📊 ดูวิธีการที่นักลงทุนชั้นนำสร้างพอร์ตของพวกเขาค้นหาไอเดียการเทรด

ปรับฐานบ้าง แต่ยังไม่เปลี่ยนแนวโน้ม

เผยแพร่ 01/10/2564 09:21
อัพเดท 09/07/2566 17:32
SETI
-
CPALL
-

ความกังวลเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯ เงินเฟ้อ และการลดระดับนโยบาย การเงินผ่อนคลายกดดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับฐานแรง ซึ่งน่าจะมีอิทธิพลต่อ Sentiment ของตลาดหุ้นไทยบ้าง อย่างไรก็ตามปัจจัยในบ้านเรา ต้องถือว่า ยังมีน้ำหนักค่อนไปทางบวก เริ่มจากสถานการณ์ Covid-19 ที่ดีขึ้นทำให้เห็น การเพิ่มขึ้นของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ขณะที่ภาครัฐก็ยังมีแนวคิดที่จะออก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งภาวะดังกล่าวน่าจะสร้าง Momentum ให้เศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดในงวด 3Q64 และฟื้นกลับตั้งแต่4Q64 เป็นต้น ไป อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยที่มีแรงหนุนเพียงเม็ดเงินในประเทศอาจทำให้ การปรับขึ้นต้องใช้เวลา โดยมีแรงขายทำกำไรสลับเป็นช่วงๆ

SET Index น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1590 – 1620 จุด พอร์ตจำลองวันนี้ไม่ มีการปรับเปลี่ยน เนื่องจากมีการกระจายตัวในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ เหมาะสมในปัจจุบัน หุ้น Top Pick เลือก CRC, DOHOME และ MAJOR

ตลาดหุ้นโลกยังปรับฐานต่อ จากประเด็นเดิมๆ เป็น Sentiment ลบต่อหุ้นไทย

ตลาดหุ้นต่างประเทศเมื่อวานยังโดน Take Profit ต่อ (ตลาดหุ้นสหรัฐ Dow jones, S&P500 ลงเฉลี่ยราว 1% และลงต่อเป็นวันที่ 3 และนับตั้งแต่ต้นสัปดาห์-ปัจจุบัน (wtd) ลงราว 3.2%) โดยเหตุผลหลักๆ คือ

  • ความกังวลการขยายเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐ ปัจจุบันหนี้สาธารณะของ สหรัฐมีจำนวน 28.43 ล้านล้านเหรียญ หรือราว 132%ต่อ GDP และ สูงกว่า เพดานหนี้สาธารณะ (Debt Limit) ที่ 28.4 ล้านล้านเหรียญ หากสภาไม่สามารถ ผ่านการขยายเพดานหนี้ รัฐบาลกลางสหรัฐอาจขาดเงินสดอาจจะทำให้มีความ เสี่ยงที่สหรัฐอาจผิดนัดชำระหนี้ ในวันที่ 18 ต.ค. ส่วนประเด็นการโหวตร่าง กฎหมายงบประมาณชั่วคราว ล่าสุดเช้านี้ ประธานาธิบดี Biden เซ็นอนุมัติผ่านไป เรียบร้อยแล้ว ทำให้รัฐบาลสหรัฐมีงบประมาณใช้จ่ายจนถึงวันที่ 3 ธ.ค.64 (ปลดล็อกไป 1 เรื่อง)

  • Valuation ตลาดที่แพง เนื่องจากสภาพคล่องส่วนเกินในระบบช่วยขับเคลื่อน ตลาดหุ้นหลายประเทศปรับตัวขึ้นมาดังกล่าว จนมี P/E ที่สูงกว่าในอดีตและก่อน ช่วงที่เกิด Covid-19 มาก อาทิ ตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว (Developed Market) ปรับตัวขึ้นสูงกว่าก่อนเกิดโควิด 27% และมี P/E สูงขึ้นจาก 21.1 เท่า เป็น 24.0 เท่า เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทย ปรับตัวขึ้นสูงกว่าก่อนเกิดโควิด 0.8% และมี P/E สูงขึ้นจาก เท่า 18 เป็น 19.7 เท่า เช่นกัน

  • โดน Take Profit หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปี(%ytd) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นมาราว12%

โดยรวม ASPS ประเมิน Sentiment ลบจากปัจจัยต่างประเทศ มีผลต่อการไหลเข้าของ Fund Flow และกดดันต่อ SET Index ในวันนี้ แต่ประเมินเป็นการปรับลงในช่วงสั้น ส่วนสัปดาห์หน้าประเด็นที่ต้องติดตาม ไม่มีประเด็นสำคัญ ส่วนใหญ่จะติดตามตัวเลข เศรษฐกิจ เริ่มจาก 1.ติดตาม PMI ภาคบริการ เดือน ก.ย. ของสหรัฐ และจีน และ วันศุ กรหน้า ติดตามตัวเลขการจ้างงานสหรัฐ Consensus คาดดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า

ภาครัฐเตรียมปัดฝุ่น “ช้อปดีมีคืน”ในช่วงปลายปี บวกกับหุ้นปลีก-ห้างสรรพสินค้า

หลังจากที่ภาครัฐปรับเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะต่อ GDP เพิ่มเป็น 70% จากเดิมไม่เกิน 60% ในช่วงปลายเดือน ก.ย. 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งประเด็นดังกล่าว ASPS เคยวิเคราะห์ ว่าจะเป็นบวกต่อเศรษฐกิจเพราะช่วยหนุนความหวังว่าในอนาคตจะมีมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจชุดใหม่ๆอีกโดยเฉพาะช่วง 4Q64 (ดูบทวิเคราะห์ฉบับวันที่ 20-21 ก.ย. 2564 เพิ่มเติม) เนื่องจากรัฐจะมีช่องทางกู้เงินเพิ่มอีกราว 2 ล้านล้านบาท กรอบวงเงินใหม่ ของรัฐเพิ่มเป็น 2.38 ล้านล้าน

ทั้งนี้ ท่าทีล่าสุดของรัฐยังสอดคล้องกับที่ ASPS ประเมิน นั่นคือรัฐมนตรีคลังเผยว่า ขณะที่กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อในช่วง 4Q64 และอาจต่อเนื่องไปถึง 1Q65 โดยเฉพาะมาตรการช้อปดีมีคืน (ค่าใช้จ่ายหัก ลดหย่อนภาษีได้) และการเพิ่มวงเงิน หรือขยายเวลามาตรการคนละครึ่ง-ยิ่งใช้ยิ่งได้ ออกไปอีก และคาดจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ เพื่อให้ทันช่วงปลายปี

ความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคชุดใหม่ในช่วงปลายปี (โดยเฉพาะ โครงการช้อปดีมีคืน) คาดจะช่วยให้หุ้นกลุ่มค้าปลีก และกลุ่มห้างสรรพสินค้าได้ ประโยชน์และกระแสตามไปด้วย เช่น CRC, CPN, DOHOME, HMRO, COM7, SPVI, BJC, CPALL (BK:CPALL) โดยในวันนี้ ASPS เลือก CRC และ DOHOME เป็นส่วนหนึ่งของหุ้น Top pick

ตลาดหุ้นไทยผันผวน ขาด Fund Flow หนุน + กำไร 3Q64 ชะลอ

วานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง 11.3 จุด หรือ 0.7% ภาพรวมเป็นลักษณะสลับกลุ่ม การลงทุน และมีการขายทำกำไรบางส่วนจากหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาแรงในช่วงก่อนหน้า อาทิ กลุ่มธ.พ. -2.48%, รับเหมาฯ -2.11%, บรรจุภัณฑ์ -1.53% เป็นต้น ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสผันผวนในระยะสั้น เนื่องจากขาดแรงสนับสนุนจาก Fund Flow และกำไร 3Q64 ที่น่าจะชะลอตัว

Fund Flow มีโอกาสถูกกดดันจากปัจจัยภายนอกประเทศที่ผันผวน, นักลงทุนมีโอกาส ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ส่งผลให้เริ่มเห็นสัญญาณการ กลับมาขายสุทธิหุ้นไทยของต่างชาติในวานนี้ 1.2 พันล้านบาท พร้อมกับขายสุทธิ สัญญา SET50 Futures 3.9 หมื่นสัญญา และยังขาดแรงสนับสนุนจากกองทุนที่ขาย สุทธิ 2.8 พันล้านบาท (ขายสุทธิติดต่อกัน 5 วัน มูลค่าขายรวม 1.1 หมื่นล้านบาท)

ในเชิง Valuation พบว่า P/E ตลาดหุ้นไทยที่อยู่ระดับสูง 21 เท่า สูงกว่าช่วงก่อนเกิด COVID-19 ที่ระดับ 18 -19 เท่า ขณะที่แนวโน้มกำไรบริษัทจดทะเบียนช่วง 2H64 มี โอกาสลดลง -42%HoH โดยเฉพาะช่วง 3Q64 ที่เผชิญกับ COVID-19 เต็มไตรมาส ทำ ให้กำไรมีโอกาสลดลง ล่าสุดฝ่ายวิจัยฯได้ทำ Earning 4 บริษัท ADVANC, DTAC, TISCO, SCB คาดว่ากำไรลดลง QoQ ทุกบริษัท

แรงกดดันดังกล่าว มีโอกาสสร้างความผันผวนให้กับตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวในวันนี้ 1590 – 1620 จุด และหาก SET Index ผันผวน มากในช่วงเดือน ต.ค. 64 จะมีแนวรับสำคัญๆ อยู่ที่ 1585 จุด และ 1565 จุด เป็นแนว รับถัดไป อย่างไรก็ตามการปรับฐานลงมาถือเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นพื้นฐานดี เพื่อ หวังผลการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่แข็งแรงขึ้นในระยะถัดไป

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย