มหกรรมลดราคา Black Friday เริ่มต้นขึ้นแล้ว ตอนนี้! ห้ามพลาดกับส่วนลดสูงสุดถึง 60% InvestingProรับส่วนลด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ ภาคบ่าย ทองคำเผชิญแรงขายทางเทคนิค

เผยแพร่ 04/05/2564 15:53
อัพเดท 09/07/2566 17:32
XAU/USD
-
GC
-

สรุป ทองคําเผชิญแรงขายทํากําไรทางเทคนิค หลังจากวันจันทร์ราคาขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดรอบ 2 เดือนบริเวณ 1,797.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถผ่าน ไปได้ ขณะที่เช้านี้ ราคาแกว่งตัวในกรอบ 1,783.70-1,793.16 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางการฟื้นตัวของดัชนีดอลลาร์ขึ้นมายืนแถว 91.17 ขณะที่บอนด์ยีลด์สหรัฐ อายุ 10 ปี ทรงตัวแถว 1.6% เพื่อรอปัจจัยชี้นําใหม่ๆ อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงไม่วางใจกับสถานการณ์โควิด-19 หลังจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า กําลังติดตาม ไวรัสโคโรน่ากลายพันธุ์ ที่น่าจับตาและน่ากังวล 10 สายพันธุ์ทั่วโลก รวมทั้งที่พบครั้งแรกในสหรัฐและไวรัสกลายพันธุ์ 3 จุดที่กําลังเล่นงานอินเดีย นอกจากนี้ สํานักงานด้านสุขภาพของเดนมาร์กได้ตัดสินใจยกเลิกการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ในโครงการฉีดวัคซีนให้กับ ประชาชนทั่วประเทศ โดยนางเฮลีน พร็อบส์ รองผู้อํานวยการสํานักงานด้านสุขภาพของเดนมาร์กเปิดเผยในการแถลงข่าวว่า "เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน ในเดนมาร์ก สิ่งที่เราสูญเสียไปในความพยายามที่จะป้องกันการเจ็บป่วยอย่างรุนแรงจากโรคโควิด-19 นั้น เทียบไม่ได้กับความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น จากการอุดตันของลิ่มเลือดอย่างรุนแรงในผู้ที่เราฉีดวัคซีน" ทั้งนี้ เดนมาร์ก ได้ยุติการใช้วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าไปก่อนหน้านี้ด้วย ความไม่แน่นอนดังกล่าวช่วย พยุงราคาทองคําไว้ ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า ราคาทองคําอาจเคลื่อนไหวในกรอบ หลังจากราคาดีดตัวขึ้นก็มีแรงขายทํากําไรสลับเข้ามากดดันราคา ทั้งนี้ หากราคายืนเหนือแนวรับแรก 1,772 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ จะทําให้มีแรงซื้อเก็งกําไรส่งผลให้ราคาดีดกลับช่วงสั้นๆ เบื้องต้นอาจต้องระวังแรงขายกลับลงมาอีกครั้ง หากราคายังไม่มีแรงซื้อมากพอหรือมีปัจจัยใหม่มาดันราคาขึ้น โดยประเมินแนวต้านที่ 1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนําสําหรับการเข้าซื้ออาจใช้บริเวณ 1,772 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,772 ดอลลาร์ต่อออนซ์) และทยอยขายทํากําไรบริเวณแนวต้าน 1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อลดความเสี่ยง

คำแนะนำ เสี่ยงเปิดสถานะซื้อหากราคาสามารถยืน เหนือแนวรับ 1,772 ดอลลาร์ต่ออออนซ์เพื่อหวังทำกำไรจาก การดีดตัวขึ้นช่วงสั้น โดยทยอยขายทำกำไรหากราคายังไม่ ยืนเหนือโซน 1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ดูกราฟราคาทองคำ SPOT XAU/USD

https://th.investing.com/currencies/xau-usd

กระทู้พูดคุยเกี่ยวกับราคาทองคำ SPOT

https://th.investing.com/currencies/xau-usd-commentary

บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย