโภคภัณฑ์ฟิวเจอร์สที่อ้างอิงการวิ่งของราคามาจาก DBIQ Optimum Yield Industrial Metals Index Excess Return นอกจากอลูมิเนียมแล้ว กองทุนนี้ยังอนุญาตให้ลงทุนในสัญญาฟิวเจอร์สของตลาดอลูมิเนียม ทองแดงและสังกะสี
DBB เปิดให้เริ่มทำการซื้อขายตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2007 มีสินทรัพย์รวมแล้วทั้งสิ้นประมาณ $457.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงเวลา 12 เดือนล่าสุด กองทุนนี้ให้ผลตอบแทนกลับคืนมาแล้ว 36% และหากนับตั้งแต่ต้นปี 2021 มาจนถึงปัจจุบัน จะพบว่า DBB สามารถทำกำไรให้กับผู้ถือครองได้เกือบ 23% สร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบหลายปีได้ในช่วงกลางเดือนตุลาคม ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่ราคาทองแดงสร้างจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล และสังกะสีสามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ในรอบหลายปี ขาขึ้นของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทโลหะในช่วงนี้ทำให้องค์กรกำกับดูแลตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตต่อปี (CARG) ของตลาดแห่งนี้ในช่วงปี 2021-2026 จะมีตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 5%
สาเหตุที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทโลหะมีการปรับตัวขึ้น นักวิเคราะห์ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และเทรนด์เทคโนโลยีพลังงานทางเลือกที่มาแรง ไม่ว่าจะเป็นพลังงานแสงโซลาร์ เซลล์ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า พลังงานจากลม ฯลฯ ดังนั้น สำหรับนักลงทุนที่เชื่อว่าการเติบโตของตลาดพลังงานทางเลือกจะช่วยให้แร่โลหะเหล่านี้มีราคาเพิ่มขึ้น กองทุน DBB อาจเป็นคำตอบในการลงทุนกับตลาดฟิวเจอร์สของสินค้าโภคภัณฑ์
iShares US Basic Materials ETF
- ระดับราคาปัจจุบัน: $134.17
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $94.57 - $141.81
- เปอร์เซ็นต์การปันผล: 1.34%
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.41% ต่อปี
กองทุน ETF ที่มีชื่อว่า iShares US Basic Materials (NYSE:IYM) เป็นกองทุนที่ลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับแร่โลหะโดยเฉพาะ กองทุนนี้เปิดให้ลงทุนมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2000 ปัจจุบัน IYM ถือหุ้นของบริษัทแร่โลหะไว้ทั้งหมด 37 หุ้น อ้างอิงการวิ่งของราคามาจากดัชนี Russell 1000 Basic Materials RIC 22.5/45 Capped Gross Index หุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทคิดเป็นสัดส่วน 63% จากสินทรัพย์รวมทั้งหมด $858 ล้านเหรียญสหรัฐ
หุ้นแบ่งกลุ่มหุ้นของ IYM ออกมาส่วนๆ จะพบว่า IYM ถือของหุ้นในกลุ่มบริษัทเคมีภัณฑ์เฉพาะทาง (22.98%) กลุ่มเคมีภัณฑ์ที่ทำมาจากสินค้าโภคภัณฑ์ (12.98%) กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก (10.93%) แลุ่มอุตสาหกรรมแก๊ซ (9.86%) ทองแดง (9.10%) ทองคำ (7.58%) และอลูมิเนียม (1.44%)
หุ้นของบริษัทชื่อดังที่ IYM ถือครองได้แก่ Air Products and Chemicals (NYSE:APD); Ecolab (NYSE:ECL) Freeport-McMoRan (NYSE:FCX) Newmont Goldcorp (NYSE:NEM) และ Dow (NYSE:DOW)
ในปีที่ผ่านมา IYM สามารถมอบผลกำไรคืนแก่ผู้ถือครอง 38.2% และตั้งแต่ต้นปี 2021 มาจนถึงปัจจุบันสามารถทำได้ 18.6% สร้างจุดสูงสุดตลอดกาลได้ในเดือนพฤษภาคม ก่อนที่จะปรับตัวกลับลงมาประมาณ 5% หากต้องการถือครองกองทุนนี้ เราแนะนำว่าควรรอให้ราคาปรับตัวลดลงมาประมาณ $130 เพื่อจุดเข้าที่ดีกว่า