🐦 Early bird ค้นพบหุ้นที่มาแรงที่สุดตอนนี้ด้วยราคาเบา ๆ รับส่วนลดสูงถึง 55% สำหรับ InvestingPro กับโปรโมชัน Black Fridayรับส่วนลด

3 หุ้นเด่นประจำสัปดาห์: Netflix, Johnson & Johnson, Coinbase

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 19/04/2564 15:03
US500
-
DJI
-
DIS
-
AAPL
-
AMZN
-
CMCSA
-
JNJ
-
NFLX
-
IXIC
-
BTC/USD
-
COIN
-

สัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์ที่เข้าสู่ช่วงเวลาการรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2021 ของบริษัทชื่อดังในสหรัฐอเมริกาอย่างเต็มตัวหลังจากที่บางบริษัทเริ่มรายงานผลประกอบการมาแล้วตั้งแต่วันที่ 14 เมษายน สิ่งที่นักลงทุนให้ความสำคัญกับการรายงานผลประกอบการไตรมาสนี้คือแรงกดดันจากความกังวลอัตราเงินเฟ้อว่าจะส่งผลต่อกำไรของบริษัทเอกชนหรือไม่

ข้อมูลจาก Refinitiv รายงานว่ามีโอกาสที่บริษัทเอกชนสหรัฐฯ จะสามารถรายงานผลประกอบการที่สามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ในไตรมาสที่ 1 ปี 2021 นี้มีมากถึง 84% เพราะแม้ขนาดดัชนีเอสแอนด์พี 500 ยังสามารถมีกำไรเติบโตในไตรมาสนี้ได้มากถึง 30.2% FaceSet ถึงกับรายงานว่าไตรมาสที่ 1 ปี 2021 คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเอสแอนด์พี 500 นับตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ปี 2010

นอกจากความเชื่อมั่นของตลาดลงทุนที่หนุนให้เอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้นมาได้แล้ว ดัชนีหลักอื่นๆ อย่างดาวโจนส์และแนสแด็กก็สามารถปรับตัวขึ้นทำสถิติใหม่ด้วยเช่นกัน เอสแอนด์พีจบสัปดาห์ที่แล้วด้วยจุดสูงสุดใหม่ ดาวโจนส์ทำสถิติปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สี่ติดต่อกันในขณะที่แนสแด็กสามารถปรับตัวขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 1.1%

ในบทความนี้เราได้นำสามหุ้นที่น่าสนใจที่สุดประจำสัปดาห์นี้มาให้คุณผู้อ่านอีกเช่นเคยซึ่งจะมีสองบริษัทที่จะมีคิวรายงานผลประกอบการและอีกหนึ่งบริษัทที่พึ่งเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

1. Netflix

บริษัทผู้ให้บริการรับชมภาพยนตร์สตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่ ‘เน็ตฟลิกซ์’ (NASDAQ:NFLX) จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2021 ในวันอังคารที่ 20 เมษายนหลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์คาดว่าไตรมาสนี้เน็ตฟลิกซ์จะสามารถทำกำไรได้ $7,140 ล้านเหรียญสหรัฐและมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $2.97 แม้เน็ตฟลิกซ์จะเติบโตเป็นอย่างมากในช่วงการแพร่ระบาดเมื่อปีที่แล้ว แต่เมื่อมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นจึงเริ่มส่งผลให้การเติบโตของยอดผู้สมัครสมาชิกเน็ตฟลิกซ์ชะลอตัว

NFLX Weekly TTM

นับตั้งแต่ต้นปี 2021 มาจนถึงปัจจุบันหุ้นเน็ตฟลิกซ์สามารถปรับตัวขึ้นมาเหนือ 1% ได้เพียงเล็กน้อย เทียบกับดัชนีแนสแด็กที่ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 9% ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน ล่าสุดหุ้นเน็ตฟลิกซ์มีราคาปิดอยู่ที่ $546.54 นักลงทุนบางส่วนจึงหวังว่าหากรายงานผลประกอบการในวันพรุ่งนี้สามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ได้จะสามารถพาหุ้นของบริษัทออกจากรอบการวิ่งของราคาที่อึดอัดนี้ไปได้

ในปีนี้เน็ตฟลิกซ์ต้องรับศึกหลายด้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตของคู่แข่งคนสำคัญอย่างดิสนีย์ (NYSE:DIS) ที่นับวันผู้บริโภคก็ยิ่งหันไปใช้บริการของดิสนีย์พลัส (Disney+) มากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีคู่แข่งรายอื่นๆ ภายในประเทศที่สำคัญอย่างแอปเปิลทีวี (Apple TV) ของบริษัทแอปเปิล (NASDAQ:AAPL) ไพรม์ วิดีโอ (Prime Video) ของอะเมซอน (NASDAQ:AMZN) และเอ็นบีซียูนิเวอซัล (NASDAQ:CMCSA)

2. Johnson & Johnson

บริษัทข้ามชาติจากอเมริกาผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในอุตสาหกรรมยา เครื่องมือแพทย์ และสินค้าอุปโภคบริโภค ‘จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน’ (NYSE:JNJ) หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า ‘เจแอนด์เจ’ จะรายงานผลประกอบการในวันเดียวกันกับเน็ตฟลิกซ์แต่จะรายงานผลประกอบการก่อนที่ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เปิด นักวิเคราะห์คาดว่าไตรมาสนี้เจแอนด์เจจะสามารถทำกำไรได้ $22,000 ล้านเหรียญสหรัฐและมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $2.34JNJ Weekly TTM

ในช่วงนี้ชื่อเสียงของเจแอนด์เจมักจะถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในฐานะหนึ่งในบริษัทที่สามารถผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 อย่างไรก็ตามเมื่อไม่นานมานี้มีรายงานออกมาว่ามีโอกาสที่จะพบอาการข้างเคียงอย่างเช่นการเกิดภาวะลิ่มเลือดจากวัคซีนของเจแอนด์เจ นักลงทุนจึงเกิดคำถามว่าข่าวร้ายนี้จะส่งผลกระทบต่อตัวเลขผลประกอบการในไตรมาสนี้ของบริษัทหรือไม่

สำนักข่าว Wall Street Journal ได้รายงานข้อมูลจากอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค (ACIP-Advisory Committee on Immunization Practice) ภายใต้คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่ายังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะกล่าวหาวัคซีนของเจแอนด์เจได้ว่าจะเกิดผลข้างเคียง ดังนั้นจึงควรอนุญาตให้ฉีดวัคซีนของเจแอนด์เจได้ต่อไป 

นักวิเคราะห์มองว่าหากตัดปัจจัยเสี่ยงเรื่องผลข้างเคียงจากวัคซีนออกไป ธุรกิจอื่นๆ ของเจแอนด์เจก็ยังสามารถทำกำไรได้ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากโควิดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่ต้นปี 2021 หุ้นของเจแอนด์เจปรับตัวขึ้นมาแล้ว 3% มีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $162.24

3. Coinbase

การเติบโตขึ้นของโลกสกุลเงินดิจิทัลในหลายๆ มิติทำให้บริษัทผู้ให้บริการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ‘คอยน์เบส’ (NASDAQ:COIN) ซึ่งเป็นผู้บริการรายใหญ่ของอเมริกาสามารถทำ IPO เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ได้เป็นทางการเมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ปัจจุบันคอยน์เบสสังกัดอยู่บนดัชนีแนสแด็ก มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ $68,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แม้ราคาหุ้นของคอยน์เบสจะย่อตัวลงมาเล็กน้อย แต่ก็ยังสามารถจบสัปดาห์แรกได้ด้วยการปิดบวกCOIN 60 Minute Chart

แม้จะย่อตัวลงมา แต่เมื่อวันศุกร์ที่แล้วหุ้นคอยน์เบสก็ยังสามารถปรับตัวขึ้นได้มากกว่า 6% มีราคาปิดอยู่ที่ $342 อยู่สูงกว่าราคาอ้างอิงที่ $250 มากกว่า 30% และสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลเอาไว้ที่ $429.54 ซึ่งเกิดขึ้นในวันเดียวกันกับที่มีการเปิดตัว เคเน็ต ฮิลล์ นักวิเคราะห์จาก Loop Capital Markets ให้ความเห็นว่า

“ตอนนี้หุ้นของคอยน์เบสกำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนรายย่อยและนักวิเคราะห์สายฟิวเจอร์ริสติค (Futuristic) ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อในสกลุเงินดิจิทัลก็ควรจะมีหุ้นตัวนี้เอาไว้ในพอร์ตการลงทุนของคุณ”

นอกจากนี้เขายังแนะนำให้หุ้นของคอยนห์เบสอยู่ในระดับ “น่าซื้อ” และเปรียบเทียบอนาคตของหุ้นคอยน์เบสเป็นเหมือนรันเวย์ของสนามบินที่ยังมีพื้นที่กว้างขวางพอให้เครื่องบินสามารถทะยานขึ้นได้อีกหลายลำ 

แม้ว่าตัวสกุลเงินดิจิทัลหรือบิทคอยน์จะมีความเสี่ยง แต่นักวิเคราะห์ชื่อดังหลายคนก็ได้เข้าไปซื้อหุ้นคอยน์เบสแล้ว รวมถึงเจ้าของกองทุน ‘ARK’ ชื่อดังอย่างเคธี่ วูดส์ซึ่งเป็นสายฟิวเตอร์ริสติคเต็มตัวก็ไม่พลาดที่จะซื้อหุ้นคอยน์เบสในวงเงิน $352 ล้านเหรียญสหรัฐ 

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย