ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุน
1. 1 เม.ย. การประชุม OPEC
2. 8 เม.ย. รายงานการประชุม FOMC
3. 9-11 เม.ย. การประชุม IMF
4. 15 เม.ย. การประชุมของรัฐมนตรีคลังของยูโรโซน
5. 20 เม.ย. การกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางจีน
6. 20 เม.ย. ผลการสำรวจการให้กู้ยืมเงินของธนาคารพาณิชย์ในยุโรป
7. 22 เม.ย. การกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารยุโรป
8. 27 เม.ย. การกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น
9. 29 เม.ย. การกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ
กลยุทธ์การลงทุนในเดือน เมษายน 2564
เราประเมินกรอบ SET ในเดือน เม.ย. 2564 ไว้ที่ 1,530-1,620 จุด ภาพรวมการลงทุนในเดือน เม.ย. ยังมีโอกาสผันผวนในกรอบ Sideway ถึง Sideway up จากปัจจัยหนุนภายในประเทศ โดยเฉพาะนโยบายรัฐฯ ทั้งการกำหนดนโยบาย EV Car 2035 และภูเก็ต Sand Box (แนะนำลงทุน Core Investment ของเราใน Theme หุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายภาครัฐ EV CAR Thailand 2035 และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศ อย่างไรก็ตามยังมีความเสี่ยงที่ต้องติดตาม ได้แก่
(1) ปัญหาการเมืองระหว่างสหรัฐฯ กับจีน โดยสหรัฐฯ และชาติตะวันตก ออกมาตรการคว่ำบาตรจีน เกี่ยวกับปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนของจีน กรณีชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิม อุยกูร์ในซินเจียง (ติดตามความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น หากมีการยกระดับเป็นการคว่ำบาตรทางการค้า)
(2) ความกังวลต่อวิกฤตค่าเงินลีราของ ประเทศตุรกี จะกระทบค่าเงินของกลุ่มประเทศ Emerging Market และ Frontier Market โดยเฉพาะประเทศที่มีภาพรวมเศรษฐกิจ อ่อนแอ และ
(3) ราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลง จากความกังวลต่อการที่หลายประเทศในยุโรปประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่เพื่อ ควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน รวมไปถึงการที่รัฐบาล เยอรมนีประกาศขยายเวลาการใช้มาตรการล็อกดาวน์ออกไปอีก 1 เดือน ติดตามการประชุม OPEC+ วันที่ 1 เม.ย. หุ้นเด่นในเดือน เม.ย. 2564 เราเลือก AIE NOBLE และ ORI
หุ้นเด่นประจำเดือน
เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (BK:AIEm)
เรามองว่า AIE จะสามารถทำกำไรเพิ่มขึ้นในปี 2564 โดยคาดว่ารายได้รวม จะอยู่ที่ 6,323 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15%YoY และกำไรสุทธิอยู่ที่ 592 ล้าน บาท เติบโต 21.2%YoY โดยมีปัจจัยหนุนจาก (1) การสนับสนุนจากภาครัฐ ที่ปรับให้น้ำมันดีเซล B10 เป็นเกรดมาตรฐานแทน B7 ซึ่งเราคาดจะทำให้ ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มสูงขึ้นราว 18%YoY และ (2) การ จัดการวัตถุดิบและสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีอัตราหมุนเวียนสินค้าที่ เร็วขึ้นที่ 20-30 วัน โดยเราแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายที่ 2.76 บาท อิง PER ที่ 21.85 เท่า (ค่าเฉลี่ย -0.5SD ย้อนหลัง 5 ปีของ GGC PTG UAC และ EA) Upside ที่ 40.8%
โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (BK:NOBLE)
เรายังคงเลือก NOBLE เป็น Monthly อีกหนึ่งเดือน หลังจากแนะนำไป ในช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยประเมินว่าบริษัทยังได้ปัจจัยบวกจาก (1) แนวโน้ม ผลประกอบการปี 64 ที่ยังอยู่ในระดับที่ดี หลังมีการรับรู้รายได้จากโครงการ ที่จะแล้วเสร็จใหม่ ประกอบกับหากมีการเปิดประเทศจะเป็น Upsides ต่อ บริษัท ซึ่งคาดว่ายังมี Pent Up Demand จากกลุ่มลูกค้าต่างชาติเป็น จำนวนมาก โดยบริษัทยังเป็นผู้นำในกลุ่ม Oversea Market (2) แนวโน้ม รายได้ในปี 66 ที่คาดว่าจะปรับตัวก้าวกระโดด โดยเป็นผลจากการรุกเปิด 11 โครงการ มูลค่า 4.51 หมื่นล้านบาท ซึ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีตที่มีการ เปิดเพียง 1-2 โครงการต่อปีและ (3) อัตราเงินปันผลที่อยู่ในระดับสูง 8-10% โดยบริษัทจะมีการจ่ายเงินปันผล 2H63 จำนวน 0.50 บาทต่อหุ้น (XD 10 พ.ค.) และคาดว่าจะมีการจ่ายปันผลในปี 64 จำนวน 0.82 บาทต่อ หุ้น ทำให้เรายังแนะนำ “ซื้อ”
ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (BK:ORI)
เรายังคงชื่นชอบ ORI และเลือกเป็น Top Pick กลุ่มอสังหาฯ โดยคาดว่าผล ประกอบการปี 64 จะฟื้นตัว 18%YoY เป็น 3,131 ล้านบาท โดยหนุนจาก Backlog ที่จะรับรู้เป็นยอดโอนในปี 64 จำนวน 14,600 ล้านบาท Secure เป้าโอนแล้วกว่า 80% ส่วนที่เหลือจะมาจากการขายสต๊อกโครงการที่มีอยู่ รวมทั้งโครงการแนวราบ ที่คาดว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีต่อเนื่องจากปี 63 ขณะที่มอง Upsides จากกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ซึ่งนับว่าบริษัทเป็นหนึ่งใน บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการขายให้ลูกค้าต่างชาติ ใน ส่วนของธุรกิจใหม่ทั้ง Logistic ที่ร่วมมือกับ JWD และธุรกิจ AMC จะเป็น ปัจจัยหนุนผลประกอบการ New S-Curve ใหม่ในอนาคต นอกจากนี้บริษัท ยังมีเงินปันผลในระดับสูง 6-8% ทำให้เรายังแนะนำ “ซื้อ”
ความเสี่ยง
(1) AIE: ความผันผวนของราคาน้ำมันปาล์มดิบและน้ำมันไบโอดีเซล การระบาดของโรคโควิด-19 และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
(2) NOBLE: การระบาดของ COVID-19 รุนแรงกว่าที่ประเมินไว้ ส่งผลกระทบต่อการโอน และการก่อสร้างล่าช้ากว่ากำหนด
(3) ORI: การระบาดของ COVID-19 รุนแรงกว่าที่ประเมินไว้ ส่งผลกระทบต่อการโอน และการก่อสร้างล่าช้ากว่ากำหนด
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities