SET: คาด SETIndex แกว่งตัว Sideways ในสัปดาห์นี้ โดยปัจจัยกดดัน ด้าน Sentiment ยังคงได้แก่การระบาดของเชื้อ Covid-19 ในประเทศ ซึ่งอาจมีการรายงานจํานวนผู้ติดเชื้อที่มากขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังผ่านพ้นช่วง วันหยุดยาวที่มีการเคลื่อนย้ายของผู้คนเป็นจํานวนมาก อย่างไรก็ตาม ด้วย สภาพคล่องภายนอกที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และระดับ Bond yield สหรัฐฯที่ ย่อลงมา จึงทําให้สัญญาณ Fund flow ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี ประกอบกับ การขายสุทธิของนักลงทุนสถาบันในประเทศที่ค่อนข้างมากราว 1.1 หมื่น ล้านบาทนับตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา จึงทําให้เราประเมินว่าด้วยสถานะเงิน สดในระดับสูง อาจมีแรงซื้อหุ้นกลับบางส่วนได้ ในสภาวะทีปัจจัยใน ประเทศยังคงมีความไม่แน่นอนในระดับสูง ประเมินว่าหุ้นในกลุ่มที่องกับ ปัจจัยภายนอกน่าจะมีการปรับตัว Outperform ตลาดได้ต่อไป ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มส่งออก กลุ่มพลังงาน หรือกลุ่มปิโตรเคมี
EPS: สัญญาณที่ดีอีกประการหนึ่งที่เกิดขึ้นล่าสุดได้แก่ประมาณการ กําไร (EPS) ของบจ.ในตลาด ซึ่งจากการตรวจสอบของเราล่าสุดพบว่า ยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ส่งผลให้กระดับดัชนีเป้าหมายของ เราในปีนี้ยังคงอยู่ที่บริเวณ 1550 จดเช่นเดิม หรือเทียบเท่ากับระดับดัชนี ในปัจจุบัน ที่สําคัญ ระดับ Bond yield สหรัฐฯยังปรับลดต่อเนื่องจนล่าสุด รุ่นอายุ 10 ปีมาอยู่ที่บริเวณ 1.56% แล้ว ส่งผลให้ SET ดูมีความน่าสนใจ มากขึ้นในมิติของ Earning yield gap ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ จําเป็นต้องติดตาม พัฒนาการของประมาณการ EPS นี้ต่อไป ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมี นัยสําคัญ จะส่งผลต่อระดับดัชนีเป้าหมายของเราได้
Fund low: ในส่วนของการเคลื่อนย้ายของเม็ดเงินลงทุนต่างชาตินั้น เรายังไม่เห็นความผิดปกติแต่อย่างใด สอดคล้องกับเงิน USD ที่ยังคงทรง ตัวอ่อนค่า และเป็นผลทําให้เงินบาทในรอบ 1 สัปดาห์และ 1 วันที่ผ่านมา ปรับตัวได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินอื่นๆในเอเชีย
Theme:
ในสภาวะที่ SET อยู่ในระดับยุติธรรม ณ ปัจจุบัน ประเมินเช่นเดิม ว่า นักลงทุนยังคงสามารถถือหุ้นเดิมในพอร์ดได้ต่อไป โดยเรายังคงเน้น โฟกัสไปยังธีมการลงทุนเด่นประจําเดือนเมษายน ซึ่งได้แก่
1) กลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากธีม Reopening แต่จะต้องมี Valuation ที่ยังถูกอยู่เพื่อความปลอดภัย อาทิ กลุ่มปั้มน้ํามัน ได้แก่ OR, PTG และกลุ่มโรงพยาบาล ได้แก่ BDMS, BCH, IMHm
2) กลุ่มหุ้นส่งออกที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก อาทิ กลุ่มยานยนต์ ได้แก่ AH และกลุ่มอาหาร ได้แก่ CPF, TU
3) กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะรายงานผลกําไรไตรมาส 1/64 ออกมาเดิบโตทั้ง YoY และ QoQ พร้อมทั้งยังซื้อขายด้วย Dividend yield อยู่ในระดับสูง เกินกว่า 3% ขึ้นไป ได้แก่ PI, QH, SCC
4) หุ้นที่คาดว่าจะถูกคัดเลือกเข้าสู่ดัชนี MSI Thailand standard index ประจํารอบเดือนพ.ค.นี้ ได้แก่ SCGP 5) หุ้นที่คาดว่าจะถูกคัดเลือกเข้าสู่ดัชนี SET50 ที่จะมีผลบังคับใช้ในรอบครึ่งปีหลังนี้ ได้แก่ STGT, IRPC, STA
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities
หุ้นตัวใดที่คุณควรซื้อในการเทรดครั้งถัดไป?
ด้วยการประเมินมูลค่าหุ้นที่สูงริ่วในปี 2024 ดังนั้นนักลงทุนจำนวนมากจึงไม่สบายใจที่จะนำเงินมาลงในหุ้นเพิ่มขึ้น ไม่แน่ใจว่าจะลงทุนในหุ้นตัวใดต่อไปใช่ไหม? คุณสามารถเข้าถึงพอร์ตที่พิสูจน์แล้วของเราและค้นพบโอกาสการลงทุนที่มีศักยภาพสูง
เฉพาะในปี 2024 เพียงปีเดียว เทคโนโลยี AI ของ ProPicks AI ได้ระบุหุ้น 2 ตัวที่ราคาพุ่งขึ้นกว่า 150%, หุ้นเพิ่มเติมอีก 4 ตัวที่ดีดตัวขึ้นกว่า 30% และหุ้นอีก 3 ตัวที่ไต่ระดับขึ้นกว่า 25% เป็นสถิติที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง
ด้วยพอร์ตลงทุนที่ปรับให้เหมาะสำหรับหุ้นดาวน์โจนส์, หุ้น S&P, หุ้นเทคฯ และหุ้นขนาดกลาง (Mid Cap) ต่าง ๆ ดังนั้นคุณจึงสามารถสำรวจกลยุทธ์ที่สร้างความมั่งคั่งต่าง ๆ ได้