โปรดลองค้นหาใหม่อีกครั้ง
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนบ่งชี้ไปที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในวันนี้ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) ประจำเดือนกรกฎาคมที่จะประกาศในวันนี้เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทยจะต้องออกมาดีอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้น และพันธบัตรรัฐบาล นักวิเคราะห์หลายสำนักประเมินว่าตัวเลขการจ้างงานในวันนี้จะออกมาที่ 870,000 ตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นเยอะที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังมีบางกระแสคาดการณ์ว่าตัวเลขที่จะออกมาอาจจะขึ้นไปถึง 1,000,000 ตำแหน่งเลยทีเดียว
การประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรโดยภาคเอกชนหรือ ADP เมื่อวันพุธที่ลดลงอาจทำให้นักลงทุนตกใจอยู่บ้าง แต่กระแสเชิงลบนั้นก็ถูกกลบไปด้วยข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่นตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกที่ลดลงมาเป็น 385,000 คน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบสามสัปดาห์ล่าสุด ในขณะที่ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการรวมก็ลดลงต่ำจนสามารถมีระดับเดียวกันกับช่วงก่อนโควิดได้ สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้จึงสามารถสรุปได้ว่าเดือนกรกฎาคมถือเป็นอีกเดือนหนึ่งที่เศรษฐกิจอเมริกามีความแข็งแกร่ง การจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น คนกล้าใช้จ่ายกับสินค้าฟุ่มเฟือยมากขึ้น ถ้าภาพที่เราเห็นคือหันไปทางไหนก็มีแต่ธุรกิจเปิดรับพนักงาน ตัวเลขการจ้างงานของเดือนกรกฎาคมก็ควรที่จะออกมาดี
ในทุกๆ ต้นเดือนที่จะมีการรายงานตัวเลขการจ้างงานฯ เรามักจะพยายามหาข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ NFP มาประเมินเพื่อให้ได้ความเป็นไปได้ที่ใกล้เคียงกับตัวเลขที่จะประกาศมากที่สุด สำหรับเดือนกรกฎาคม ข้อมูลทุกอย่างสรุปไปในทางเดียวกันว่าตัวเลขในเดือนนี้จะออกมาดีกว่าเดือนมิถุนายน ดัชนี PMI ในภาคบริการจาก ISM ขยายตัวเพิ่มขึ้นสูงที่สุด เช่นเดียวกันกับตัวเลขการจ้างงานในภาคที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต ข้อมูลตัวเลขของผู้ที่ถูกเลิกจ้างจากชาเลนเจอร์ก็ลดลงต่ำที่สุดในรอบ 21 ปี ตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจาก CB ทะยานขึ้นสูงที่สุดนับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด อย่าลืมรวมตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการฯ ที่กล่าวถึงไปก่อนหน้านี้ด้วย หากจะเรียกได้ว่าข้อมูลจาก ADP คือจุดด่างพล้อยเดียวก็คงจะไม่ผิดมากนัก
ข้อมูลที่สนับสนุนว่าตัวเลขการจ้างงาน (NFP) ในเดือนกรกฎาคมจะเติบโตเพิ่มขึ้น
- ตัวเลขการจ้างงานจากดัชนี PMI ในภาคที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 49.3 เป็น 53.8 จุด
- ตัวเลขการจ้างงานจากดัชนี PMI ในภาคการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 49.9 เป็น 52.9 จุด
- ตัวเลขของผู้ที่ถูกเลิกจ้างจากชาเลนเจอร์ (Challenger) ลดลงต่ำสุดในรอบ 21 ปี
- ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยมหาลัยมิชิแกนเพิ่มขึ้นเป็น 85.5 จุด
- คัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดย CB เพิ่มขึ้นแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่มีการระบาด
- ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงจาก 397,000 คนเป็น 394,500 คน
- ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรวมลดลงไปอยู่ในระดับเดียวกับก่อนโควิด
ข้อมูลที่สนับสนุนว่าตัวเลขการจ้างงาน (NFP) ในเดือนกรกฎาคมจะหดตัวลดลง
- รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรจากภาคเอกชน (ADP) ลดลงจาก 680K เป็น 330K
หากตัวเลข NFP เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ คือตัวเลขของเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นเป็น 850,000 ตำแหน่ง อัตราการว่างงานลดลงมาจาก 5.9% และรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยังดีขึ้นต่อเนื่อง กราฟ USD/JPY จะสามารถขึ้นไปแตะ 110 ในขณะที่ EUR/USD จะปรับตัวลดลงไปยัง 1.18 ยิ่งตัวเลข NFP ออกมาสูงเท่าไหร่ ความแข็งแกร่งของดอลลาร์สหรัฐก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น หากวันนี้ NFP ออกมาน้อยกว่า 800,000 ตำแหน่ง อัตราการว่างงานลดลงไม่ถึงตัวเลขคาดการณ์ เราคาดว่าอาจจะมีการเทขายดอลลาร์บ้างแต่ไม่มาก แต่หากหากตัวเลข NFP ที่ออกมาต่ำกว่า 600,000 ตำแหน่ง เตรียมเห็นการเทขายดอลลาร์อย่างรุนแรงได้เลย
นอกจากสหรัฐฯ เราต้องไม่ลืมที่จะหันไปดูประเทศเพื่อนบ้านอย่างแคนาดาด้วย เพราะก็จะมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานในวันนี้เช่นกัน นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่าตัวเลขการจ้างงานของแคนาดาจะออกมาดีตามดัชนี PMI จาก IVEY ในเดือนที่แล้วและข้อมูลตัวเลขดุลบัญชีการค้าที่เพิ่มขึ้น ตัวเลขการจ้างงานของแคนาดาเริ่มฟื้นตัวมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยหดตัวในเดือนเมษายนและพฤษภาคม สาเหตุที่ตัวเลขการจ้างงานในเดือนกรกฎาคมควรจะเพิ่มขึ้นเป็นเพราะการเพิ่มประสิทธิภาพของการกระจายวัคซีนทั่วประเทศและการลดมาตรการคุมเข้มทางสังคมลง จนธนาคารกลางแคนาดากล้าประกาศลดวงเงินเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล
ผลการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษได้ข้อสรุปว่า 7 ต่อ 1 เสียงโหวตให้คงนโยบายทางการเงินเอาไว้ดังเดิม นอกจากนี้ข้อมูลตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของ GDP ก็ถูกคงไว้ดังเดิมด้วยเช่นกัน แต่มีการปรับตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อขึ้น สำหรับทิศทางการวางนโยบายการเงินในอนาคต BoE ให้ข้อมูลกับสาธารณะชนน้อยมาก พวกเขาพูดเพียงแต่ว่าการทำให้นโยบายการเงินตึงตัวอาจจะจำเป็นภายในสองหรือสามปีข้างหน้า และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ควรจะเกิดขึ้นหลังจากการถอน QE เมื่อผลการประชุมออกมาเป็นเช่นนี้ กราฟ GBP/USD จึงไม่ได้ขยับตัวไปไหนไกลนอกจากวิ่งอยู่เหนือ 1.39 ให้ได้ตามเดิม
Economic Highlightควรจับตา...
เราไปดูทางสกุลเงินยูโรกันŦ
ค่าเงินบาทอ่อนค่าที่สุดในũ
คุณแน่ใจหรือว่าคุณต้องการบล็อก %USER_NAME%?
เมื่อทำการบล็อก คุณและ %USER_NAME% จะไม่สามารถเห็นโพสต์ของแต่ละฝ่ายบนเว็บไซต์ Investing.com ได้
%USER_NAME% ได้ถูกเพิ่มเข้าไปใน Block List ของคุณแล้ว
เนื่องจากคุณเพิ่งยกเลิกการบล็อกบุคคลนี้ คุณต้องรอ 48 ชั่วโมงก่อนการบล็อกอีกครั้ง
ฉันรู้สึกว่าความคิดเห็นนี้
ขอบคุณ!
รายงานของคุณได้ถูกส่งไปยังผู้ดูแลบอร์ดของเราเพื่อการทบทวน
แสดงความคิดเห็น
เราสนับสนุนให้ท่านได้ใช้ช่องทางการแสดงความคิดเห็นนี้เพื่อสื่อสารสัมพันธ์กับผู้ใช้เว็บไซต์อื่นๆ เพื่อแลกเปลี่ยนในทัศนคติและสอบถามข้อสงสัยกับผู้เขียนและสอบถามซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตามเพื่อให้การสื่อสารสัมพันธ์นี้เป็นไปอย่างเรียบร้อยที่เราทุกคนต้องการและคาดหวังดังนี้กรุณาพึงระลึกในข้อปฏิบัติดังต่อไปนี้:
ผู้ที่โพสต์เนื้อหาข้อความสแปมหรือใช้เว็บไซต์นี้ไปในทางผิดจะถูกลบรายชื่อทิ้งจากเว็บไซต์และถูกปิดกั้นการลงทะเบียนเป็นสมาชิกในอนาคตซึ่งเป็นไปตามดุลพินิจของเว็บไซต์ Investing.com