Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET สัปดาห์นี้ (12 ถึง 16 ก.ค.) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,510-1,580 จุด เราคาดว่า SET จะยังคงผันผวนต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน จากจํานวนผู้ติดเชื้อรายวันที่เพิ่มขึ้น มากกว่า 9,000 รายต่อวัน และจํานวนผู้ป่วยหนัก และจํานวนผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ เฉลี่ยต่อวันที่ เพิ่มขึ้น 29.1% WoW และ 22.5% WoW เป็นปัจจัยกดดันการฟื้นตัวของ SET อย่างไรก็ตาม ราคาน้ํามันดิบที่กลับมาฟื้นตัว จะทําให้หุ้นในกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลดลง กลับมาน่าสนใจ รวมไปถึงหุ้น ที่ยังได้ Sentiment เชิงบวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่า หุ้นในกลุ่ม Logistic และหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล จํากัด Downside ของ SET สัปดาห์นี้น่าติดตามอยู่ที่ ถ้อยแถลงของประธานเฟดต่อสภา คองเกรส (14-15 ก.ค.) ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทําให้ตลาดยังมีความผันผวนจากความกังวลต่อการเปลี่ยนแปลง นโยบายการเงิน รวมไปถึงรายงานการประชุมของ BoE (13 ก.ค.) และการประชุม Bol (15-16 ก.ค.) ติดตามประธานเฟดแถลง ภาพรวมเศรษฐกิจและนโยบายการเงินต่อสภาคองเกรส 14-15 ก.ค. นี้ - นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกําหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปี เกี่ยวกับ นโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่อสภาคองเกรส โดยมีกําหนดกล่าวถ้อยแถลงต่อ คณะกรรมาธิการการธนาคารประจําวุฒิสภา วันที่ 14 ก.ค. และกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการ การเงินประจําสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 15 ก.ค. ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่มุมมองของเฟดต่อภาวะเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ รวมทั้งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งที่ผ่านมาเป็นปัจจัยกดดันภาพรวมการลงทุนของตลาดหุ้นในภูมิภาค จากความกังวลต่อ การที่เฟดจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานที่ลดลงสัปดาห์ก่อน เรามองเป็นจังหวะในการเข้าลงทุน - สัญญาน้ํามันดิบ WTI ส่งมอบ เดือน ส.ค. กลับมาฟื้นตัว 1.62 เหรียญ (+2.26) หลังสัปดาห์ก่อนได้รับผลกระทบจาก ความไม่แน่นอนของ การประชุม OPEC+ และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทบประมาณการความต้องการใช้ น้ํามันดิบ อย่างไรก็ตาม การปรับประมาณการความต้องการใช้น้ํามันดิบล่าสุด ยังไม่มีนัยสําคัญต่อการฟื้นตัว ของความต้องการใช้น้ํามันดิบในปี 2564-2565 ขณะที่รายงานปริมาณสํารองน้ํามันดิบสหรัฐฯ ลดลงต่อเนื่อง และเป็นการลดลงมากกว่าคาด สะท้อนความต้องการใช้น้ํามันดิบที่แข็งแกร่ง เรายังชอบหุ้นในกลุ่ม OiL Play ที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ํามันดิบที่ปรับเพิ่ม โดยเรายังเลือก PTTEP TOP IRPC และ PTTGC
Company Update: TU (เก็งกําไร., ราคาเป้าหมาย 24 บาท) ผลการดําเนินงานดีต่อเนื่อง - ปรับเพิ่ม ประมาณการกําไรสุทธิปี 64-65 ขึ้น 18% และ 17% โดยปัจจัยเรื่องของค่าเงินบาทอ่อนค่า ยังเป็นปัจจัย หนุนธุรกิจ คาดกําไรสุทธิ 2Q64 เติบโตต่อเนื่อง YoY และ QoQ จากอัตรากําไรที่ทรงตัวในระดับสูง โดยรายได้เติบโต จากยอดขายอาหารทะเลแช่แข็งที่ฟื้นตัว ประเด็นพนักงานโรงงานสงขลาติดเชื้อ COVID-19 คาดส่งผลกระทบจํากัด แนะนํา “เก็งกําไร” ให้ราคาเป้าหมายใหม่ 24 บาท Earnings Preview: CPF (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 43 บาท) คาดกําไรสุทธิ 2Q64 ทรงตัว YoY แต่ลดลง QoQ - คาดกําไรสุทธิ 2Q64 ลดลง QoQ จากราคาหมูที่ปรับตัวลง ราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวลง กดดันอัตรากําไร คาดอัตรากําไรขั้นต้น 2Q64 ที่ 18.5% ลดลง QoQ ส่วนแบ่งกําไรลดลง QoQ จากราคาหมูในจีนที่ลดลง อย่างมีนัยยะ กําลังซื้อที่ชะลอตัวเป็นปัจจัยกดดันธุรกิจ แนะนํา “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 43.00 บาท บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน - Company Update: TU/Earnings Preview: CPE การประชุมต่างประเทศที่น่าสนใจสัปดาห์นี้ - ติดตามรายงานการประชุมของ BoE (13 ก.ค.)/ รายงาน สถานการณ์และการคาดการณ์ราคาน้ํามันประจําเดือน (IEA Monthly Report) จากองค์กรพลังงานระหว่าง ประเทศ (IEA) (13 ก.ค.) / การประชุม Bol (15-16 ก.ค.) ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่การเปลี่ยนแปลง หรือ มาตรการเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลาย / การประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลังของกลุ่ม G20 โดยจะมีการหารือเกี่ยวกับมาตรการด้านภาษี Global Minimum Tax
(15-16 ก.ค.) • ติดตามรายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญวันนี้ - รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของญี่ปุ่น ได้แก่ ดัชนีราคา
ผู้ผลิต (PPI) เดือน มิ.ย. (คาดเพิ่มขึ้น 4.7%YoY) • มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,530-1,565 จุด
หุ้นแนะนําทางเทคนิควันนี้ได้แก่ CPF ITS NSL SINGER และ EPG
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities